การสร้างสรรค์ของพระเจ้า

 

ความยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์ของการสร้างสรรค์ของพระเจ้าจากมุมมองของโครงสร้างสถาปัตยกรรม 
 

เพราะความรู้สึกว่าธรรมชาติเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ผู้คนจึงมักไม่สนใจต่อความลึกลับที่ไม่มีที่สิ้นสุดของจักรวาล โดยธรรมชาติแล้วมีกฎเกณฑ์นิรันดร์มากมาย มีการประสานงานอันชาญฉลาด การสร้างสรรค์ของภูมิปัญญาขั้นสูง และศักยภาพที่ไม่อาจจินตนาการได้ อย่างไรก็ตาม ผู้คนต่างก็ยุ่งอยู่กับชีวิตประจำวันธรรมดาๆของตนเอง เช่น การกิน ดื่ม แต่งตัว และแข่งขันเพื่อชื่อเสียงและโชคลาภ พวกเขาละเลยพระพรและความโปรดปรานที่พระผู้สร้างประทานให้โดยเสรีผ่านธรรมชาติอันสวยงาม หรือแม้กระทั่งกลายเป็นคนเนรคุณและวิปริตในความคิด อย่างเช่น ความหลากหลายทางเพศ การทำแท้ง ฯลฯ นี่เป็นเรื่องน่าเศร้าและน่าสมเพชเพียงใด?
 

ดังสุภาษิตที่ว่า สรรพสิ่งเติบโตไปพร้อมกับดวงอาทิตย์ หากไม่มีดวงอาทิตย์ สรรพสิ่งทั้งหลายจะดำรงอยู่และเจริญงอกงามได้อย่างไร? หากไม่มีอากาศซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ชั่วขณะหนึ่ง ชีวิตสัตว์และพืชจะดำรงอยู่ต่อไปได้อย่างไร? เราแสดงความขอบคุณสำหรับของขวัญอันล้ำค่าเหล่านี้และกล่าวขอบคุณพระเจ้าผู้สร้างบ่อยเพียงใด? ผู้คนมักแสดงความขอบคุณต่อผู้ที่ช่วยเหลือพวกเขาให้พ้นจากความยากลำบากและไม่เคยลืมพวกเขาเลย แต่เรามีความรู้สึกขอบคุณและรักพระเจ้าผู้ประทาน "สิ่งจำเป็น" ของชีวิตให้เราอย่างจริงใจหรือไม่?
 

เมื่อเราพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับบ้านที่เราอาศัยอยู่ก่อนอื่นใครก็ตามจะต้องออกแบบพิมพ์เขียวจากนั้นจึงเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างที่เข้ากันตามขนาดที่กำหนด,จ้างช่างฝีมือเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามทฤษฎีสถาปัตยกรรมต่างๆ อย่างเต็มที่ จัดเตรียมเค้าโครงสร้างของท่อน้ำประปาและท่อระบายน้ำและสายไฟฟ้า วัดสัดส่วนของเหล็กเส้นและปูนที่ใช้ในผนังและแรงดันที่ทนได้ให้แน่ใจว่ามีคุณภาพคงที่และยั่งยืนประตูและหน้าต่างสำหรับแสงสว่างข้อกำหนดของห้องครัวและห้องน้ำ ฯลฯ ทุกแง่มุมที่ควรพิจารณาต้องสมบูรณ์โดยไม่มีการละเว้น เพื่อที่เราผู้อาศัยอยู่ที่นี่จะสามารถอยู่และทำงานได้อย่างสงบและพอใจไร้กังวล
 

เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า จักรวาลอันกว้างใหญ่ไม่ได้เรียบง่ายอย่างการสร้างบ้านเลย การพิจารณานั้นซับซ้อนกว่าการออกแบบบ้านเป็นพันเท่า วงโคจรและความเร็วของดาวเคราะห์ทั้งหมดนั้นโคจรไปมาอย่างสลับซับซ้อนและ "แปลกประหลาด" แต่ในกระบวนการเต้นรำเป็นกลุ่มในอวกาศ พวกมันปฏิบัติตามวินัยอย่างเคร่งครัด เคลื่อนไหวแต่ไม่วุ่นวาย มีระเบียบ ไม่เปลี่ยนแปลง และอยู่ร่วมกันอย่างสันติ นี่จะเป็นผลงานชิ้นเอกที่ชาญฉลาดเหนือชั้นซึ่งวางแผนไว้ล่วงหน้าโดยผู้สร้างผู้รอบรู้และทรงอำนาจ หากความเชื่อมโยงอันใดอันหนึ่งผิดพลาด ก็จะส่งผลกระทบต่อสมดุลและความปลอดภัยของ "ผลกระทบโดยรวม" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
 

การดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์โดยสัตว์และการเปลี่ยนออกซิเจนโดยพืชผ่านการสังเคราะห์แสงมีการทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าอุปทานและอุปสงค์ของออกซิเจนและก๊าซคาร์บอนมีความสมดุลกัน โลกหมุนจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออกในขณะที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ และแกนและวงโคจรของโลกจะคงมุม 66°34′ เสมอ ดังนั้นโลกจึงโคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นมุมคงที่เสมอ ทำให้จุดที่แสงแดดส่องถึงพื้นผิวโลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้จึงมี 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ซึ่งตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิง ส่งผลให้มนุษย์จัดการรูปแบบการใช้ชีวิตโดยปลูกพืชในฤดูใบไม้ผลิ จัดการในฤดูร้อน เก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง และเก็บในฤดูหนาว
 

น้ำจะขยายตัวเมื่อได้รับความร้อนและหดตัวเมื่อเย็นลง แต่จะกลับกันเป็นขยายตัวเมื่อได้รับความร้อนและหดตัวเมื่อได้รับความร้อนต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส ทำให้มีน้ำแข็งที่เบากว่าลอยอยู่บนผิวน้ำและรักษาชีวิตในน้ำไว้ได้มากขึ้น วิถีของแมงมุมในการหากินโดยการปั่นใยเพื่อจับยุงและแมลงวันก็เป็นทักษะพิเศษที่พระเจ้าประทานให้ ไม่ใช่ผลจากแรงบันดาลใจที่ฉับพลันของพวกมันเอง เพราะอวัยวะและหน้าที่ของการปั่นไหมล้วนเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ที่ได้มา สีป้องกันของแมลงหลายชนิดที่เปลี่ยนสีเขียว แดง ขาว และเหลืองตามสีของพืชที่มันเกาะอยู่ก็เป็นหน้าที่พิเศษที่พระเจ้าประทานให้เช่นกัน ช่วยให้พวกมันหลีกเลี่ยงศัตรูตามธรรมชาติได้อย่างชาญฉลาด ดวงตาของนกอินทรีสามารถมองเห็นสัตว์เล็กๆ บนพื้นดินได้อย่างชัดเจนที่ความสูงหลายพันเมตร ดวงตาของแมวและนกฮูกยังคงสามารถทำหน้าที่ "สังเกตการณ์" ได้ แม้ในคืนที่มืด... สิ่งที่ดูเหมือนจะขัดกับบรรทัดฐานเหล่านี้ล้วนเป็นอัศจรรย์ของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ ผู้ทรงสามารถสร้างกฎเกณฑ์และเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ได้ เช่นเดียวกับ "กำแพงถึงคาน" และลิฟต์ที่มาแทนที่บันไดซึ่งเป็นที่นิยมในเมืองต่างๆ ในปัจจุบัน
 

เมื่อมองดูตัวเราเอง กล้องที่มีฟังก์ชั่นสุดยอด - ดวงตาของเรา วิทยุที่ไม่ต้องปรับแต่ง - หูของเรา ตัวกรองที่ฟอกอากาศ - จมูกของเรา โรงงานเคมีที่ผลิตพลังงาน - ลำไส้ เครื่องอัดอากาศที่หมุนเวียนเลือด - หัวใจ ทั้งหมดนี้ล้วนมีความแปลกประหลาดและลึกลับอย่างคาดไม่ถึง และหน้าที่ที่เหมาะสมของพวกมันก็เกินกว่าที่มนุษย์จะจินตนาการได้ ยกตัวอย่างเช่น กระเพาะอาหารที่ทำหน้าที่ย่อยอาหาร เหตุผลที่มันสามารถเปลี่ยนอาหารที่มีรสชาติทั้ง 5 รส คือ เปรี้ยว หวาน ขม เผ็ด และเค็ม ให้กลายเป็นอาหารสำหรับมนุษย์ได้นั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะ "กรดในกระเพาะอาหาร" ที่มีหน้าที่ "กัดกร่อน" เป็นพิเศษ แต่ "ทำให้คนอื่นเปรี้ยวเท่านั้น ไม่ใช่ทำให้ตัวเองเปรี้ยว" ผลลัพธ์นี้ช่างยอดเยี่ยมและคาดเดาไม่ได้ แม้แต่ปัสสาวะและอุจจาระเหล่านั้นก็ยังเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการล้างพิษ กำจัดของเสีย และทำความสะอาดขยะ เช่นเดียวกับบทบาทของท่อระบายน้ำในอาคาร ซึ่งพิถีพิถันและใส่ใจอย่างมาก นึกไม่ถึง และคุ้มค่าแก่การพิจารณา
 

ลองคิดดูสิว่าใครกันที่ออกแบบ ผลิต ประกอบ และติดตั้ง "ชิ้นส่วนเครื่องจักร" ที่ซับซ้อนสุดๆ เหล่านี้ในร่างกายของเรา ยิ่งไปกว่านั้น "อุปกรณ์เสริม" ลึกลับและพิเศษเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีคุณภาพน่าเชื่อถือและสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีความแม่นยำ ความไว และความทนทานต่อการสึกหรอที่ล้ำหน้าที่สุดในโลกอีกด้วย "ชิ้นส่วน" ทั้งหมดสามารถใช้งานได้นานหลายทศวรรษหรือหลายร้อยปีโดยไม่มีปัญหาใดๆ และทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบและใกล้ชิดกัน สิ่งที่น่าทึ่งและน่าทึ่งยิ่งกว่าก็คือ "อุปกรณ์เสริม" เหล่านี้ล้วนเป็น "ชิ้นส่วน" ที่มีชีวิตและเติบโต พวกมันมักจะเติบโตจากเล็กไปใหญ่ และจากอ่อนแอไปแข็งแกร่งในลักษณะที่กลมกลืนกันมากตามสัดส่วนที่แน่นอน แต่พวกมันยังคงรักษารูปแบบและการทำงานดั้งเดิมเอาไว้เสมอ นี่เป็นศิลปะที่ครอบคลุมที่ยากมาก วิศวกรที่ออกแบบ "ชิ้นส่วน" เหล่านี้ต้องไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์ เรขาคณิต เคมี แสง กลศาสตร์ การแพทย์ การถ่ายภาพ ดนตรี และความรู้และเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์อื่นๆ เท่านั้น แต่ยังต้องสามารถผลิต ติดตั้ง ประกอบ และประสานงาน "อุปกรณ์เสริม" เหล่านี้ได้ด้วย นักออกแบบ ผู้สร้าง และผู้จัดการที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังคนนี้สามารถเป็นใครได้อีกนอกจากพระเจ้า
 

************************