วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2561

คำพูดของนักบุญเกี่ยวกับสวรรค์



น.โฟสตินา ได้บันทึกประสบการณ์ในการได้เห็นสวรรค์ในไดอารี่ของเธอ  ซึ่งได้รับการรับรองจากพระศาสนจักรแล้วว่าเป็นนิมิตของสวรรค์ - หลังจากที่ น.โฟสตินาได้เห็นนรกแล้ว  พระเยซูเจ้าองค์พระเมตตาได้ประทานบทสวดพระเมตตาเพื่อเป็นอาวุธในสงครามการช่วยวิญญาณให้รอด แต่น่าเศร้าใจที่มีคนเพียงเล็กน้อยที่สนใจและใส่ใจในเรื่องนี้  เธอได้รับนิมิตที่ให้กำลังใจแก่เธอ คือเธอได้เห็นสวรรค์  เธอบันทึกไว้ว่า

“วันนี้ดิฉันได้อยู่ในสวรรค์(ด้วยวิญญาณ)  ดิฉันเห็นความสวยงามสุดพรรณนาและความสุขล้นเกินบรรยายที่รอคอยพวกเราหลังจากที่เราตาย  ดิฉันเห็นสิ่งสร้างทั้งหลายแซ่ซร้องสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่หยุดหย่อน  ดิฉันได้เห็นความสุขอันใหญ่หลวงในพระเป็นเจ้าซึ่งแผ่กระจายไปยังสิ่งสร้างทั้งปวง  ทำให้พวกเขามีความสุขอันล้นเหลือ  แล้วพระเกียรติและคำสรรเสริญซึ่งสะท้อนมาจากความสุขนั้นก็หวนกลับยังต้นกำเนิด  นั่นคือในองค์พระผู้เป็นเจ้า  องค์พระตรีเอกภาพ  พระบิดา  พระบุตร และพระจิต  พระผู้ทรงไม่อาจเข้าใจหรือหยั่งลึกได้  ต้นกำเนิดแห่งความสุขอันล้นเหลือนี้ไม่ทรงมีการเปลี่ยนแปลงหรือเก่าลง  แต่ยังคงใหม่อยู่เสมอ  บันดาลความสุขให้แก่สิ่งสร้างทั้งปวง”

น.อัลฟองโซ มาเรีย เดอ ลิกอรี ได้แบ่งปันเรื่องราวที่ท่านได้ยินมาจากอธิการท่านหนึ่งของคณะเยซูอิตเกี่ยวกับ  ท่านอธิการแต่ละคนที่มาปรากฏแก่ท่านหลังจากที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว  และท่านได้เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่คนแต่ละคนจะได้รับในสวรรค์  เพราะแต่ละคนจะได้รับรางวัลที่ไม่เท่ากัน  แต่อย่างไรก็ตาม  ทุกคนจะมีความพึงพอใจในสิ่งที่ได้รับ

 “ตอนนี้ ผมอยู่ในสวรรค์  พระเจ้าฟิลิปที่ 2 กษัตริย์แห่งสเปน ก็อยู่ในสวรรค์ด้วย  เราทั้งสองมีความสุขมากในรางวัลนิรันดรแห่งสวรรค์นี้  แต่ก็มีความแตกต่างในเราทั้งสอง  ความสุขของผมมีมากกว่าของพระองค์  เพราะมันไม่เหมือนกัน  ในเวลาที่เราอยู่ในโลกนั้น  พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์และผมเป็นเพียงสามัญชน  เราอยู่ห่างไกลกันมากในเวลาที่อยู่ในโลกและภายใต้ท้องฟ้าเดียวกัน  แต่เวลานี้มันกลับกัน  ยิ่งผมอยู่ในระดับต่ำต้อยกว่ากษัตริย์บนโลกมากเพียงใด  ผมยิ่งมีเกียรติมากกว่าในสวรรค์  อย่างไรก็ตาม  เราทั้งสองต่างมีความสุข  และหัวใจของเราก็พึงพอใจอย่างเต็มเปี่ยมในความสุขที่ได้รับ”

น. พระสันตะปาปาเกรโกรี่ผู้ยิ่งใหญ่  ตรัสเกี่ยวกับเอกภาพเหนือธรรมชาติระหว่างสหพันธ์นักบุญในสวรรค์ และสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นความรอบรู้อันไม่มีที่สิ้นสุดของพวกท่าน  - “นอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้แล้ว  พระหรรษทานอันน่ามหัศจรรย์ยิ่งกว่าได้หลั่งพรั่งพรมมายังบรรดานักบุญในสวรรค์  เพราะพวกท่านรอบรู้ไม่เพียงแต่สิ่งท่านต้องการรู้ในโลกนี้เท่านั้น  แต่พวกท่านยังรอบรู้ในสิ่งที่มีมาก่อนและยังไม่เคยเห็นอีกด้วย  ท่านสามารถติดต่อสื่อสารกับสิ่งเหล่านั้นได้อย่างคุ้นเคย  ราวกับว่าพวกท่านเคยอยู่ในอดีตและได้เห็นและรู้ในสิ่งแต่ละสิ่ง  เพราะฉะนั้นพวกท่านจึงได้เห็นบรรดาปิตาจารย์ทั้งหลายในสถานที่บรมสุขนี้  พวกท่านจะได้เห็นปิตาจารย์ด้วยสายตา(แห่งวิญญาณ)  และได้สนทนากับแต่ละท่าน  การได้เห็นในแสงสว่างแห่งสวรรค์เป็นสิ่งธรรมดา  ดูเถิด  พระเป็นเจ้าทรงอยู่ที่นั่นและไม่มีสิ่งใดที่ท่านจะไม่รู้  เพราะพวกท่านได้รู้จักกับพระองค์พระผู้ทรงรอบรู้ทุกสิ่ง”

นักบุญองค์อื่นๆก็ได้รับนิมิตและให้คำอธิบายเกี่ยวกับสวรรค์ดังนี้

น. ออกัสติน “ที่นั่น  ความดีต่างๆจะล้อมรอบตัวเราอย่างเป็นระเบียบจนเราไม่ปรารถนาสิ่งใดอีกนอกจากการได้อยู่ที่นั่นชั่วนิรันดร”

น.ฟิลิป เรนี“ถ้าเพียงแต่เราได้ไปอยู่ในสวรรค์  คำพูดง่ายๆและแสนอ่อนหว่านที่เราจะพูดกับเหล่าเทวดาและนักบุญเมื่ออยู่ที่นั่นก็คือ “ศักดิ์สิทธิ์ ,ศักดิ์สิทธิ์,ศักดิ์สิทธิ์”

น. อังเซล์ม แห่ง แคนเตอร์เบอรี่“ผู้ที่อยู่ในสวรรค์ไม่ปรารถนาสิ่งใดนอกจากน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า  และความปรารถนาของผู้หนึ่งก็จะเป็นความปรารถนาของทุกคนด้วย  และความปรารถนาของทุกคนก็จะเป็นความปรารถนาของพระเป็นเจ้าด้วยเช่นเดียวกัน”

น. ยอห์นมารีย์ เวียนเนย์“โอ พี่น้องสัตบุรุษที่รักของพ่อ  ให้พวกเราปรารถนาที่จะไปสวรรค์กันเถิด  ความสุขมากสักเพียงไรที่เราจะได้รู้สึก  ถ้าหากทุกคนในเขตของโบสถ์นี้กลับใจ  เราทุกคนจะได้ไปที่นั่นเป็นขบวนแถวโดยมีพระสงฆ์ประจำโบสถ์นำหน้าขบวน...พวกเราต้องไปสวรรค์ให้ได้”

น. แบร์นาแด๊ต ซูบีรุส “มงกุฎของดิฉันในสวรรค์จะส่องแสงด้วยความบริสุทธิ์  และบุปผชาติจะส่องสว่างเหมือนดวงอาทิตย์  การพลีกรรมเป็นบุปผชาติที่พระเยซูเจ้าและแม่พระทรงเลือก”

น. โทมัส มอร์“โลกมีแต่ความเศร้าที่สวรรค์ไม่อาจเยียวยารักษาได้”

สวรรค์เป็นสถานที่อันมหัศจรรย์  และพวกเราทุกคนต้องพยายามไปให้ถึงที่นั่น  คำพูดที่เกี่ยวกับสวรรค์ที่น่าประทับใจของ น.เทเรซาแห่งลิซิเออร์ หรือ “ดอกไม้น้อย” คงให้กำลังใจแก่เรา  เธอพูดถึงความสง่ารุ่งเรืองที่ปรากฏอยู่ในสวรรค์  นั่นเป็นเพราะสวรรค์และพระเป็นเจ้าพบว่าบรรดาลูกๆทั้งหลายของพระองค์คือความปรารถนาอันไม่สิ้นสุดของพระองค์  “องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราไม่ได้เสด็จลงมาจากสวรรค์ทุกๆวันเพียงเพื่อมาอยู่ในตู้ศีลทองคำเท่านั้น  พระองค์เสด็จมาเพื่อค้นหาสวรรค์อีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่รักของพระองค์มากยิ่งกว่า – นั่นก็คือมนุษย์ผู้เป็นสวรรค์แห่งวิญญาณ – เป็นสิ่งสร้างในภาพลักษณ์ของพระองค์เอง  เป็นพระวิหารที่มีชีวิตแห่งพระตรีเอกภาพ”
 
**************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น