วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

กางเขนที่แตกหักกระจัดกระจาย


กางเขนที่แตกกระจาย (Shattered Crosses) 
             หลายคนสอบถามมาที่ดิฉันเกี่ยวกับความหมายของคำพูดในสาส์นของแม่พระวันที่ 25 พ.ค. ที่ว่า “เพราะฉะนั้น แม่ขอให้ลูกเฝ้าสังเกตหมายสำคัญแห่งกาลเวลาให้ดี  เพื่อที่ลูกจะได้รวบรวมกางเขนที่แตกกระจาย  และเพื่อที่ลูกจะได้เป็นอัครสาวกแห่งพระวิวรณ์  มีผู้ที่ถามมีรยานาเกี่ยวกับคำว่า “รวบรวมกางเขนที่แตกกระจาย” นั้นหมายความว่าแม่พระทรงอ้างอิงถึงบางอย่างซึ่งเป็นที่รับรู้กันแล้วใช่ไหม?  คำอธิบายในเรื่องนี้อาจพบได้จากสาส์นของแม่พระที่ประทานแก่ บรูโน  คอร์นนาชิโอลา (Bruno Cornacchiola) ในปี 1947 ที่ตรีฟอนตาเน – หมู่บ้านที่อยู่ชานกรุงโรม (สถานที่นักบุญเปาโลถูกตัดศีรษะ)
บรูโน

เรื่องราวโดยย่อมีอยู่ว่า – บรูโน เป็นผู้ที่เกลียดชังพระศาสนจักรคาทอลิกเป็นอย่างมาก  เขาเตรียมแผนการลอบสังหารพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ด้วยการแทงพระองค์ด้วยมีดสั้น  ในวันเสาร์ที่ 12 เมษายน 1947 เขาและครอบครัวที่อาศัยอยู่ที่ตรีฟอนตาเน  ได้พากันไปที่ถ้ำแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้บ้าน  ลูกของเขาเล่นกันอยู่  ส่วนบรูโนกำลังอ่านหนังสือที่เขียนต่อต้าน”ดวงหทัยนิรมลของแม่พระ”  เมื่อถึงเวลาที่จะต้องกลับบ้าน  ลูกสาวคนเล็กสองคนยังคงอยู่ในถ้ำ  บรูโนจึงพูดกับลูกชายว่า “ไปตามน้องสาวของลูกมาซิ”  ลูกชายจึงเข้าไปในถ้ำเพื่อตามน้องสาว  แต่เขาก็ไม่ออกมาจากถ้ำสักที  บรูโนรู้สึกโกรธมาก  เขาเดินเข้าไปตามลูกและพบลูกทั้งสามกำลังคุกเข้าอยู่ภายในถ้ำ  มือประสานกันในท่าสวดภาวนา  และสายตาเพ่งมองอยู่ในภวังค์  พวกเขาไม่ได้ยินเสียงของบิดาที่กำลังเรียกพวกเขา

พรหมจารีย์แห่งพระวิวรณ์

บรูโนเหมือนถูกแรงบางอย่างบังคับให้ตัวเขาต้องคุกเข่าลง  เมื่อเขายกสายตาขึ้นก็เห็นแม่พระประทับยืนอยู่ที่นั่น  พระนางกำลังมองมาที่เขา  แล้วพระนางตรัสกับเขาว่า

 “เราคือสตรีผู้นั้นที่อยู่ในพระตรีเอกภาพ  เราคือพระนางพรหมจารีย์แห่งพระวิวรณ์  เจ้าได้เบียดเบียนเรา  พอเสียที  จงกลับมาสู่ฝูงแกะศักดิ์สิทธิ์ซึ่งก็คือพระอาณาจักรสวรรค์บนโลกนี้  พระสัญญาของพระเป็นเจ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงและจะคงเดิมเสมอ  ดังนั้น  การทำนพวารวันศุกร์ต้นเดือนเพื่อถวายเกียรติแด่ดวงพระทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าและแม่พระ  ซึ่งภรรยาที่ซื่อสัตย์ของลูกได้ทำก่อนที่ลูกจะเดินในถนนแห่งความเท็จนั้น  ได้ช่วยลูกไว้” 

บรูโนได้เล่าไว้ว่า  แม่พระทรงยื่นพระหัตถ์ขวาของพระนางและชี้ด้วยนิ้วชี้ไปที่พื้นดินที่อยู่แทบพระบาทของพระนาง  แล้วเขาได้เห็นกางเขนที่แตกหักกระจายบนพื้นดิน  และมีชิ้นส่วนของพระภูษาของพระเยซู และผ้าสีดำ

พระภูษาถูกทิ้งลงที่พื้นดินมีความหมายถึง  การละทิ้งชีวิตสงฆ์ของพระสงฆ์บางองค์  แม่พระตรัสว่า “นี่เป็นหมายสำคัญที่บรรดาลูกชายของแม่จะละทิ้งเครื่องแบบของพวกเขา...ลูกจงเข้มแข็งในความเชื่อเถิด” (“ลูกชายที่แม่พระเอ่ยถึงนี้ก็คือสมาชิกพระสงฆ์นักบวช)  กางเขนที่แตกหักอยู่ใกล้กับพระภูษา มีความหมายถึงการเป็นมรณสักขีของพระสงฆ์ผู้ที่ยังคงมีความเชื่อในพระคริสต์ผู้ทรงถูกเบียดเบียน  ผ้าสีดำ เป็นสัญลักษณ์ว่าพระศาสนจักรจะกลายเป็นหม้าย  ต้องขึ้นอยู่กับความเมตตาของโลก  แม่พระตรัสกับบรูโนว่า “พระศาสนจักรจะถูกเบียดเบียน และแตกหัก”

แล้วแม่พระทรงเปิดเผยให้บรูโนรู้ถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น  โดยเฉพาะในเรื่องการเอาใจออกห่างของพระสงฆ์หลายคน  และการที่บรูโนต้องรักและรับใช้พระศาสนจักรถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์เหล่านั้น  แม่พระตรัสต่อไปว่า “ถึงแม้พระสงฆ์ทั้งหลายจะต้องเผชิญกับพายุร้ายอันโหดเหี้ยม  พวกเขายังคงเป็นที่รักของแม่  พวกเขาจะถูกบดขยี้และบางคนจะถูกฆ่าหมู่”

บรูโนสำนึกผิดกลับใจในเวลานั้นเอง  เขาได้กลายเป็นอัครสาวกผู้มีใจร้อนรนและเป็นผู้ต่อสู้ปกป้องพระศาสนจักรจนกระทั่งเสียชีวิตในเดือนมิถุนายน 2001 (มีการเสนอชื่อเขาเพื่อพิจารณาสถาปนาเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ต่อไป)  ตั้งแต่วันนั้นที่เขาเห็นแม่พระ  เขาได้รับสาส์นจากแม่พระอีกหลายครั้ง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยความฝัน เหมือนกับนักบุญยอห์น บอสโก  สาส์นเหล่านั้นเป็นคำทำนายเกี่ยวกับอนาคตของพระศาสนจักรในระยะใกล้และระยะไกล  รวมทั้งความทุกข์โศกภายในพระศาสนจักรที่จะต้องเผชิญ

ครอบครัวของบรูโน

ทำไมแม่พระจึงทรงตรัสเกี่ยวกับกางเขนที่แตกกระจายซึ่งเราต้องรวบรวมในเวลานี้?  ดูเหมือนแม่พระจะทรงเตือนเราผู้ที่ต้องการรับใช้พระคริสต์และพระศาสนจักร  ในช่วงเวลาแห่งความสับสนอย่างยิ่งของสงครามฝ่ายจิตนี้  ไม่ได้มีแต่กางเขนที่แตกหักเพียงอันเดียว (ในปี 1947) แต่มีกางเขนที่แตกหักหลายอัน (ในปี 2016)  แม่พระทรงแสดงความเจ็บปวดพระทัยของพระนางในคริสตชนหลายคน , พระสงฆ์และนักบวชที่ละทิ้งความเชื่อไป  มีการทรยศภายในพระศาสนจักรเองและกำลังแพร่กระจายไปทั่วในยุคสมัยของเรานี้

แม่พระตรัสแก่บรูโนถึงพระนามซึ่งพระนางประสงค์จะได้รับความเคารพในสถานที่แห่งนี้  แม่พระตรัสว่า “แม่คือพรหมจารีย์แห่งพระวิวรณ์”  แม่พระทรงถือหนังสือเล่มเล็กๆคือ หนังสือพระคัมภีร์วิวรณ์ของนักบุญยอห์น  และในสาส์น  แม่พระทรงเชื้อเชิญเราในยุคสมัยนี้ให้เป็น “อัครสาวกแห่งพระวิวรณ์”

พระนางทรงอธิบายลักษณะของอัครสาวกอย่างชัดเจนว่า  เขาจะต้องเป็นผู้สัตย์ซื่อต่อความเชื่อในท่ามกลางความทุกข์ยากลำบาก   “พวกเขาไม่บ่นว่า  พวกเขานิ่งเงียบและไม่เป็นกบฏ”  สิ่งเหล่านี้คือลักษณะที่พระนางเองทรงกระทำในระหว่างที่ทรงมีชีวิตบนโลกนี้มิใช่หรือ

หนังสือพระคัมภีร์วิวรณ์ถูกเขียนด้วยข้อความที่ลึกลับ  ซึ่งบอกถึงชะตากรรมของมนุษยชาติและชัยชนะของพระเจ้าต่อมังกรและสัตว์ร้ายภายหลังการสู้รบอันหฤโหด  แล้วทำไมพวกเราไม่คิดที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้เพื่อเปิดตาจะได้รู้และเข้าใจเสียแต่บัดนี้เล่า  การสู้รบกับสัตว์ร้ายนี้รุนแรงโหดเหี้ยมและต้องมีจิตใจที่แน่วแน่มิใช่หรือ?  ซาตานรู้ว่าเวลาของมันเหลืออยู่น้อยแล้ว  และมันใช้ยุทธวิธีทั้งหมดของมันและไพ่ใบสุดท้ายของมันอย่างสุดแรง  แม่พระทรงประสงค์จะเตือนพวกเราว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเวลานี้ใช่ไหม  ช่วงเวลาที่เป็นจุดเปลี่ยนของพระศาสนจักร?  ช่วงเวลาที่การไขแสดงของพระเจ้าเกี่ยวกับวาระสุดท้ายอยู่ใกล้แล้วและทุกคนจะต้องลุกขึ้นยืนเพื่ออยู่ข้างเดียวกับพระคริสต์ หรือไม่ก็ อยู่ฝ่ายตรงข้ามต่อสู้กับพระคริสต์?  ดิฉันเชื่อเช่นนั้น  เพราะในสาส์นของแม่พระ  พระนางไม่ได้พูดอ้างอิงถึงการประจักษ์ใดๆของพระนางเลย (ยกเว้นในสาส์นวันที่ 25 ส.ค. 1991แม่พระทรงอ้างถึงการประจักษ์ที่ฟาติมา)  ทำไมในเดือนนี้ พระนางจึงทรงตรัสเชื่อมโยงกับการประจักษ์ที่ตรีฟอนตาเน? 



                
          ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องหันกลับไปอ่านหนังสือพระคัมภีร์วิวรณ์อีกครั้ง  โดยเฉพาะในบทที่ 12 –“สตรี” (พระนางมารีย์)ได้ปรากฏขึ้น  แม่พระตรัสกับบรูโนว่า “ก่อนที่แม่จะจากไป  แม่ขอบอกลูกว่า – หนังสือพระคัมภีร์วิวรณ์เป็นพระวาจาของพระเจ้าและในพระวิวรณ์นี้ได้พูดเกี่ยวกับแม่  นี่คือสาเหตุที่แม่ใช้นามนี้ว่า  พรหมจารีย์แห่งพระวิวรณ์”  (ดิฉันขอให้ข้อสังเกตประการหนึ่ง  หนังสือวิวรณ์นี้เป็นเพียงหนังสือเล่มเดียวในพระคัมภีร์ที่เขียนบทบุญลาภว่า “เป็นบุญของผู้ที่อ่านพระวาจาพยากรณ์เหล่านี้” วว. 1: 3)  และคงต้องขอย้ำถึงความสำคัญที่แม่พระทรงประสงค์ให้เราทำการชดเชยใช้โทษบาปสำหรับการกระทำทุรจารต่อพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท  และการกระทำล่วงเกินต่อสถานภาพพระสงฆ์ที่พระองค์ทรงมอบให้แก่มนุษย์  แม่พระตรัสในสาส์นวันที่ 25 เม.ย. 2016 นี้ว่า “ดวงหทัยนิรมลของแม่หลั่งโลหิต”  แม่พระไม่ต้องการให้เราพูดวิจารณ์หรือพูดตำหนิพระสงฆ์หรือทำให้ท่านต้องท้อใจ  แต่พระนางทรงต้องการให้เราทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือพวกท่านโดยผ่านทางการสวดภาวนาและการพลีกรรมของพวกเรา  เราจะช่วยปลอบประโลมดวงพระทัยของพระนางได้เป็นอย่างมาก  ใช่แล้วดวงพระทัยของพระนางกำลังหลั่งโลหิต  แต่จงเชื่อมั่นเถิดว่าชัยชนะขั้นสุดท้ายของดวงพระทัยของพระนางกำลังเข้ามาใกล้ทุกที

และนี่เป็นสาเหตุที่แม่พระทรงแสวงหาวิญญาณที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระนาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น