วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560

แผ่นดินไหวที่อิตาลี-การประจักษ์ของแม่พระ


เมื่อเวลาสามทุ่มของวันจันทร์ที่ 21 ส.ค.2017 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.0 แมกนิจูดที่อิตาลีบนเกาะ อิสเชีย ใกล้กับเมืองเนเปิล  ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนและบ้านเรือนพังเสียหายรวมทั้งโบสถ์แห่งหนึ่งด้วย ผู้เสียชีวิตรายหนึ่งเป็นหญิงชราที่อยู่ในโบสถ์ซึ่งพังถล่มลงมา




เป็นแผ่นดินไหวขนาดไม่ใหญ่นัก  แต่ชื่อของเกาะ อิสเชีย “Ischia” เป็นที่สะดุดตาของเรา  ทำให้ลองค้นหาข่าวและพบว่า ที่นี่มีรายงานว่าแม่พระเคยประจักษ์มาเมื่อไม่กี่ปี่ที่ผ่านมานี้เอง  เราไม่แน่ใจเกี่ยวกับท่าทีของพระศาสนจักรในเรื่องนี้  แต่ได้พบว่าในปี 2014 มีกฤษฏีกาอย่างเป็นทางการให้ศึกษาเรื่องนี้

พฤษภาคมที่ผ่านมานี้  มีการประจักษ์ของแม่พระครั้งหนึ่งที่นี่และมีสาส์นที่เกี่ยวกับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นทั่วโลก (ดูสาส์นทางด้านล่าง) และอีกสาส์นหนึ่งกล่าวว่า “ลูกทั้งหลาย เวลาที่ยากลำบากกำลังรอพวกลูกอยู่ สงครามดูเหมือนกำลังจะใกล้เข้ามาทุกที  การสู้รบอยู่ใกล้แล้ว จงเตรียมตัวให้พร้อมนะลูกทั้งหลาย”

พระนางประจักษ์มาในฐานะ “แม่พระแห่งซาโร”  “Our Lady of Zaro,” ซึ่งสอดคล้องกับสถานที่แห่งหนึ่งในชุมชนแห่งนี้  การประจักษ์เริ่มต้นในวันที่ 26 ก.ค. 1993  เด็กชายท้องถิ่นชื่อ ปอล Paul และพี่ชายของเขาชื่อ ลุยจิ Luigi เริ่มเห็นแม่พระ



ปอลกำลังสวดสายประคำในภาคพระธรรมล้ำลึกแห่งแสงสว่าง  แล้วเขาก็คุกเข่ากับพื้นเพื่อผ่อนคลาย  ทันใดเขาได้เห็นแสงสว่าง  และแม่พระทรงอยู่ในแสงสว่างนั้น

ปอลและลุยจิเป็นสมาชิกในกลุ่มสวดภาวนาของชุมชนและเป็นผู้มีความเชื่อที่เคร่งครัดในศาสนา



หนึ่งปีถัดมาในวันที่ 8 ต.ค. 1994 ครอบครัวที่มีสี่คนและเป็นสมาชิกของกลุ่มสวดภาวนาทั้งหมด  ได้แก่ ปอล   ลุยจิ  เอมม่า และมาเรียนนา  ออกไปเดินเล่นที่ป่าซาโร woods of Zaro  หลังจากทานอาหารกลางวันด้วยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว  พวกเขาไปปีนภูเขาและที่ยอดเขานั้น พวกเขาเห็นก้อนหินสองก้อนซึ่งมีพื้นที่ว่างอยู่ด้านหน้า (บริเวณนั้นส่วนใหญ่เป็นพุ่มไม้หนาทึบ)

พวกเขาพร้อมใจกันสวดสายประคำ  ขณะที่สวดอยู่แม่พระทรงประจักษ์แก่พวกเขา (พวกเขาเรียกพระนางว่า “Mom” หรือ “Mamma”) แม่พระตรัสกับปอลว่า “ที่แห่งนี้เป็นที่ซึ่งได้รับพระพร”  ในตอนเย็นวันเดียวกันนั้น  ในระหว่างที่พวกเขาสวดสายประคำ  แม่พระก็ประจักษ์มาอีก ครั้งนี้แม่พระตรัสกับลุยจิว่า “ซาโรจะเป็นที่แห่งการแสวงบุญ”

วันที่ 14 ต.ค.1994  เอมม่าก็ได้เห็นแม่พระประจักษ์มาในแสงสว่างเจิดจ้า  วันต่อมาคนในกลุ่มนี้ได้กลับไปที่ซาโร  พวกเขาสวดสายประคำแล้วแม่พระก็ทรงประจักษ์แก่ปอล  ลุยจิ  และมาเรียนนา

เมื่อพระสงฆ์ทราบข่าวการประจักษ์  ท่านก็ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด  ท่านอ่านสาส์นซึ่งแม่พระทรงประทานให้เดือนละครั้ง  ท่านห้ามเด็กในการให้สัมภาษณ์หรือเผยแพร่สาส์นนี้แก่สาธารณชน  และพระสังฆราชก็เห็นชอบด้วย

อาจเป็นเพราะการห้ามนี้เอง ตั้งแต่เวลานั้นก็มีเด็กหนุ่มสาวคนอื่นๆได้เห็นแม่พระด้วย และเด็กเหล่านั้นก็เป็ยผู้เผยแพร่สาส์นของแม่พระแทน

เด็กที่เห็นแม่พระในเวลานี้

การสั่งห้ามเด็กไม่ให้พูดเรื่องการประจักษ์  ทำให้มีสาส์นคำทำนายของเหตุการณ์ในวันที่ 11 กันยายน ที่นิวยอร์ก

แต่ภายหลังจากการเสียชีวิตของ Don Franco Patalano คุณพ่อเจ้าอาวาสของโบสถ์ Lacco Ameno ซึ่งท่านได้รับหน้าที่ให้ติดตามเรื่องการประจักษ์นี้  พระสังฆราชก็ได้ยกเลิกคำสั่งที่ห้ามเด็ก (วันที่ 2 ต.ค. 1995)

เว็ปไซต์ซึ่งเกี่ยวกับการประจักษ์นี้เขียนไว้ว่า “แม่พระทรงขอร้องให้สวดสายประคำเพื่อสันติภาพสัปดาห์ละครั้งเป็นเวลา 50 สัปดาห์  และให้สวดในวันพุธ” 



ระหว่างปี 1995 และ 1996 แม่พระและพระเยซูเจ้าได้ตรัสกับเด็กชายอีกคนหนึ่ง  ทรงขอให้สวดสายประคำแห่งการกลับคืนพระชนม์ในการเริ่มต้นของเทศกาลอีสเตอร์  ทรงขอในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการในปี 2011

วันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมานี้เอง  เด็กคนหนึ่งที่เห็นแม่พระกล่าวว่า “ผมเห็นแม่พระ( Mamma )  พระนางสวมอาภรณ์สีขาว  ผ้าคลุมศีรษะสีฟ้ายาวลงมาถึงเท้า และพระนางทรงเท้าเปล่ายืนอยู่บนลูกโลกที่กำลังมีสงคราม  การปฏิวัติ  แผ่นดินไหวและสึนามิ  รู้สึกได้ถึงความเกลียดชังและความทุกข์ยากลำบาก   แม่พระทรงเศร้ามาก  ในมือของพระนางที่สวดภาวนามีสายประคำไข่มุก”



พระนางตรัสว่า “ลูกที่รักทั้งหลาย  สิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้นน่ากลัวและใหญ่โตมาก  และหลายคนจะหันเหออกจากความจริง”

------------------------------------------
(สาส์นวันที่ 26 ก.ค. 2017 )

บ่ายวันนี้แม่พระ( Mamma) ประจักษ์มาในฐานะราชินีและพระมารดาของมนุษย์ทุกคน

แม่พระทรงเศร้ามาก  พระนางทรงสวมอาภรณ์สีกุหลาบและมีผ้าคลุมยาวสีฟ้า  แม่พระทรงสวมมงกุฏสีขาวแห่งแสงสว่างและทรงถือคทาทองคำไว้ในพระหัตถ์  ใต้พระบาทของพระนางเป็นลูกโลกที่มีภาพของสงครามและความรุนแรง

ต่อมาแม่พระทรงนำคทาที่ถือไว้ที่พระหัตถ์ขวาและมงกุฎมาไว้ที่พระอุระของพระนาง  ทรงตีคทาที่พระอุระของพระนางหลายครั้งและทรงร้องว่า

 “จงสรรเสริญพระเยซูคริสตเจ้า

ลูกที่รักทั้งหลาย  แม่มาอยู่ที่นี่ในท่ามกลางพวกลูกอีกครั้ง  ลูกที่รัก  แม่มาอยู่ที่นี่เพื่อความรอดของพวกลูก  แม่มาอยู่ที่นี่เพราะแม่รักพวกลูกซึ่งเป็นลูกของแม่  แม่รักลูกมากยิ่งนักและแม่ปรารถนาจะช่วยลูกให้รอด

ลูกสุดที่รัก  แม่เศร้าใจมาก  แม่กำลังร้องไห้  ลูกเอ๋ย  แม่ร้องไห้เพราะลูกไม่รักแม่

 ลูกทั้งหลาย  แม่ร้องไห้เพราะมีลูกของแม่จำนวนยิ่งทียิ่งมากขึ้นที่หันหลังให้กับความจริงเพื่อไปติดตามสิ่งสวยงามที่หลอกลวงของโลกนี้  แม่ร้องไห้ทุกครั้งที่ลูกทรยศต่อแม่และทรยศต่อองค์พระบุตรสุดที่รักของแม่  แม่ร้องไห้ทุกครั้งที่ลูกติดตามความจริงที่หลอกลวง

ลูกสาวของแม่  โปรดสวดภาวนาพร้อมกัน...(ขณะที่กำลังสวดภาวนาพร้อมกันกับแม่พระ  พระนางทรงแสดงให้ฉันเห็นภาพของ สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน  สงคราม  ความรุนแรง  และอาคารบางส่วนของโบสถ์ที่กำลังพังทลาย  แล้วฉันก็ได้เห็นพระบิดาศักดิ์สิทธิ์  พระสันตปาปาฟรังซิส  ทรงกำลังคุกเข่าเบื้องหน้าพระเยซูเจ้าและทรงสวดภาวนาอย่างจริงจัง

ในที่สุดแม่พระตรัสกับฉันว่า “แม่จะเยียวยารักษาและจุมพิตผู้แสวงบุญของแม่  และแม่ขออวยพรเป็นพิเศษแก่พระสงฆ์ที่นี่”

“ในพระนามของพระบิดา  พระบุตร และพระจิต  อาแมน”

**********************

สาส์นวันที่ 26 ก.ค. ประทานแก่สิโมนา

ฉันเห็นแม่พระ Momma พระนางทรงสวมอาภรณ์สีขาว  บนพระเศียรมีมงกุฎดาวสิบสองดวง  ที่ผ้าคลุมมีจุดทองคำแต้มลงตามความยาวจนถึงที่เท้า   แม่พระทรงถือสายประคำที่ยาวมากซึ่งเป็นสายประคำไข่มุก

 “จงสรรเสริญพระเยซูคริสตเจ้า

ลูกที่รักทั้งหลาย  แม่ยินดีที่ได้เห็นพวกลูกที่นี่ในป่าที่ได้รับพระพรของแม่

ลูกที่รักทั้งหลายของแม่

เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาตั้งคำถามมากมายหรือมาขอบางสิ่งบางอย่าง  เวลานี้เป็นเวลาที่ต้องสวดภาวนา  สวดภาวนาด้วยหัวใจ  ด้วยความจริงใจและด้วยความซื่อสัตย์ที่เต็มเปี่ยมด้วยความรัก

ลูกทั้งหลาย  โลกนี้ถูกปกคลุมด้วยความชั่วร้าย  ความชั่วร้ายล้อมรอบมันและพยายามเอาชนะมัน  จงสวดภาวนาเถิด  ลูกทั้งหลายของแม่  สวดภาวนา

ลูกทั้งหลาย  ในโลกนี้ มีความจำเป็นที่ต้องสวดภาวนา  จงสวดภาวนาเถิดลูก

แม่รักลูกและแม่จะไม่ยอมเหนื่อยล้าในการสวดภาวนาเพื่อลูก

ลูกทั้งหลาย  การสวดภาวนาเพื่อลูกนี้เพื่อทำให้ลูกเข้มแข็ง  เพื่อส่องสว่างจิตใจของลูก  เพื่อเยียวยารักษาลูก  ลูกทั้งหลาย  แม่รักลูก  โปรดยอมให้แม่รักลูกเถิด

เวลานี้แม่จะอวยพรแก่ลูก  ขอขอบใจที่ลูกมาหาแม่”

***************

สาส์นวันที่ 26 มิ.ย. ประทานแก่สิโมนา

“ฉันเห็นแม่พระ  พระนางทรงสวมผ้าคลุมศีรษะสีขาวและทรงสวมมงกุฎดวงดาว  บนบ่าของพระนางเป็นเสื้อคลุมที่ยาวไปถึงเท้า พระนางทรงเท้าเปล่าประทับยืนบนพรมดอกไม้ อาภรณ์ของพระนางเป็นสีกุหลาบ ประดับชายขอบด้วยดิ้นทองคำ  พระนางทรงถือกิ่งกุหลาบ และกลีบกุหลาบตกลงมาตลอดเวลาโดยที่ไม่สูญเสียความสวยงามไปเลย

 “จงสรรเสริญพระเยซูคริสตเจ้า

ลูกที่รักทั้งหลาย  แม่คือดวงดาราแห่งรุ่งอรุณ  แม่มาที่นี่เพื่อชี้หนทางที่ลูกต้องเดินเมื่อลูกเหนื่อยล้า  โดดเดี่ยว  ถูกกดขี่และสับสน  จงเงยหน้ามองเถิด  แม่พร้อมแล้วที่จะชี้หนทาง  พร้อมแล้วที่จะช่วยเหลือลูก  ปลอบประโลมใจลูก  สุดที่รักของแม่  แม่อยู่ข้างๆลูก  และในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของลูก  แม่โอบอุ้มลูกไว้ในอ้อมแขนของแม่เหมือนที่แม่อุ้มพระกุมารน้อยเยซูของแม่

ลูกทั้งหลาย  จงอย่างสิ้นหวัง  จงถือสายประคำศักดิ์สิทธิ์ไว้ในมือและสวดเถิด

ลูกทั้งหลาย  เวลาแห่งความยากลำบากกำลังรอคอยพวกลูก  สงครามอยู่ใกล้เข้ามาทุกที  การสู้รบอยู่ใกล้แล้ว  จงเตรียมตัวให้พร้อมเถิดลูก

จงสวดภาวนา ลูกทั้งหลายของแม่  สวดภาวนาด้วยสายประคำศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นอาวุธ  จงใช้มัน

ลูกทั้งหลาย  ความชั่วร้ายกำลังโกรธเกรี้ยวต่อโลกในเวลานี้  พวกลูกเป็นเปลวไฟแห่งความรักที่กำลังเผาไหม้เพื่อพระเจ้า

ลูกทั้งหลาย  จงสวดภาวนาเพื่อพระศาสนจักรอันเป็นที่รักของแม่...ลูกทั้งหลาย  จงเรียนรู้ที่จะคุกเข่าเบื้องหน้าศีลศักดิ์สิทธิ์สูงสุดที่อยู่บนพระท่าน  และมอบถวายปัญหาทุกอย่างของลูก  ความยากลำบากทุกอย่าง และความต้องการทุกอย่างของลูกที่นั่น

ลูกทั้งหลาย  พระเจ้าทรงรักพวกลูกเป็นอย่างยิ่ง  จงวางใจมอบทุกสิ่งแด่พระองค์  แล้วเมฆหมอกดำมืดทุกอย่างของลูกจะกลับกลายเป็นรังสีแห่งดวงอาทิตย์

แม่รักลูก  โปรดทำให้ตัวลูกเป็นที่รักเถิด  จงยอมให้แม่อุ้มลูกไว้ในอ้อมแขนและปกป้องลูก

เวลานี้แม่จะอวยพรลูก ขอขอบใจที่มาหาแม่

************

สาส์นวันที่ 26 มิ.ย. ประทานแก่ แองเจลลา

บ่ายวันนี้ แม่พระเสด็จมา ทรงสวมอาภรณ์สีขาวรวมทั้งเสื้อคลุมก็เป็นสีขาว  ที่พระอุระมีหัวใจที่เป็นเนื้อและถูกล้อมรอบด้วยหนาม  พระนางสวมมงกุฎราชินี  ที่พระหัตถ์ขวามีสายประคำแห่งแสงที่ยาวลงมาถึงเท้า  ใต้พระบาทของพระนางเป็นสายน้ำยาวมาก  ที่เบื้องขวาของแม่พระมีนักบุญอัครเทวดามีคาแอลยืนอยู่  ลักษณะของท่านเหมือนผู้นำที่ยิ่งใหญ่  ท่านถือหอกยาวไว้ในมือขวาและถือโล่ห์ใหญ่ทีมือซ้าย  แม่พระทรงเศร้ามาก

 “จงสรรเสริญพระเยซูคริสตเจ้า

ลูกที่รักทั้งหลาย  ขอขอบใจลูกที่มาต้อนรับแม่ในวันนี้และตอบสนองเสียงเรียกของแม่

ลูกทั้งหลายของแม่  แม่เศร้าใจมากต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลก

ลูกน้อยทั้งหลาย  แม่รักลูก  แม่รักลูกเป็นอย่างยิ่ง  แต่พวกลูกหลายคนไม่ยอมปฏิบัติตามและไม่ยอมฟังคำแนะนำของแม่ที่แนะนำอย่างสม่ำเสมอ  ลูกน้อยทั้งหลาย  ลูกของแม่จำนวนมากทำให้แม่เป็นทุกข์เสียใจ  และพวกลูกหลายคนก็เศร้าเสียใจไปกับแม่ด้วย

ลูกเอ๋ย  อย่าไปติดตามสิ่งสวยงามที่หลอกลวงของโลกนี้เลย  เจ้าชายแห่งแผ่นดินนี้เตรียมพร้อมแล้วที่จะกำจัดพวกลูกและเตรียมพร้อมที่จะหลอกลวงพวกลูก  แต่แม่ได้บอกให้ลูกรู้อย่างต่อเนื่อง  อย่าถูกมันหลอก  บ่อยครั้งมันจะแสดงให้ลูกเห็นสิ่งที่ตกลงมาอยู่ในเงื้อมมือของมัน

ลูกน้อยทั้งหลาย  จงเพิ่มพลังความเข้มแข็งด้วยการสวดภาวนาและด้วยพิธีมิสซา...และจงให้ตัวของลูกมาอยู่ในอ้อมแขนของแม่

ลูกสุดที่รักทั้งหลาย  สิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้นจะใหญ่โตมาก  และหลายคนจะหันเหออกจากความจริง

 ลูกทั้งหลาย  แม่ขอแนะนำลูก  อย่าไปสนใจในคนที่ให้คำสัญญากับลูกแต่ไม่ปฏิบัติตามคำสัญญานั้น  ทุกวันนี้โลกแปดเปื้อนไปด้วยบาป  ซึ่งพวกลูกแต่ละคนจะสามารถรอดพ้นจากมันได้ด้วยการสวดภาวนาและด้วยความรัก

ลูกน้อยทั้งหลาย  โปรดเป็นพยานของความจริง  ถ้าหากแม่ยังคงมาอยู่ที่นี่ในท่ามกลางพวกลูกก็เพราะแม่ต้องการช่วยลูกให้รอด”

แม่พระทรงขอให้ฉันสวดภาวนาพร้อมกับพระนาง

ในที่สุด  แม่พระทรงอวยพรทุกคน

“ในพระนามของพระบิดา  พระบุตร และพระจิต  อาแมน” 




จาก SPIRITDAILY.COM

3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ26 สิงหาคม 2560 เวลา 12:25

    ติดตามอ่านทุกวันครับ *-*

    ตอบลบ
  2. วันนี้เป็นวันพุธแรก วันพุธที่ 6 กันยายน 2017 ที่ฉันจะสวดภาวนา เพื่อสันติภาพ ตามคำแนะนำของแม่พระแห่งซาโร
    --ข้าแต่แม่พระแห่งซาโร--
    = ช่วยวิงวอนเทอญ.

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ช่วยกันสวดมากๆตามคำแนะนำของแม่พระนะครับ โลกเวลานี้กำลังวิกฤต เกาหลีเหนือมีอาวุธที่ร้ายแรงมาก

      ลบ