สาเหตุของความกลัวตาย

 

การพิจารณาไตร่ตรองโดยนักบุญซีเปรียน

ความรักโลก - สาเหตุแห่งความกลัวตาย

นักบุญซีเปรียน ช่วยให้เราพิจารณาไตร่ตรองเกี่ยวกับความปรารถนาของมนุษย์ที่จะเป็นอิสระจากการยึดติดกับโลกนี้และหันมายึดมั่นในพระเจ้า สิ่งนี้ควรเป็นความสำคัญอันดับแรกในชีวิตของเรา

นักบุญซีเปรียนอ้างอิงถึงบทจดหมายของนักบุญยากอบและยอห์น

“ท่านที่ไม่ซื่อสัตย์ ท่านไม่รู้หรือว่าการเป็นมิตรกับโลกคือการเป็นศัตรูกับพระเจ้า ฉะนั้นผู้ใดที่ต้องการเป็นมิตรกับโลก ก็ตั้งตนเป็นศัตรูกับพระเจ้า…จงเข้าใกล้พระเจ้าและพระองค์จะเสด็จมาใกล้ท่าน คนบาปทั้งหลาย จงล้างมือให้สะอาด คนใจโลเลทั้งหลาย จงทำใจให้บริสุทธิ์เถิด” (ยากอบ 4: 4,8)

องค์พระเยซูเจ้าตรัสไว้ก่อนแล้วว่า

“ไม่มีใครเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เขาจะชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่ง เขาจะจงรักภักดีต่อนายคนหนึ่งและจะดูหมิ่นนายอีกคนหนึ่ง ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้” (มัทธิว 6:24) และนักบุญยอห์นกล่าวเสริมว่า

“จงอย่ารักโลก และสิ่งที่อยู่ในโลกเลย ถ้าผู้ใดรักโลก ความรักของพระบิดาก็ไม่อยู่ในตัวเขา เพราะทุกสิ่งที่อยู่ในโลก ได้แก่ ความมัวเมาในโลกีย์ ความโลภอยากได้ทุกสิ่ง และความหยิ่งทะนงโอ้อวดในทรัพย์สมบัติ ล้วนไม่ได้มาจากพระบิดา แต่มาจากโลกทั้งสิ้น และโลกพร้อมกับความมัวเมาในโลกีย์ของโลกนั้น กำลังผ่านพ้นไป แต่ผู้ที่ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า จะดำรงอยู่ตลอดนิรันดร” (1 ยอห์น 2: 15-17)

ข้อความดังกล่าวอาจทำให้เรากังวลใจ เพราะเป็นการบอกถึงความชั่วช้าของโลก และเราควรอยู่ให้ห่างไกลจากสิ่งเหล่านั้น แต่ใครเล่าที่สามารถพูดได้อย่างแท้จริงว่าไม่มีความรักต่อโลก?

คนที่ไม่ซื่อสัตย์ที่มีใจยึดติดกับโลกมากกว่ายึดติดกับพระผู้สร้างจะต้องถูกสาปแช่งอย่างแน่นอน และความรักในสิ่งที่เป็นความดี รักในความจริง และสิ่งดีงามนั้นก็เป็นสิ่งที่เหมาะสม นักบุญเปาโลได้กล่าวถึงสิ่งเหล่านี้ “พระเจ้าทรงสร้างอาหารเหล่านี้ให้ผู้ที่เชื่อและรู้ความจริงได้บริโภคด้วยความสำนึกในพระคุณ ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างเป็นสิ่งที่ดี และเราไม่ควรตัดสิ่งใดออกไป แต่ต้องรับด้วยความสำนึกในพระคุณ พระวาจาของพระเจ้าและการอธิษฐานทำให้สิ่งนั้นศักดิ์สิทธิ์” (1 ทิโมธี 4:3-5).

พวกเราส่วนใหญ่อาจยังลังเลใจที่จะทำตามข้อความชี้แนะเหล่านี้ เนื่องจากเรารู้ว่าความไม่ซื่อสัตย์และความรักโลกยังคงมีอยู่มากมายในจิตวิญญาณของเรา อย่างไรก็ตาม, เราก็มีความรักต่อพระเจ้าในจิตวิญญาณด้วยเช่นกัน และด้วยความรักนี้ต้องทำให้ความมัวเมาของโลกที่อยู่ในจิตใจของเราต้องยอมให้กับความดี, ความจริงและคุณธรรม

พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถทำให้เราเป็นอิสระได้ และบางคนก็ได้รับพระพรให้สามารถเอาชนะความอ่อนแอของจิตใจจนสามารถหลุดพ้นจากการยึดติดโลกนี้ได้ พวกเราส่วนใหญ่ยังไม่เป็นอิสระอย่างสิ้นเชิงจากความมัวเมาของโลกนี้ จนกระทั่งพระเจ้าทรงใช้วิธี “ความแห้งแล้งของจิตวิญญาณ” เพื่อปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระ เราค่อยๆตายไปจากโลกนี้อย่างช้าๆ เราค่อยๆมีความชำนาญ , ความเข้มแข็งมากขึ้นตามอายุของเรา เมื่อถึงวัยชรา, เราก็บอกลาเพื่อนเก่า, คู่รัก, หรือแม้แต่บ้านของเราเอง สายตา, การได้ยิน, ฟันและสุขภาพทั่วไปของเราเริ่มเสื่อมลงจนถึงกับหมดสิ้นไป แล้วภาวะการณ์ที่ซับซ้อนก็เริ่มต้น

ผู้ที่มีความเชื่อ (พระสงฆ์ที่มีอายุมาก, สมาชิกในครอบครัวของบางคน) จะเริ่มตระหนักชัดเจนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตไม่ได้อยู่ในโลกนี้ สมบัติที่แท้จริงของเราอยู่ในสวรรค์และอยู่กับพระเจ้า ความปรารถนาสิ่งที่อยู่เบื้องบนทวีมากขึ้น ความมัวเมาของโลกในจิตใจของผู้ที่มีความเชื่อจะตายไปอย่างช้าๆ เมื่อเราปล่อยให้พระเจ้าทำงานในตัวของเรา

แต่ในบรรดาคนที่มีความเชื่อหลายคน ก็ยังมีจำนวนไม่น้อยที่ยังต่อต้านการทำงานของพระเจ้า คาดหวังได้เลยว่าพวกเขาจะกลัวความตายซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ พวกเขาปฏิเสธและต่อต้านสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อพยุงชีวิตเป็นสิ่งลวงตาทำให้เราคิดว่าเราจะสามารถอยู่บนโลกนี้ได้ต่อไป และบางคนก็ยึดเกาะไว้จนแน่น ความกลัวตายเป็นธรรมชาติทำให้เกิดความหวาดกลัว อันมีรากฐานมาจากการไม่มีความเชื่อและไม่ยึดมั่นในพระเจ้า

และต่อไปนี้คือการพิจารณาไตร่ตรองของนักบุญซีเปรียน:

เป็นการไร้เหตุผลที่สุด ที่เราสวดภาวนาต่อพระเจ้าว่า ขอให้พระประสงค์ของพระองค์จงสำเร็จไป แต่เราก็ไม่เชื่อฟังคำภาวนานี้ซึ่งเรียกร้องเราให้ออกจากโลกนี้!

แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เรากลับดิ้นรนและต่อต้าน(ความตาย) เหมือนทาสที่เอาแต่ใจและถูกนำไปอยู่เบื้องพระพักตร์พระเจ้าด้วยความเศร้าโศกและคร่ำครวญ ถึงแม้จะไม่ยินยอมที่จะออกจากโลกนี้ไป แต่ก็จำใจต้องไป

และถึงกระนั้น, เราก็ยังคาดหวังว่าจะได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากพระองค์ พระผู้ซึ่งเราต่อต้านพระประสงค์ของพระองค์ ! แล้วทำไมเราจึงอธิษฐานขอให้อาณาจักรสวรรค์จงมาถึงเล่า ถ้าหากโลกนี้ทำให้เราพอใจ? อะไรคือจุดประสงค์ของการสวดภาวนา เพื่อให้พระอาณาจักรจงมาถึง ถ้าเราอยากจะรับใช้ปีศาจที่โลกนี้ แทนที่จะครองราชย์ร่วมกับพระคริสต์

โลกเกลียดชังคริสตชน, ดังนั้นทำไมท่านจึงมอบความรักของท่านแก่มัน แทนที่จะติดตามพระคริสต์ผู้ทรงรักท่านและไถ่กู้ท่านเล่า?

ท่านยอห์นได้กระตุ้นเร่งเร้าในจดหมายของท่าน ท่านบอกเราไม่ให้รักโลกโดยการยอมทำตามความปรารถนาฝ่ายต่ำในตัวเรา อย่ามอบความรักของท่านแก่โลกนี้หรือสิ่งที่อยู่ในโลกนี้, ท่านกล่าวเตือน มนุษย์ไม่สามารถรักพระบิดาและรักโลกพร้อมกันได้ ทุกสิ่งที่โลกเสนอให้คือความมัวเมาทางเนื้อหนัง, ความมัวเมาของดวงตา, และความทะเยอทะยานทางโลก โลกและสิ่งล่อใจของมันจะล่วงพ้นไป แต่คนที่ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าจะมีชีวิตนิรันดร

พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า, ในส่วนของเรา, เราต้องมีจิตใจที่แน่วแน่, มีความเชื่อที่มั่นคงและมีความกล้าหาญพร้อมที่จะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม

จงขับไล่ความกลัวตายออกไปเสีย และคิดถึงชีวิตนิรันดรที่จะตามมา นั่นจะแสดงให้ผู้คนทั้งหลายเห็นว่าเราดำเนินชีวิตตามความเชื่อของเราอย่างแท้จริง

ท่านที่รัก, เราไม่ควรลืมว่าเราได้ละทิ้งโลกแล้ว และเวลานี้เรามีชีวิตอยู่ที่นี่ในฐานะคนต่างด้าวอยู่ชั่วระยะหนึ่ง เมื่อวันแห่งการกลับบ้านของเรามาถึงก็จะเป็นวันสิ้นสุดลงของการถูกเนรเทศวันแห่งการปลดปล่อยเราให้พ้นจากพันธะของโลก และทำให้เรากลับคืนสู่สวรรค์, สู่อาณาจักรที่เราควรจะโอบกอดไว้

มีใครบ้างที่อยู่ในดินแดนต่างถิ่นจะไม่ต้องการกลับไปประเทศของตนให้เร็วที่สุด? เรามองไปที่สวรรค์ในฐานะเป็นประเทศของเรา และผู้คนจำนวนมากผู้เป็นที่รักของเรากำลังรอคอยเราอยู่ที่นั่น ผู้คนที่มากมายนับไม่ถ้วน, พ่อแม่, พี่น้องและลูกๆของเรา กำลังรอคอยให้เรามาเข้าร่วมกับพวกเขา มั่นใจได้ว่าพวกเขาได้รับการช่วยให้รอดแล้ว แต่พวกเขายังคงคิดถึงเรา จะมีความสุขสักเพียงใดสำหรับพวกเขาและพวกเราที่จะได้พบกันอีกและสวมกอดกันและกัน! โอ ความชื่นชมยินดีแห่งอาณาจักรสวรรค์ที่ซึ่งไม่มีความกลัวความตาย! โอ ความสุขสูงสุดและไม่รู้หมดสิ้นของชีวิตนิรันดร์!

บรรดาอัครสาวกที่สง่ารุ่งโรจน์อยู่ที่นั่น, ที่นั่นมีบรรดาประกาศกอยู่รวมกัน, ที่นั่นมีกองทัพของมรณะสักขีนับไม่ถ้วนสวมมงกุฎแห่งชัยชนะอันรุ่งโรจน์ของพวกเขาที่ได้รับจากการต่อสู้และในความตายของพวกท่าน, ที่นั่น มีชัยชนะของบรรดาหญิงพรหมจรรย์ที่ได้ปราบจิตใจและร่างกายของตนเองด้วยความแข็งแกร่งของคุณธรรม, ที่นั่นความเมตตาจะได้รับรางวัลตอบแทน, ผู้ที่ปฏิบัติตามพระบัญญัติแห่งความยุติธรรมโดยการให้ทานแก่คนยากจน, ในการเชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้าพวกเขาเปลี่ยนทรัพย์สมบัติทางโลกให้เป็นสมบัติของสวรรค์อันล้ำเลิศ

พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า, ขอให้เราปรารถนาที่จะไปอยู่ร่วมกับพวกเขาโดยเร็วที่สุดเถิด ขอพระเจ้าทรงเห็นความปรารถนาของเรา, ขอให้พระคริสต์ทรงเห็นสิ่งนี้ที่เกิดขึ้นจากความเชื่อ เพราะพระองค์จะทรงประทานรางวัลแห่งความรักของพระองค์อย่างอุดมบริบูรณ์ให้แก่ผู้ที่ปรารถนาพระองค์ด้วยสิ้นสุดจิตใจ (Treatise on Mortality: Cap 18:24, 26: CSEL 3, 308, 312-314). อาแมน

จงจดจำถึงความจริงสุดท้ายสี่ประการ นั่นคือ ความตาย, การพิพากษา, สวรรค์และนรก จงเตรียมตัวให้พร้อมที่จะพบกับพระเจ้า และไปหาพระองค์ด้วยความยินดีและมั่นใจ จงเรียกหาพระองค์ผู้ที่ทรงสร้างท่านมาเพื่อพระองค์ ความตายจะมาถึงอย่างแน่นอน ทำไมไม่ให้มันมาพบว่าท่านมีความสุข, มีชัยชนะและมีความมั่นใจ และกระหายที่จะอยากไปพบพระเจ้าเล่า?

*****************************