กางเขนที่แตกกระจาย
(Shattered
Crosses)
หลายคนสอบถามมาที่ดิฉันเกี่ยวกับความหมายของคำพูดในสาส์นของแม่พระวันที่
25 พ.ค. ที่ว่า “เพราะฉะนั้น
แม่ขอให้ลูกเฝ้าสังเกตหมายสำคัญแห่งกาลเวลาให้ดี
เพื่อที่ลูกจะได้รวบรวมกางเขนที่แตกกระจาย
และเพื่อที่ลูกจะได้เป็นอัครสาวกแห่งพระวิวรณ์” มีผู้ที่ถามมีรยานาเกี่ยวกับคำว่า
“รวบรวมกางเขนที่แตกกระจาย”
นั้นหมายความว่าแม่พระทรงอ้างอิงถึงบางอย่างซึ่งเป็นที่รับรู้กันแล้วใช่ไหม?
คำอธิบายในเรื่องนี้อาจพบได้จากสาส์นของแม่พระที่ประทานแก่ บรูโน คอร์นนาชิโอลา (Bruno Cornacchiola) ในปี 1947 ที่ตรีฟอนตาเน –
หมู่บ้านที่อยู่ชานกรุงโรม (สถานที่นักบุญเปาโลถูกตัดศีรษะ)
บรูโน
เรื่องราวโดยย่อมีอยู่ว่า
– บรูโน เป็นผู้ที่เกลียดชังพระศาสนจักรคาทอลิกเป็นอย่างมาก เขาเตรียมแผนการลอบสังหารพระสันตะปาปาปีโอที่
12 ด้วยการแทงพระองค์ด้วยมีดสั้น
ในวันเสาร์ที่ 12 เมษายน 1947 เขาและครอบครัวที่อาศัยอยู่ที่ตรีฟอนตาเน ได้พากันไปที่ถ้ำแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้บ้าน ลูกของเขาเล่นกันอยู่
ส่วนบรูโนกำลังอ่านหนังสือที่เขียนต่อต้าน”ดวงหทัยนิรมลของแม่พระ” เมื่อถึงเวลาที่จะต้องกลับบ้าน ลูกสาวคนเล็กสองคนยังคงอยู่ในถ้ำ บรูโนจึงพูดกับลูกชายว่า
“ไปตามน้องสาวของลูกมาซิ”
ลูกชายจึงเข้าไปในถ้ำเพื่อตามน้องสาว
แต่เขาก็ไม่ออกมาจากถ้ำสักที
บรูโนรู้สึกโกรธมาก
เขาเดินเข้าไปตามลูกและพบลูกทั้งสามกำลังคุกเข้าอยู่ภายในถ้ำ มือประสานกันในท่าสวดภาวนา และสายตาเพ่งมองอยู่ในภวังค์
พวกเขาไม่ได้ยินเสียงของบิดาที่กำลังเรียกพวกเขา
บรูโนเหมือนถูกแรงบางอย่างบังคับให้ตัวเขาต้องคุกเข่าลง
เมื่อเขายกสายตาขึ้นก็เห็นแม่พระประทับยืนอยู่ที่นั่น พระนางกำลังมองมาที่เขา แล้วพระนางตรัสกับเขาว่า
“เราคือสตรีผู้นั้นที่อยู่ในพระตรีเอกภาพ เราคือพระนางพรหมจารีย์แห่งพระวิวรณ์ เจ้าได้เบียดเบียนเรา พอเสียที
จงกลับมาสู่ฝูงแกะศักดิ์สิทธิ์ซึ่งก็คือพระอาณาจักรสวรรค์บนโลกนี้
พระสัญญาของพระเป็นเจ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงและจะคงเดิมเสมอ ดังนั้น
การทำนพวารวันศุกร์ต้นเดือนเพื่อถวายเกียรติแด่ดวงพระทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าและแม่พระ
ซึ่งภรรยาที่ซื่อสัตย์ของลูกได้ทำก่อนที่ลูกจะเดินในถนนแห่งความเท็จนั้น ได้ช่วยลูกไว้”
บรูโนได้เล่าไว้ว่า แม่พระทรงยื่นพระหัตถ์ขวาของพระนางและชี้ด้วยนิ้วชี้ไปที่พื้นดินที่อยู่แทบพระบาทของพระนาง แล้วเขาได้เห็นกางเขนที่แตกหักกระจายบนพื้นดิน และมีชิ้นส่วนของพระภูษาของพระเยซู และผ้าสีดำ
พระภูษาถูกทิ้งลงที่พื้นดินมีความหมายถึง การละทิ้งชีวิตสงฆ์ของพระสงฆ์บางองค์ แม่พระตรัสว่า
“นี่เป็นหมายสำคัญที่บรรดาลูกชายของแม่จะละทิ้งเครื่องแบบของพวกเขา...ลูกจงเข้มแข็งในความเชื่อเถิด”
(“ลูกชายที่แม่พระเอ่ยถึงนี้ก็คือสมาชิกพระสงฆ์นักบวช) กางเขนที่แตกหักอยู่ใกล้กับพระภูษา
มีความหมายถึงการเป็นมรณสักขีของพระสงฆ์ผู้ที่ยังคงมีความเชื่อในพระคริสต์ผู้ทรงถูกเบียดเบียน ผ้าสีดำ
เป็นสัญลักษณ์ว่าพระศาสนจักรจะกลายเป็นหม้าย
ต้องขึ้นอยู่กับความเมตตาของโลก
แม่พระตรัสกับบรูโนว่า “พระศาสนจักรจะถูกเบียดเบียน และแตกหัก”
แล้วแม่พระทรงเปิดเผยให้บรูโนรู้ถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
โดยเฉพาะในเรื่องการเอาใจออกห่างของพระสงฆ์หลายคน
และการที่บรูโนต้องรักและรับใช้พระศาสนจักรถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์เหล่านั้น แม่พระตรัสต่อไปว่า “ถึงแม้พระสงฆ์ทั้งหลายจะต้องเผชิญกับพายุร้ายอันโหดเหี้ยม พวกเขายังคงเป็นที่รักของแม่ พวกเขาจะถูกบดขยี้และบางคนจะถูกฆ่าหมู่”
บรูโนสำนึกผิดกลับใจในเวลานั้นเอง เขาได้กลายเป็นอัครสาวกผู้มีใจร้อนรนและเป็นผู้ต่อสู้ปกป้องพระศาสนจักรจนกระทั่งเสียชีวิตในเดือนมิถุนายน
2001 (มีการเสนอชื่อเขาเพื่อพิจารณาสถาปนาเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ต่อไป) ตั้งแต่วันนั้นที่เขาเห็นแม่พระ เขาได้รับสาส์นจากแม่พระอีกหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยความฝัน
เหมือนกับนักบุญยอห์น บอสโก สาส์นเหล่านั้นเป็นคำทำนายเกี่ยวกับอนาคตของพระศาสนจักรในระยะใกล้และระยะไกล รวมทั้งความทุกข์โศกภายในพระศาสนจักรที่จะต้องเผชิญ
ทำไมแม่พระจึงทรงตรัสเกี่ยวกับกางเขนที่แตกกระจายซึ่งเราต้องรวบรวมในเวลานี้?
ดูเหมือนแม่พระจะทรงเตือนเราผู้ที่ต้องการรับใช้พระคริสต์และพระศาสนจักร ในช่วงเวลาแห่งความสับสนอย่างยิ่งของสงครามฝ่ายจิตนี้ ไม่ได้มีแต่กางเขนที่แตกหักเพียงอันเดียว (ในปี
1947) แต่มีกางเขนที่แตกหักหลายอัน (ในปี 2016)
แม่พระทรงแสดงความเจ็บปวดพระทัยของพระนางในคริสตชนหลายคน ,
พระสงฆ์และนักบวชที่ละทิ้งความเชื่อไป
มีการทรยศภายในพระศาสนจักรเองและกำลังแพร่กระจายไปทั่วในยุคสมัยของเรานี้
แม่พระตรัสแก่บรูโนถึงพระนามซึ่งพระนางประสงค์จะได้รับความเคารพในสถานที่แห่งนี้
แม่พระตรัสว่า “แม่คือพรหมจารีย์แห่งพระวิวรณ์” แม่พระทรงถือหนังสือเล่มเล็กๆคือ
หนังสือพระคัมภีร์วิวรณ์ของนักบุญยอห์น
และในสาส์น แม่พระทรงเชื้อเชิญเราในยุคสมัยนี้ให้เป็น
“อัครสาวกแห่งพระวิวรณ์”
พระนางทรงอธิบายลักษณะของอัครสาวกอย่างชัดเจนว่า เขาจะต้องเป็นผู้สัตย์ซื่อต่อความเชื่อในท่ามกลางความทุกข์ยากลำบาก “พวกเขาไม่บ่นว่า พวกเขานิ่งเงียบและไม่เป็นกบฏ” สิ่งเหล่านี้คือลักษณะที่พระนางเองทรงกระทำในระหว่างที่ทรงมีชีวิตบนโลกนี้มิใช่หรือ
หนังสือพระคัมภีร์วิวรณ์ถูกเขียนด้วยข้อความที่ลึกลับ
ซึ่งบอกถึงชะตากรรมของมนุษยชาติและชัยชนะของพระเจ้าต่อมังกรและสัตว์ร้ายภายหลังการสู้รบอันหฤโหด แล้วทำไมพวกเราไม่คิดที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้เพื่อเปิดตาจะได้รู้และเข้าใจเสียแต่บัดนี้เล่า การสู้รบกับสัตว์ร้ายนี้รุนแรงโหดเหี้ยมและต้องมีจิตใจที่แน่วแน่มิใช่หรือ? ซาตานรู้ว่าเวลาของมันเหลืออยู่น้อยแล้ว
และมันใช้ยุทธวิธีทั้งหมดของมันและไพ่ใบสุดท้ายของมันอย่างสุดแรง แม่พระทรงประสงค์จะเตือนพวกเราว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเวลานี้ใช่ไหม ช่วงเวลาที่เป็นจุดเปลี่ยนของพระศาสนจักร? ช่วงเวลาที่การไขแสดงของพระเจ้าเกี่ยวกับวาระสุดท้ายอยู่ใกล้แล้วและทุกคนจะต้องลุกขึ้นยืนเพื่ออยู่ข้างเดียวกับพระคริสต์
หรือไม่ก็ อยู่ฝ่ายตรงข้ามต่อสู้กับพระคริสต์?
ดิฉันเชื่อเช่นนั้น เพราะในสาส์นของแม่พระ
พระนางไม่ได้พูดอ้างอิงถึงการประจักษ์ใดๆของพระนางเลย (ยกเว้นในสาส์นวันที่
25 ส.ค. 1991แม่พระทรงอ้างถึงการประจักษ์ที่ฟาติมา) ทำไมในเดือนนี้
พระนางจึงทรงตรัสเชื่อมโยงกับการประจักษ์ที่ตรีฟอนตาเน?
ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องหันกลับไปอ่านหนังสือพระคัมภีร์วิวรณ์อีกครั้ง โดยเฉพาะในบทที่ 12 –“สตรี” (พระนางมารีย์)ได้ปรากฏขึ้น แม่พระตรัสกับบรูโนว่า “ก่อนที่แม่จะจากไป แม่ขอบอกลูกว่า – หนังสือพระคัมภีร์วิวรณ์เป็นพระวาจาของพระเจ้าและในพระวิวรณ์นี้ได้พูดเกี่ยวกับแม่ นี่คือสาเหตุที่แม่ใช้นามนี้ว่า พรหมจารีย์แห่งพระวิวรณ์” (ดิฉันขอให้ข้อสังเกตประการหนึ่ง หนังสือวิวรณ์นี้เป็นเพียงหนังสือเล่มเดียวในพระคัมภีร์ที่เขียนบทบุญลาภว่า
“เป็นบุญของผู้ที่อ่านพระวาจาพยากรณ์เหล่านี้” วว. 1: 3)
และคงต้องขอย้ำถึงความสำคัญที่แม่พระทรงประสงค์ให้เราทำการชดเชยใช้โทษบาปสำหรับการกระทำทุรจารต่อพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท
และการกระทำล่วงเกินต่อสถานภาพพระสงฆ์ที่พระองค์ทรงมอบให้แก่มนุษย์ แม่พระตรัสในสาส์นวันที่ 25 เม.ย. 2016 นี้ว่า “ดวงหทัยนิรมลของแม่หลั่งโลหิต” แม่พระไม่ต้องการให้เราพูดวิจารณ์หรือพูดตำหนิพระสงฆ์หรือทำให้ท่านต้องท้อใจ
แต่พระนางทรงต้องการให้เราทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือพวกท่านโดยผ่านทางการสวดภาวนาและการพลีกรรมของพวกเรา เราจะช่วยปลอบประโลมดวงพระทัยของพระนางได้เป็นอย่างมาก ใช่แล้วดวงพระทัยของพระนางกำลังหลั่งโลหิต
แต่จงเชื่อมั่นเถิดว่าชัยชนะขั้นสุดท้ายของดวงพระทัยของพระนางกำลังเข้ามาใกล้ทุกที
และนี่เป็นสาเหตุที่แม่พระทรงแสวงหาวิญญาณที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระนาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น