มีบางคนที่มีความกล้าในเวลาที่สวดภาวนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่เขารู้สึกโกรธหรือผิดหวังในพระเจ้า ในบทสดุดีมีบทที่สวดภาวนาในลักษณะเช่นนี้อยู่จำนวนมาก ตัวอย่างของบางคนในพระคัมภีร์เช่น โมเสส ดาวิด
และโยบ พวกท่านร้องครวญอย่างเจ็บปวดในการสวดภาวนาต่อพระเจ้า พวกท่านแสดงความโกรธความผิดหวัง
ในประวัติของนักบุญคัทรินแห่งเซียนนา ท่านก็เคยทำเช่นนี้ เมื่อมารดาของท่าน – นางมอนนา ลาปา – ได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่คัทรินมั่นใจว่าแม่ของท่านยังไม่พร้อมที่จะตาย ท่านจึงสวดภาวนาเป็นอันมากวอนขอต่อพระเป็นเจ้าให้คืนชีวิตมารดาของท่าน แต่พระเป็นเจ้าไม่ทรงเห็นด้วย แต่คัทรินยังคงเฝ้าวอนขอและยืนกรานอย่างมั่นคง
นี่เป็นเรื่องราวที่นำมาจากหนังสือประวัติของนักบุญคัทรินแห่งเซียนนา
นาง มอนนา ลาปาเสียชีวิตหรือดูเหมือนว่าเสียชีวิตแล้วในสายตาของบรรดาสตรีที่ยืนอยู่รอบๆเตียง นางลาปาปฏิเสธที่จะรับศีลเจิมครั้งสุดท้ายของผู้ใกล้ตาย คัทรินร่ำไห้อยู่กับศพของมารดาและสวดภาวนาเสียงดังว่า
"โอ พระเป็นเจ้าสุดที่รักของลูก นี่หรือคือสิ่งที่พระองค์ทรงสัญญาต่อลูกว่าจะไม่มีใครในบ้านของลูกที่จะรับโทษทรมานในนรก? พระองค์ทรงสัญญาต่อลูกด้วยว่าจะไม่ทรงนำวิญญาณมารดาของลูกไปจากโลกนี้ก่อนที่ท่านจะอยู่ในสถานะพระหรรษทานเสียก่อน และที่นี่ท่านนอนเสียชีวิตอยู่
โดยไม่ได้สารภาพบาปหรือได้รับศีลศักดิ์สิทธิ์
โอ้องค์พระมหาไถ่สุดที่รักของลูก
ลูกวิงวอนต่อพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ โปรดอย่าละทิ้งลูก ลูกจะไม่ไปอยู่แทบพระบาทของพระองค์จนกว่าพระองค์จะคืนมารดาของลูกกลับมาให้ลูก"
บรรดาสตรีที่ยืนอยู่รอบๆเตียงก็ได้เห็นว่านางลาปาค่อยๆกลับฟื้นมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เธอหายใจและเคลื่อนไหวเล็กน้อย...แล้วเธอก็เป็นปกติเหมือนเดิม
(เล่าโดยพระสงฆ์ผู้ฟังแก้บาปของเธอ Fr.
Raimondo
และบันทึกในประวัติของนักบุญคัทรินแห่งเซียนนา โดย Sigrid Undset หน้า 94-95)
เรื่องนี้ทำให้เราคิดถึงเหตุการณ์ในงานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา เมื่อพระมารดาของพระเยซูเจ้าตรัสกับพระเยซูว่า “พวกเขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว”
และดูเหมือนว่าพระเยซูจะแสดงท่าทีว่าไม่ค่อยเต็มพระทัยนัก
พระมารดาทรงมองด้วยสายตาของมารดาเท่านั้นที่ทำได้ซึ่งไม่ต้องการคำตอบปฏิเสธว่า
“ไม่” และเราก็รู้ว่าพระเยซูทรงทำอัศจรรย์เปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่นอย่างดีจำนวนมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น