วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2561

นักบุญมาร์กาเร็ตแห่งอันติโอค

 

เรื่องราวของนักบุญมาร์กาเร็ตแห่งอันติโอคอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเขียนคาทอลิก J.R.R. Tolkien.
 
ในขณะที่ซาตานและลูกน้องของเขามักจะแสดงออกอย่างหยิ่งผยอง มันยกตัวเองด้วยการปรากฏตัวเหมือนศัตรูที่ไม่อาจเอาชนะได้ แท้จริงแล้วพวกมันกลับอ่อนแอเมื่ออยู่ต่อหน้าความบริสุทธิ์ความดีและฤทธานุภาพแห่งสวรรค์ แม้แต่ผู้ที่เป็นเพียงสาววัยรุ่นก็สามารถเอาชนะซาตานได้ โดยอาศัยอำนาจของพระเจ้าขับไล่มันกลับไปสู่ส่วนที่ลึกที่สุดของนรก
 
กรณีดังกล่าวนี้เกิดกับนักบุญมาร์กาเร็ตแห่งอันติโอคผู้ศักดิ์สิทธิ์และศรัทธาในพระเจ้า เธอมีอายุเพียง 15 ปี มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 4 บิดาของเธอเป็นนักบวชนอกศาสนา แต่เธอได้รับการเลี้ยงดูจากพี่เลี้ยงที่เป็นคริสตชนซึ่งสอนเธอในเรื่องราวของพระวรสาร มาร์กาเร็ตถวายความบริสุทธิ์ของเธอแด่พระเจ้าตั้งแต่ในวัยเด็กและดำเนินชีวิตด้วยความศรัทธาในการสวดภาวนา
 
หลังจากปฏิเสธข้อเสนอของข้าหลวงโรมันเพื่อให้เธอละทิ้งพระเจ้าเที่ยงแท้ เธอถูกจำคุกและถูกทรมาน ในระหว่างการถูกจำคุกครั้งนี้ปีศาจร้ายตนหนึ่งได้มาลองพยายามเอาชนะจิตใจของเธอโดยใช้อำนาจและความน่ากลัวของมัน
 
ตามตำนานจากหนังสือ Golden Legend มาร์กาเร็ต "สวดอธิษฐานต่อพระเจ้า” ให้เธอเห็นศัตรูที่กำลังต่อสู้แล้วมังกรที่น่ากลัวก็ปรากฏตัวขึ้น แต่เมื่อสัตว์ร้ายมาหาเธอเพื่อกัดกินเธอ เธอได้ทำเครื่องหมายกางเขนและมันก็หายไป หรือจากตำนานอื่นเล่าว่า มังกรก็อ้าปากของมันเหนือศีรษะของมาร์กาเร็ต และแลบลิ้นออกมาจนถึงใต้ฝ่าเท้าของเธอและกลืนเธอเข้าไปในท้อง แต่ขณะที่มันกำลังพยายามที่จะย่อยเธอ เธอได้ป้องกันตัวเองด้วยเครื่องหมายกางเขนและด้วยอำนาจแห่งกางเขน เจ้ามังกรเปิดปากออกและคายหญิงพรหมจารีย์โดยที่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บ
 
ภายหลังปีศาจกลับมาอีกครั้ง คราวนี้มันมาในรูปแบบของชายคนหนึ่ง แต่มาร์กาเร็ตไม่หลงกลมันและความสามารถเหนือธรรมชาติของเธอในการเอาชนะปีศาจกลายเป็นที่มาแห่งความอัปยศของเจ้าปีศาจร้าย
 
เธอเห็นมันและเริ่มสวดภาวนา และเมื่อเธอลุกขึ้น เจ้าปีศาจก็เดินเข้ามาจับมือเธอและพูดว่า "ขอให้ทุกอย่างที่เธอทำนั้นใช้สำหรับเธอเท่านั้นเถอะ และปล่อยให้ฉันเป็นอย่างที่เป็น!" แต่เธอจับหัวของมันไว้ , ผลักมันลงไปที่พื้น ใช้เท้าเหยียบหัวของมันและพูดว่า "เจ้ายังคงโกหกอยู่ได้ เจ้าคือปีศาจที่อยู่ภายใต้เท้าของสตรีคนหนึ่ง!" ปีศาจร้องออกมาว่า: "โอ มากาเร็ตผู้ได้รับพระพร เจ้าได้เฆี่ยนตีข้า! ถ้าข้าถูกเฆี่ยนตีโดยชายหนุ่ม ข้าคงจะไม่แยแส แต่นี่ข้าถูกเฆี่ยนตีโดยหญิงสาวที่อ่อนโยน ... ! และข้ารู้สึกแย่ยิ่งขึ้นไปอีกเพราะพ่อและแม่ของเธอเป็นเพื่อนของข้า! "
 
เรื่องนี้น่าสนใจนะ เรื่องที่น่าขนลุกนี้อาจเป็นที่มาของแรงบันดาลใจสำหรับนักเขียนคาทอลิก J.R.R. Tolkien ในการเขียนฉากหนึ่งที่น่าจดจำที่สุดของนวนิยาย The Lord of the Rings ในการรบครั้งสุดท้ายของ The Return of the King นักรบที่สวมเสื้อคลุมเข้าหาสัตว์ร้ายเหมือนปีศาจ (ที่เรียกว่า " Black Captain " ซึ่งกำลังขี่สัตว์มีปีกชนิดหนึ่งคล้ายกับมังกร
 
เจ้ามังกรพูดว่า [Demon-like creature] “ขัดขวางฉันรึ? เจ้าคนโง่ ไม่มีมนุษย์ที่มีชีวิตคนใดจะขัดขวางฉันได้!”
 
นักรบตอบ[Warrior] “แต่ข้าไม่ใช่ผู้ชาย! แกกำลังมองที่ผู้หญิงคนหนึ่ง ข้าคือ Éowyn ข้าเป็นลูกสาวของ Eomund แกกำลังยืนอยู่ระหว่างข้าและเจ้านายซึ่งเป็นญาติของข้า จงไปให้พ้นซะ ถ้าแกไม่อยากตาย! ข้าจะเฆี่ยนแกให้แหลกถ้าแกแตะต้องเขา [Théoden]”
 
... ด้วยความรวดเร็วและด้วยความชำนาญอันร้ายกาจ คอของเจ้ามังกรถูกเหยียดออก Éowyn หักคอของมันและโยนหัวของมันเหมือนก้อนหิน เธอพุ่งตรงไปที่ร่างอันใหญ่โตซึ่งล้มลง เธอทำลายปีกที่แผ่ออกของมัน, ทุ่มมันลงบนโลก; เมื่อมันตกลงสู่พื้นโลก เงาของมันก็หายไป แสงสาดส่องมาบนร่างของเธอและผมของเธอก็ส่องสว่างในยามพระอาทิตย์ขึ้น
 
และด้วยความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ จาก Merry เพื่อนของเธอ Eowyn ได้ตะหวัดดาบเข้าที่ใบหน้าของ Black Captain โดยตรง ส่งผลให้วิญญาณอันมืดมิดของมันสูญหายไปจาก Middle-Earth
 
Tolkien เป็นนักวิชาการในยุคกลาง เขามีความคุ้นเคยกับตำราเช่น Golden Legend นักเขียนอีกผู้หนึ่ง Judy Ann Ford ได้ยืนยันเรื่องนี้ในบทความเรียงของหนังสือ Tolkien and the Study of His Sources. ความคล้ายคลึงกันระหว่างเรื่องราวตอนนี้เป็นที่โดดเด่นและมีบางคนวิจารณ์ว่า Tolkien ได้รับแรงบันดาลใจจาก St. Margaret of Antioch เมื่อเขียนเรื่องนี้
 
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเรื่องนี้จะเน้นไปที่จุดอ่อนของเจ้าปีศาจเมื่อเผชิญหน้ากับความจริงความงามและความดี เป็นการยืนยันความจริงที่ว่าพระเจ้าทรงมีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือกว่าเจ้าปีศาจทั้งหมด ไม่ว่ามันจะน่ากลัวหรือมีพลังมากเพียงไรก็ตาม

**************************************

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น