เราจะให้เจ้า(ซาตาน) และสตรีผู้นี้เป็นศัตรูกัน
ทั้งพงศ์พันธุ์ของเจ้าและพงศ์พันธุ์ของนางด้วย
สตรีและบุตรของนางจะเหยียบหัวของเจ้าจนบี้แบน
------------------------------------
การวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์
1.
Constellation กลุ่มดาว เมื่อโยงเส้นของดวงดาวที่ปรากฏบนผืนผ้า เราจะเห็นว่าเป็นกลุ่มดาวราศีต่างๆบนท้องฟ้า
กลุ่มดาวที่ปรากฏในแต่ละบริเวณของผ้าทิลมา มีความหมายซ่อนอยู่
บนพระเศียรของแม่พระเห็นกลุ่มดาวเป็นรุปวงกลมเรียกกลุ่มดาวนี้ว่า
Corona Borealis
หรือกลุ่มดาวมงกุฏเหนือ พระนางทรงสวมมงกุฎดาว พระธรรมวิวรณ์เขียนว่า สตรีนั้น "สวมมงกุฏดาวสิบสองดวงประดับศีรษะ" |
 |
บนพระอุระของพระนางเป็นกลุ่มดาว virgo
(virgin หญิงพรหมจารีย์)
พระนางทรงเป็นพรหมจารีย์ |
 |
บนพระครรภ์ของพระนางเป็นกลุ่มดาว Leo กลุ่มดาวสิงโต ในพระธรรมเก่ากล่าวถึงสิงห์แห่งยูดา และในพระธรรมวิวรณ์เรียกพระคริสตเจ้าว่า สิงห์แห่งยูดา เช่นกัน
|
 |
บนเข่าของแม่พระเป็นกลุ่มดาว Gemini ดาวคนคู่
ยังคงตีความหมายไม่ได้ว่าหมายถึงอะไร |
 |
กลุ่มดาวด้านล่างเป็นกลุ่มดาว Orion กลุ่มดาวนายพราน อยู่เหนือเทวดาขึ้นไปหมายถึง
อารักขเทวดา
|
 |
เมื่อพลิกผืนผ้ากลับด้านหลังและ
มองดูกลุ่มดาวที่พลิกกลับข้าง ภาพที่เห็นเป็นการมองจากสวรรค์มายังโลก และแน่นอนว่าผู้ที่มองลงมานั้นก็คือพระเป็นเจ้า พระองค์เป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล และพระเป็นเจ้าไม่ทรงผิดพลาด ตำแหน่งของกลุ่มดาวอยู่ในตำแหน่งของจุดพิกัด 12
ธันวาคม ค.ศ.1541 เวลาประมาณ 10.40 AM ถ้าเราใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรมดาราศาสตร์และใส่พิกัดตามวันที่และเวลาดังกล่าวนี้
คุณจะเห็นกลุ่มดาวในตำแหน่งตรงตามที่เห็นบนผืนผ้าในรูปนี้ ในเวลาที่ฮวน
ดิเอโกได้รับดอกกุหลาบและแม่พระทรงประทานภาพกลุ่มดาวพิมพ์ประทับบนผืนผ้านั้น
ตำแหน่งของดวงดาวบนผืนผ้าเป็นตำแหน่งของดวงดาวที่พระเป็นเจ้าทรงทอดพระเนตรจากสวรรค์ลงมายังจุดที่ฮวน
ดิเอโก อยู่
และตามรูปด้านล่าง จุดตัดของเส้นแนวทิศเหนือ-ใต้ กับ แนวทิศตะวันออก-ตะวันตกคือ ละติจูด 19.5
องศาเหนือ เป็นตำแหน่งศูนย์กลางของทวีป จุดที่แม่พระทรงประจักษ์ - เม็กซิโก
2.
Infa red photography ในปี 1954-1963 ศาสตราจารย์ Francisco camps ribera ใช้แสงอินฟาเรดถ่ายภาพเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ภายใต้ภาพวาดนี้ซึ่งอยู่ในเส้นใยของผ้า
ภาพจากแสงอินฟาเร็ดเป็นดังภาพนี้
สิ่งที่เขาพบก็คือไม่มีอะไรเลย ไม่มีลายเส้นของการร่างภาพ ไม่มีการระบายสีเป็นพื้นเอาไว้ก่อน ไม่มีร่องรอยการเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่งตามปกติของการวาดภาพจะต้องมีสิ่งเหล่านี้เสมอ
ไม่มีสิ่งใดที่เป็นการวาดและระบายสีภาพขึ้นมาเลย
แสดงว่ารูปภาพที่ปรากฏมีลักษณะของการพิมพ์ลงบนผืนผ้า ไม่ใช่การวาดระบายสี และในสมัย 480
ปีก่อนนั้นไม่มีมนุษย์คนใดที่สามารถพิมพ์ผ้าและทำให้เกิดภาพนี้บนผืนผ้าขึ้นมาได้
3.
Domus Aurea
ถ้าคุณชอบทางด้านคณิตศาสตร์และเรขาคณิต คุณก็ลองดูเรื่องนี้ รูปภาพนี้จะอธิบายถึงทุกสิ่งบนโลก ในสมัยเรเนซองยุคอาณาจักรโรมัน มีการใช้คณิตศาสตร์และเรขาคณิตในการวาดภาพซึ่งเรียกว่า อัตราส่วนทองคำ
เราจะเห็นสมมาตรในรูปภาพทิลมา
และอัตราส่วนทองคำของรูป
รูปภาพมีความสมบูรณ์แบบทางคณิตศาสตร์
ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกเลยทีเดียว
ไม่มีใครคาดคิดว่ามนุษย์ยุคนั้นจะสามารถสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกเช่นนี้ได้ ดังนั้นรูปภาพนี้ไม่ได้ทำขึ้นโดยฝีมือมนุษย์แน่นอน
4. การวิเคราะห์ทางเคมี ตัวอย่างเศษผ้า 2 ชิ้นถูกส่งไปที่ออสเตรีย ให้นักเคมีชาวออสเตรีย ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่เชื่อในพระเป็นเจ้า ชื่อ RICHARD
KHUN ได้ทำการทดลองทางเคมีในปี 1936 เพื่อวิเคราะห์ทาง molecular analysis เขาใช้วิธีวิเคราะห์ด้วย electro photo chemistry - atomic
absorption เขาได้วิเคราะห์ สี pigment ที่อยู่บนเศษผ้าที่ได้รับมา และรายงานว่า
ไม่มีสีที่ทำมาจากสัตว์
ไม่มีสีที่ทำมาจากพืช
ไม่มีสีที่ทำมาจากแร่ธาตุ
สี pigment ในผ้า ทิลมา นั้นทำมาจากสารที่ไม่สามารถระบุได้ ซึ่งหมายความว่าสารที่ทำให้เกิดสีนั้นเป็นสารที่ไม่มีอยู่ในตารางธาตุ
ในปี 1938 RICHARD KHUN ได้รับรางวัลโนเบล
การทดลองของ RICHARD KHUN กับผ้าทิลมานี้ได้ยืนยันว่าผ้านี้เป็นอัศจรรย์ ศาสตราจารย์ RICHARD KHUN มีความสงสัยในเรื่องสี pigment และรูปภาพมหัศจรรย์นี้มาก
เขาได้ไปที่เม็กซิโกด้วยตัวเองเพื่อพยายามหาคำตอบ
และในที่สุดเขาได้เสียชีวิตและได้กลับใจเป็นคาทอลิก
-------------------------------------
จบตอนที่ 4
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น