วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2560

ทำไมมีพระรูปที่หลั่งน้ำตาเกิดขึ้นบ่อยครั้งในศตวรรษนี้


พระรูปแม่พระในโบสถ์น้อยของบ้านพักพระสงฆ์ CMI House ในเมืองกาเซียบัด Ghaziabad (อยู่ใกล้นิวเดลี) ประเทศอินเดีย ได้หลั่งน้ำตาเป็นโลหิตจากดวงตาทั้งสองข้าง  เหตุการณ์เกิดขึ้นสี่ครั้งเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 กรกฏาคม 2012  พระสงฆ์ของโบสถ์แนะนำให้นำพระรูปไปไว้ในโบสถ์แม่พระรับเกียรติขึ้นสวรรค์ (St. Mary's Assumption Church), Mariam Nagar, Ghaziabad

ทำไมมีพระรูปที่หลั่งน้ำตาเกิดขึ้นบ่อยครั้งในศตวรรษนี้

            คำตอบอาจมาจากที่เมืองอะกิตะในญี่ปุ่น

ในปี 1973 ที่นอกเมืองอะกิตะในญี่ปุ่น ซิสเตอร์อักเนส  ซาซากาวา  ได้รับประสบการณ์พิเศษคือได้รับการรักษาอย่างอัศจรรย์และได้รับการเยี่ยมเยือนบ่อยครั้งจากอารักขเทวดาของเธอ  รวมทั้งจากพระมารดาของพระเจ้าด้วย 

ซิสเตอร์อักเนสได้รับรอยแผลเป็นรูปกางเขนบนฝ่ามือของเธอและมีเลือดออกมา

             พระสังฆราชอิโตะกล่าวว่า รอยแผลนั้นสวยงามมากเป็นรูปกางเขน และถ้าให้ซิสเตอร์ยกมือขึ้นจะสามารถมองทะลุรอยแผลบนฝ่ามือของเธอได้เลย และมันหลั่งเลือดออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างมากจนเธอทนไม่ไหวและไม่สามารถเปิดนิ้วมือออกมาได้  แต่มีกลิ่นหอมที่น่ามหัศจรรย์จากรอยแผลและมือ 

อีกเรื่องหนึ่งคือเทวดาได้บอกซิสเตอร์อักเนสว่า  “แม่พระทรงได้รับความเจ็บปวดมากกว่าเธอเสียอีก  ความเจ็บปวดของแม่พระจากรอยแผลนั้นมากกว่าความเจ็บปวดที่เธอได้รับจากรอยแผลของเธอมากนัก”

สัปดาห์ต่อมารอยแผลที่หลั่งเลือดก็ปรากฏขึ้นบนมือขวาของพระรูปแกะสลักของแม่พระที่อยู่ในโบสถ์น้อย ตามที่เทวดาได้บอกกับซิสเตอร์ว่า เลือดที่หลั่งออกมานั้นเป็นหมายสำคัญเพื่อการกลับใจของคนบาป

แม่พระตรัสกับซิสเตอร์อักเนสหลายครั้งว่า “แม่ได้ยับยั้งพระหัตถ์ของพระเจ้าที่จะลงทัณฑ์มนุษย์ด้วยการถวายพระมหาทรมานขององค์พระบุตรของแม่ร่วมกับการอุทิศความทุกข์ของแม่”

เบื้องบนสวรรค์ได้เกิดเหตุการณ์ที่สำคัญขึ้น  พระนางพรหมจารีย์มารีย์ผู้บริสุทธิ์ยิ่งทรงรับความทุกข์ทรมาน (ทางจิตวิญญาณ) เฉกเช่นเดียวกับพระคริสต์ขณะที่อยู่บนกางเขน  ทรงรับความทรมานเพื่อชดเชยบาปของมนุษย์ในยุคนี้ ณ.เบื้องพระพักตร์ของพระบิดา เพื่อระงับพระพิโรธของพระบิดาสวรรค์ไม่ให้ลงโทษทัณฑ์อันร้ายแรงแก่มนุษย์  สวรรค์ต้องสั่นสะท้าน  เมื่อเห็นพระมารดาของพระเจ้าทรงรับทนทรมาน  และไม่อาจเก็บงำเรื่องนี้ได้ จำต้องประกาศให้โลกได้รับรู้  ผ่านทางพระรูปต่างๆที่หลั่งน้ำตาเป็นเลือดและผ่านทางผู้ที่ได้รับรอยแผลทั้งหลาย  เพื่อว่า เมื่อมนุษย์ได้เห็นการหลั่งน้ำตาและเลือดของสิ่งเหล่านี้  อาจทำให้กลับใจหันมาหาพระเจ้า  และพระองค์จะได้ทรงให้อภัยไม่ลงโทษทัณฑ์

ที่ฟาติมา แม่พระตรัสแก่เด็กทั้งสามว่า  “สุดขอบฟ้าปรากฏว่ามืดมิด มีเพียงแสงหนึ่ง...คือดวงหทัยนิรมลของแม่...ในที่สุดจะได้รับชัยชนะ คำพูดของแม่พระนี้นำความหวังมาสู่เรา ดวงหทัยนิรมลของแม่พระที่เปี่ยมด้วยความเมตตาปราณีต่อบรรดาลูกทั้งหลายของพระนางจะทรงทำให้โลกนี้สงบสุข ถึงแม้่จะดูเหมือนเวลายังมาไม่ถึง  แต่ก็ใกล้เข้ามาทุกทึแล้ว  และเมื่อถึงเวลานั้นพระนางพรหมจารีย์มารีย์จะทรงนำโลกเข้าสู่ยุคใหม่ – ยุคแห่งสันติภาพ ( ERA OF PEACE )
---------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น