“ลุยซาที่รัก, นักบุญทั้งหลายรับใช้เพื่อความดีของจิตวิญญาณ แต่ความทุกข์ทรมานของพวกท่านไม่มีขอบเขต”
[คุณพ่อปีโอ].
ในเวลานั้นคุณพ่อปีโอประสบความยากลำบากอย่างมากเช่นกัน,แต่ท่านกล่าวว่า:“โลกจะเต็มไปด้วยลุยซ่า…โลกในสหัสวรรษที่สามจะได้เห็นแสงสว่างของเธอ” [คุณพ่อปีโอ].
คุณพ่อปีโอส่งคนจำนวนมากไปหาลุยซ่า พิคาเร็ตตา(Luisa Piccarreta) และท่านจะพูดกับประชาชนที่มาจากเมือง Corato ที่ไปหาท่านที่ซานจิโอวานนี รอตตอนโด ว่า:
“พวกคุณมาที่นี่เพื่ออะไร? คุณมีลุยซ่าอยู่แล้ว ไปหาเธอเถอะ”
คนเหล่านั้นสงสัยว่าลุยซ่า พิคาเร็ตตาคือใคร? ลุยซาเป็นวิญญาณที่ซ่อนเร้น ซึ่งดำรงชีวิตอยู่ด้วยศีลมหาสนิทเป็นเวลานานถึง 64 ปี
คุณพ่อปีโอทำนายว่าลุยซ่าจะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในพันปีที่สาม(สหัสวรรษที่สาม)
เมื่อคุณอ่านข้อความต่อไปนี้ คุณจะรู้ว่าเป็นการเปิดเผยเรื่องอะไร!
พระเยซูตรัสกับลุยซา: เล่มที่ 16, 10 กุมภาพันธ์ 1924
“. . . เรามองเห็นในทุกสิ่งทุกอย่าง และเราเห็นว่างานเขียน [36 เล่ม] เหล่านี้มีไว้สำหรับพระศาสนจักรของเราในฐานะดวงอาทิตย์ดวงใหม่ซึ่งจะขึ้นมาในท่ามกลางเธอ และมนุษย์จะถูกดึงดูดโดยแสงที่ส่องสว่างของมัน พวกเขาจะพยายามเปลี่ยนแปลงตนเองให้เป็นเช่นเดียวกับแสงนี้และกลายเป็นชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณและมีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะฉะนั้น,พระศาสนจักรจะฟื้นฟูขึ้นใหม่ พวกเขาจะเปลี่ยนโฉมหน้าของโลก
[ผู้คนทั่วโลกต่างอ่านและปรารถนาจะมีชีวิตอยู่ในพระประสงค์ของพระเจ้า—จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้น การยึดครองของซาตานจะหายไป พระศาสนจักรจะผงาดขึ้นสู่ชัยชนะอันเต็มเปี่ยมของเธอ]
หลักคำสอนตามความประสงค์ของเรานั้นบริสุทธิ์ที่สุด งดงามที่สุด ไม่อยู่ภายใต้เงาของวัตถุสิ่งของหรือผลประโยชน์ใดๆ ไม่ว่าจะในทางเหนือธรรมชาติหรือในระเบียบของธรรมชาติ
เพราะฉะนั้น,เฉกเช่นเดียวกับดวงอาทิตย์ มัน(ข้อความจากหนังสือนี้)จะแทรกซึมในจิตใจมากที่สุด ให้ผลมากที่สุด เป็นที่ต้อนรับและน่าชื่นชมยินดีมากที่สุด และในการที่เป็นแสงสว่าง,มันจะทำให้ตัวมันเองเป็นที่เข้าใจและจะดำเนินไปด้วยตัวของมันเอง
มันจะไม่ถูกสงสัยหรือมีข้อผิดพลาด และถ้าหากมีบางคำซึ่งไม่เป็นที่เข้าใจ นั่นก็เป็นเพราะมันมีแสงที่สว่างมากเกินไป ซึ่งบดบังสติปัญญาของมนุษย์และจะไม่ยอมให้พวกเขาเข้าใจความบริบูรณ์ของความจริงทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม,พวกเขาจะไม่พบคำแม้แต่คำเดียวที่ไม่เป็นความจริง อย่างมากที่สุดก็คือพวกเขาจะไม่สามารถเข้าใจมันได้อย่างเต็มที่
เพราะฉะนั้น,จึงมีแต่ความดีที่เรามองเห็น เราจึงขอให้อย่าละเลยคำใดเลยในข้อความเหล่านี้ คำคำหนึ่ง มีผลอย่างหนึ่ง จุดประสงค์ของเราอุปมาดั่งน้ำค้างที่เป็นประโยชน์ต่อจิตวิญญาณ น้ำค้างมีประโยชน์ต่อต้นไม้หลังจากที่ตากแดดร้อนมาทั้งวัน หรือเหมือนฝนที่เทลงมาหลังจากฤดูแล้งอันยาวนานหลายเดือน
ลูกไม่สามารถเข้าใจถึงความดีทั้งหมด,แสงสว่าง,ความแข็งแกร่งที่มีอยู่ในคำๆเดียว แต่พระเยซูของลูกทรงทราบ และทรงรู้จักผู้ที่มันจะรับใช้และความดีที่มันจะทำให้”
พระศาสนจักรจะได้รับอาหารแห่งสวรรค์นี้ ซึ่งจะทำให้เธอเข้มแข็งและทำให้เธอลุกขึ้นมาอีกครั้งเพื่อไปสู่ชัยชนะอย่างเต็มที่”
* * *
พระเยซูเจ้าข้า! ลูกอธิษฐานภาวนาวอนขอพระหรรษทานสำหรับประชาชนทั้งหมดและทุกประเทศเพื่อที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับพระองค์ในการนมัสการพระองค์ ขอให้เราใช้เวลานั้นในการนมัสการพระเยซูเจ้า ตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า ขอให้พระศาสนจักรก้าวไปสู่ชัยชนะอย่างเต็มที่ด้วยเถิด
สายประคำคืออาวุธของเราและบทภาวนาสายประคำแห่งพระเมตตาก็เช่นเดียวกัน ให้เราระลึกถึงผู้ตาย,คริสตชนที่ถูกเบียดเบียนข่มเหง และสวดภาวนาต่อพระจิตเจ้า
สวดภาวนาเพื่อพระสันตปาปาฟรังซิส พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ บรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์ นักบวช ครอบครัว สวดภาวนาเพื่อทุกคนที่การคำอธิษฐานภาวนาและเพื่อผู้ที่ไม่สวดภาวนา
ขอให้เราพร้อมที่จะพูดว่า "ได้ครับ/ค่ะ" เช่นเดียวกับพระแม่มารีย์เมื่อพระเยซูเจ้าทรงเรียกเราและขอให้หัวใจของเราเต้นเป็นหนึ่งเดียวกัน
นักบุญโยเซฟโปรดภาวนาเพื่อพวกเราด้วยเทอญ🙏
* * *
“จงทำสงครามกับซาตาน ไม่ว่ามันจะมาโดยทางตรงด้วยการให้คำแนะนำที่มุ่งร้ายของมันหรือโดยทางอ้อมผ่านทางโลกและธรรมชาติที่เสื่อมทรามของเรา ก่อให้เกิดความวุ่นวายกับผู้ละทิ้งความเชื่อที่น่าอนาถเหล่านั้น และไม่ต้องกังวลกับการข่มขู่ของมันที่จะทำลายคุณ เพราะมันไม่สามารถทำอะไรกับจิตวิญญาณของคุณซึ่งพระเยซูเจ้าทรงนำมาอยู่ใกล้ชิดพระองค์ และทรงเก็บรักษาไว้ในพระองค์ด้วยวิธีที่ลึกลับ โดยอาศัยพระหรรษทานของพระองค์ จงรื่นเริงเถิด เพราะเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ในอดีตไม่เคยมีสิ่งใดที่ดีต่อจิตวิญญาณของลูกเท่ากับที่เป็นอยู่ในเวลานี้
อย่าคิดไปว่าความทุกข์ทรมานของลูกมีขึ้นเพื่อเป็นการชดใช้สำหรับความผิดของลูก เพราะพระเจ้าให้ลูกประสบความทุกข์เพียงเพื่อจะประดับมงกุฎของลูกด้วยอัญมณีอันล้ำค่าที่พระองค์ทรงตัดสินพระทัยที่จะมอบให้แก่ลูก”
- คุณพ่อปีโอ✞
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น