วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

แม่พระแห่งฮีด


 
        วันที่ 1 พ.ย. 1937  หลังจากเวลาผ่านไป 20 ปีที่แม่พระทรงประจักษ์ที่ฟาติมา (ที่ฟาติมาปี 1917)  แม่พระก็ได้มาประจักษ์แก่เด็ก 4 คนที่หมู่บ้านฮีด ในประเทศเยอรมนี  ในเวลานั้นชาวบ้านในหมู่บ้านฮีดเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของเด็กๆซึ่งเมื่อก่อนเป็นคนซุกซนสนุกสนาน  กลับเป็นคนที่ชอบสวดภาวนาเป็นเวลานานนับชั่วโมงเพื่อรอการประจักษ์มาของแม่พระอีกครั้งหนึ่ง  คุณพ่ออธิการของโบสถ์และบรรดาชาวบ้านไม่ได้เชื่อเรื่องการประจักษ์นี้เป็นเวลานาน  แต่ในที่สุดก็ยอมรับในความจริง  ผู้คนจำนวนมากในเมืองที่อยู่ใกล้ๆต่างพากันมาที่หมู่บ้านฮีด  เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดไป  แต่ขณะนั้นฮิตเลอร์กำลังปกครองเยอรมนีและตำรวจเกสตาโปพยายามหยุดเหตุการณ์นี้  พวกเขาเชื่อว่าเรื่องการประจักษ์นี้เป็นเรื่องเหลวไหล  เกสตาโปพาเด็กไปอยู่ที่โรงพยาบาลบ้าและห้ามการแสวงบุญ  หลายสัปดาห์ต่อมา  เด็กก็ได้รับการปล่อยตัวแต่ยังคงถูกห้ามไปใกล้กับสถานที่ประจักษ์  แต่แม่พระรวมทั้งพระเยซูเจ้าด้วยทรงมาประจักษ์แก่เด็กในสถานที่อื่น
สาส์นของแม่พระที่หมู่บ้านฮีดมีความคล้ายกันกับสาส์นของฟาติมา  แม่พระทรงตรัสแต่เพียงเล็กน้อย  ทรงประจักษ์พร้อมพระเยซูกุมาร ทรงยิ้มให้แก่เด็กๆซึ่งทำให้เด็กเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดีในความงามของพระนาง
แม่พระทรงกล่าวย้ำเกี่ยวกับการสวดภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำระที่น่าสงสาร  เด็กๆเห็นแม่พระครั้งแรกในสุสานระหว่างทางที่พวกเขากำลังเดินไปที่โบสถ์เพื่อรับพระคุณการุณย์สำหรับอุทิศแก่วิญญาณในไฟชำระ  วันที่ 5 เม.ย. 1939  เด็กคนหนึ่งถามแม่พระว่าจะให้เรียกแม่พระในฐานะอะไร  แม่พระตรัสว่า “ในฐานะราชินีแห่งจักรวาลและราชินีของวิญญาณในไฟชำระ”  แม่พระยังทรงขอให้มีการสวดบทเร้าวิงวอนของแม่พระแห่งลอเร็ตโตด้วย
พระเยซูเจ้าทรงเริ่มประจักษ์แก่เด็กคนหนึ่งชื่อ Greta Gansforth  ทรงให้พระดำรัสเตือนที่เศร้าและจริงจัง “มนุษยชาติไม่ยอมฟังวาจาของพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของเรา  เมื่อพระนางทรงประจักษ์ที่ฟาติมาและขอให้มนุษย์สำนึกผิดกลับใจ  เวลานี้เราจึงมาด้วยตัวของเราเองในชั่วโมงสุดท้ายเพื่อเตือนและขอร้องมนุษยชาติ  เวลากระชั้นชิดแล้ว มนุษย์ต้องสำนึกผิดในบาปของพวกเขาและสวดภาวนา  สวดภาวนามากๆเพื่อพระพิโรธของพระเป็นเจ้าจะเบาลง  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  จงสวดสายประคำบ่อยๆ  การสวดสายประคำมีพลังอำนาจมากต่อพระเป็นเจ้า  ความสนุกสนานและความพึงพอใจตามประสาโลกจะต้องถูกเข้มงวดกวดขันยิ่งขึ้น
โดยรอยแผลที่หลั่งโลหิตออกมาในเวลานี้  พระเมตตาจึงได้รับชัยชนะต่อพระยุติธรรมอีกครั้งหนึ่ง  ผู้ซื่อสัตย์ของเราต้องไม่หลับใหลในเวลานี้เหมือนดังเช่นสานุศิษย์ของเราบนภูเขาโอลิเว็ต  พวกเขาควรสวดภาวนาโดยไม่หยุดหย่อนและรับพระคุณที่พวกเขาสามารถรับได้สำหรับตัวเขาเองและสำหรับผู้อื่นด้วย
เหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ถูกเตรียมไว้แล้ว  มันจะเป็นเหตุการณ์ที่น่าตระหนกซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่สร้างโลก  ทุกคนที่อยู่ในช่วงเวลานั้นจะได้รับความทุกข์ลำบากเป็นอันมาก  หลายคนจะเป็นมรณสักขีและจะเป็นเมล็ดพันธุ์สำหรับการฟื้นฟูบูรณะพระศาสนจักร  พวกเขาจะได้รับสิทธิพิเศษในการมีส่วนร่วมกับการถูกจับกุมและการถูกโบยตีของเรา  ในมงกุฎหนามและหนทางแห่งกางเขน
พระนางพรหมจารีย์มารีย์และบรรดาทูตสวรรค์จะเข้าร่วมในระหว่างเหตุการณ์เหล่านี้  นรกมั่นใจว่ามันจะเก็บเกี่ยวผลได้อย่างแน่นอน  แต่เราจะยึดมาจากมัน  หลายคนพูดจาผรุสวาทต่อเราในเวลานี้  แต่ความทุกข์เวทนาเหล่านี้จะมาเหนือมนุษยชาติเพื่อที่พวกเขาจะได้รับการช่วยให้รอด.....
เราจะมาพร้อมด้วยสันติสุขของเรา  โดยอาศัยมีผู้มีความเชื่อเพียงเล็กน้อย  เราจะสร้างอาณาจักรของเรา  อาณาจักรของเราจะมาถึงเหมือนสายฟ้าแลบ....รวดเร็วเกินกว่าที่มนุษยชาติจะตระหนักรู้  เราจะให้แสงพิเศษแก่พวกเขา  สำหรับบางคนแสงนี้จะเป็นพระพร  สำหรับบางคนจะเป็นความมืดมิด  แสงจะมาเหมือนดวงดาวที่นำทางให้แก่นักปราชญ์  มนุษยชาติจะมีประสบการณ์ความรักและฤทธานุภาพของเรา  เราจะแสดงพระเมตตาและพระยุติธรรมของเราแก่พวกเขา  ลูกๆที่รักทั้งหลายของเรา  ชั่วโมงนั้นมาอยู่ใกล้มากแล้ว  จงสวดภาวนาโดยไม่หยุดหย่อนเถิด”   
วันที่ 3 พ.ย. 1940  เด็กๆได้เห็นแม่พระเป็นครั้งสุดท้าย  พระนางประจักษ์แก่พวกเขาในสุสาน  ทรงตรัสว่า “จงเป็นคนดีและปฏิบัติตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า  สวดภาวนาบ่อยๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวดสายประคำ  เวลานี้แม่ขอลาก่อน  ลูกๆของแม่  จนกว่าเราจะได้พบกันในสวรรค์”  เด็กๆร้องว่า “พระแม่  เราขอขอบพระคุณพระแม่”
เป็นเรื่องเข้าใจผิดที่ว่า วาติกัน ปฏิเสธหรือแม้แต่ตำหนิการประจักษ์ที่ฮีด  ขณะที่ยังไม่มีการตัดสินอย่างเป็นทางการในเรื่องเกี่ยวกับการประจักษ์และสาส์น  พระสังฆราช Osnabrück  ได้รับรายงานในทางบวกจากพระสงฆ์สององค์ที่ท่านส่งไปตรวจสอบ  มีการตอบสนองในทางที่ดีของประชาชนและพระสงฆ์ในสังฆมณฑลนั้น  ที่มีต่อเด็กๆผู้ได้รับการประจักษ์ (มีการประกาศห้ามเต้นรำในที่สาธารณะในวันที่ 21 ต.ค. 1945  เพื่อตอบสนองต่อคำเตือนของพระเยซูเจ้า)  พระสงฆ์ที่พระสังฆราชส่งไปประจำโบสถ์ในระยะเริ่มต้นของการประจักษ์ได้ประกาศยืนยันว่า “มีข้อพิสูจน์ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ในความเป็นจริงที่เชื่อถือได้ในการประจักษ์ครั้งนี้”  การแสวงบุญและความศรัทธาต่อแม่พระแห่งฮีด ได้รับอนุญาติให้กระทำได้
วันที่ 13 พ.ค. 1917                        แม่พระทรงประจักษ์ครั้งแรกที่ฟาติมา
วันที่ 1 พ.ย. 1937                          แม่พระทรงประจักษ์ครั้งแรกที่ฮีด  20 ปี หลังจากที่ฟาติมา
วันที่ 1 ก.ย. 1939                           เยอรมนีบุกโปแลนด์  เริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่สอง

------------------------------------------------------------------------------------------

1 ความคิดเห็น:

  1. ความทุกข์เวทนานั้นก็คือ สงครามโลกครั้งที่ 2 มีคนตายประมาณ 75 ล้านคน การฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวยิวด้วยการรมก๊าซ การเบียดเบียนพระศาสนจักร พระสงฆ์ นักบวช ถูกประหารชีวิต ฯลฯ
    แสงพิเศษ อาจหมายถึง พระสันตปาปายอห์นที่ 23 ผู้ทรงประกาศพระสังคยานาวาติกันครั้งที่ 2 และ พระสันตปาปายอห์นปอลที่ 2 ผู้เป็นแบบอย่างแห่งความรักความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ ทั้งสองพระองคืทรงเป็นเหมือนแสงสว่างนำทางให้กับมนุษย์

    ตอบลบ