วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ปีศาจกับคุณพ่อเอม็อท


เมื่อเขาสร้างภาพยนตร์คลาสสิกเรื่อง The Exorcist ในปี 1973  วิลเลี่ยม เฟรดกิน (William Friedkin)  ยังไม่เคยเห็นการทำพิธีขับไล่ปีศาจมาก่อนเลย  หลายสิบปีมาแล้วที่เขาอยากจะเห็นและได้มีประสบการณ์ที่เป็นจริงในเรื่องนี้สักครั้ง  ดังนั้นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา  เขาจึงได้ไปพบกับ “หัวหน้าพระสงฆ์ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจ - คุณพ่อกาเบรียล  เอม็อท” ในขณะที่ท่านกำลังต่อสู้ขับไล่ซาตานออกจากสตรีชาวอิตาลีผู้หนึ่ง

 
ทางเดินที่นำไปสู่ห้องทำพิธีขับไล่ปีศาจ (ประตูที่สองขวามือ) เป็นห้องของพระสงฆ์คณะนักบุญเปาโลในโรม - Photograph by William Friedkin

               วิลเลียม เฟรดกิน เป็นผู้ที่ไม่เคยเชื่อเรื่องปีศาจ  หรือการทำพิธีขับไล่ปีศาจ  หรือในเรื่องที่พระเยซูเจ้าสามารถขับไล่ปีศาจได้

คุณพ่อกาเบรียล เอม็อท (FATHER GABRIELE AMORTH)

               เช้าวันอาทิตย์ ของวันที่ 1 พฤษภาคม 2016 เป็นวันเกิดปีที่ 91 ของคุณพ่อเอม็อท  แต่ท่านไม่ได้คิดที่จะจัดงานฉลอง  ท่านตื่นแต่เช้าแล้วสวดภาวนาเวลาเช้าตามที่เคยปฏิบัติและสวดต่อ น. โยเซฟแห่งคูเปอร์ติโน  นักบุญในศตวรรษที่ 17  และสวดต่อคุณพ่อแคนดิโด อะแมนตินีผู้ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาของท่าน  ท่านเดินออกจากห้องนอนโดยใช้ไม้เท้าพยุงไปที่ห้องทานอาหารที่อยู่บนชั้นที่ 3 ของที่พักพระสงฆ์คณะนักบุญเปาโล  ที่พักนี้อยู่ทางตอนใต้ของกรุงโรม

             หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ  คุณพ่อเอม็อทก็กลับไปที่ห้องของท่านที่มีหน้าต่างสูง  มีเตียงแบบโรงพยาบาล  โต๊ะทำงานทำด้วยไม้ที่มีรูปแม่พระและคุณพ่อปีโอตั้งอยู่  หกชั่วโมงต่อมา  คุณพ่อเอม็อทก็ตรวจดูจดหมายที่ส่งมาถึงท่านจากทั่วโลกเพื่อขอให้ท่านช่วยเหลือ  จดหมายแต่ละฉบับจะมีคำถามและคำขอร้องของผู้คนที่รู้จักคุณพ่อเอม็อทผู้มีชื่อเสียง  ท่านได้ตอบจดหมายเหล่านั้นด้วยการเขียนด้วยปากกาหมึกซึมแล้วติดแสตมป์ด้วยตัวท่านเอง  เวลาบ่ายสองโมง ท่านคุกเข่าสวดภาวนาอีก  ท่านลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก  หยิบไม้เท้าช่วยพยุงของท่านแล้วเดินไปยังลิฟท์ลงไปยังชั้นที่หนึ่งซึ่งมีห้องเล็กๆห้องหนึ่งที่ใช้เป็นสถานที่ทำงานของท่าน  ทางเดินนั้นโล่งและมืด  มันเงียบจนสามารถได้ยินเสียงกระซิบและเสียงฝีเท้าที่กำลังเดิน  เหมือนอยู่ในสุสาน 

ที่นั่นศัตรูของท่านกำลังรอคอยท่านอยู่

             เวลาบ่ายสามโมงตรง  ท่านเริ่มต้นประกอบพิธีกรรมการขับไล่ปีศาจ  หญิงชาวอิตาลีที่ถูกปีศาจสิง  นางโรซา  อายุ 30 ปี  รูปร่างสูงเพรียวมีผมสีดำสนิท  ผิวสีคล้ำและหน้าตาสวยเหมือนดาราชาวอิตาลี  โซเฟีย  ลอเรน หรือ ซิลวานา  แมนกาโน  ท่าทางของเธอสงบเงียบ  เธอเรียนจบมหาวิทยาลัยแต่ยังทำงานไม่ได้เพราะพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในวันหยุดทางคริสตศาสนาอย่างเช่น วันอาทิตย์ใบลาน  วันพุธรับเถ้า  วันอิสเตอร์  และวันพระจิตเสด็จลงมา  นี่เป็นครั้งที่เก้าแล้วที่เธอมารับการทำพิธีขับไล่ปีศาจกับคุณพ่อเอม็อท  ตามปกติของด้านจิตเวช  คนไข้มักจะไม่หายหลังจากรับการรักษาระยะแรก  คุณพ่อเอม็อทเคยรักษาชายคนหนึ่งโดยใช้เวลานานถึง 16 ปี

             โรซา มาถึงพร้อมกับบิดามารดาและเพื่อนชายของเธอ  กุยเลียนโน  บิดามารดามีอายุราว 50 ปี บิดารูปร่างสูง ผมขาว ท่าทางเป็นปัญญาชน  ส่วนมารดารูปร่างเตี้ย ท้วมเล็กน้อย ท่าทางเป็นมิตร  กุยเลียนโนสูง 3 ฟุต รูปร่างบึกบึนแข็งแรงเหมือนนักมวยไว้ผมสั้น  เขาเอาใจใส่โรซามาก  แต่ผมรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่แปลกในตัวของเขา

             มีคนที่ติดตามมาด้วยอีกคนหนึ่งชื่อโรเบอร์โต อายุราว 50 ปี  (ชื่อโรซา  กุยเลียนโน และโรเบอร์โต ทั้งหมดเป็นนามสมมุติ)  เขาเป็นตัวแทนประกันภัยในโรม  ในปี 2012 พี่สาวของเขาทนทุกข์ทรมานด้วยความเครียด  วันหนึ่งเขาเห็นพี่สาวอยู่บนพื้นห้อง  บิดตัวไปมาและเห่าหอนเหมือนหมาป่า  เป็นอย่างนี้อยู่หลายวัน  ในที่สุดโรเบอร์โตได้พาพี่สาวไปหาจิตแพทย์  แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้  แพทย์แนะนำให้พาเธอไปหาคุณพ่อเอม็อท  ต้องใช้การทำพิธีขับไล่ปีศาจถึงสี่ครั้งกว่าที่เธอจะหายขาด

             เป็นโรเบอร์โตที่สังเกตอาการของโรซาในระหว่างพิธีมิสซา  เธอมีอาการกระวนกระวายไม่สงบเหมือนกับอาการของพี่สาวของเขา  เขาจึงนำเธอไปหาคุณพ่อเอม็อทในเดือนสิงหาคม 2015

             ตอนนี้เป็นการทำพิธีครั้งที่เก้าของโรซ่า  คุณพ่อเอม็อท เข้าไปในห้องเล็กๆซึ่งมีเพดานสูง  ท่านไปพร้อมกับชายรูปร่างกำยำ 5 คน  สี่คนเป็นพระสงฆ์วัยกลางคน  คนที่ 5 คือ อะเลสซานโดร  เป็นคนที่แข็งแรงมากมีผมหยิกสีแดง  พวกเขาเป็นผู้ช่วยของคุณพ่อเอม็อทมานานเจ็ดปี  ในการทำพิธีครั้งนี้คุณพ่อเอม็อทอนุญาติให้ผมมาอยู่ร่วมด้วยและถ่ายภาพเก็บไว้ได้

คุณพ่อเอม็อทยึนยันว่า  คนที่มาหาท่านเพื่อขอความช่วยเหลือนั้นจะไปหาหมอและจิตแพทย์ก่อนแล้วทั้งนั้น  ท่านกล่าวว่า “ในคนหนึ่งร้อยคนที่มาหาผม  จะมีหนึ่งหรือสองคนที่ถูกปีศาจเข้าสิง”

 
ผลงานของปีศาจ การทำพิธีขับไล่ปีศาจครั้งที่ 9 ของโรซา  เริ่มต้นในเวลาบ่ายสามโมง ของวันที่ 1 พ.ค. 2016 - Photographs by William Friedkin.

             โรซาไม่มีอาการป่วยทางกายแต่อย่างใด  คุณพ่อเอม็อทเชื่อว่าอาการของโรซามีสาเหตุจากการสาปแช่งของพี่ชายคนหนึ่งของเพื่อนสาวของโรซาเอง  เขาได้ทำการสาปแช่งด้วยเวทมนตร์ของพ่อมด  พี่ชายและเพื่อนสาวของโรซาเป็นสมาชิกของสมาคมปีศาจพ่อมดหมดผีแห่งหนึ่ง  ผมนั่งอยู่ห่างจากโรซาสองฟุต  อาการทรมานของเธอเริ่มปรากฏให้เห็น  พ่อแม่ของเธอยืนอยู่ชิดกำแพงทางด้านขวาของผม  คุณพ่อขอให้ทุกคนร่วมกันสวดภาวนาบทข้าแต่พระบิดาและวันทามารีย์  แล้วท่านก็วอนขอต่อนักบุญโยเซฟ  คุณพ่อปีโอ  คุณพ่ออะแมนตินี และต่อพระนางมารีย์  วอนขอให้ท่านเหล่านั้นช่วยปกปักรักษา

             ศีรษะของโรซาเริ่มตก  นัยน์ตาของเธอเกลือกขึ้นข้างบน  แล้วเธอก็รู้สึกมีนงงไปหมด  คุณพ่อเอม็อทพูดเป็นภาษาลาตินเสียงดังชัดเจน  ท่านใช้พิธีกรรมแบบโรมันของพระสันตปาปาเปาโลที่ 5 จากปี 1614  ท่านวอนขอพระเยซูเจ้าให้ช่วยปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระจากปีศาจเข้าสิง “EXORCIZO DEO IMMUNDISSIMUS SPIRITUS.” (ข้าขับไล่เจ้า  ข้าแต่พระเป็นเจ้าโปรดขับไล่เจ้าจิตสกปรกตนนี้)

             ร่างกายของโรซาเริ่มมีอาการกระตุก  เธอร้องออกมาก่อนที่จะกลับสู่ความมีนงงอีก  คุณพ่อเอม็อทวางมือขวาของท่านเหนือหัวใจของเธอ . “INFER TIBI LIBERA.” (จงเป็นอิสระเถิด) โรซาหมดสติไป “TIME SATANA INIMICI FIDEM.” (จงกลัวเจ้าซาตานและศัตรูของความเชื่อ)

             อยู่ๆโรซาก็ดิ้นอย่างรุนแรง  ชายห้าคนพยายามจับเธอให้นิ่ง  มีฟองน้ำลายไหลออกจากปากของเธอ

             “RECEDE IN NOMINI PATRIS!” (จงออกไปในพระนางของพระบิดา) อาการของโรซายังไม่ดีขึ้น  ร่างกายของเธอบิดไปมา  เธอพยายามจะลุกขึ้นและต่อสู้

             “SANCTISSIMO DOMINE MIGRA.” (โอ ข้าแต่พระเป็นเจ้าทรงสรรพานุภาพ  โปรดขับไล่มันออกไปด้วยเถิด) โรซาไม่เคยพูดหรือเข้าใจภาษาลาตินเลย  แต่เธอพุ่งตัวมาข้างหน้าและตะโกนใส่หน้าคุณพ่อเอม็อทว่า “MAI!!” (ไม่มีทาง)

             เสียงดังหึ่งๆเบาๆเริ่มดังขึ้นเหมือนเสียงผึ้งบิน  ขณะที่คนอื่นๆในห้องสวดภาวนาอย่างเงียบๆ“SPIRITO DEL SIGNORE. SPIRITO, SPIRITO SANCTO SANCTISSIMA TRINITA.”(พระจิตของพระเจ้า  พระจิตเจ้า  พระตรีเอกภาพ...โปรดดูแลโรซา  ข้าแต่พระเยซูเจ้า โปรดทำลายอำนาจของปีศาจตนนี้  เพื่อที่โรซาจะได้สบายดีและทำกิจการดีเพื่อผู้อื่น  โปรดขับไล่ปีศาจไปให้พ้นจากเธอ)

             แล้วคุณพ่อเอม็อทก็สั่งให้บรรดาเวทมนตร์ของซาตาน  ไสยศาสตร์ และมนต์ดำที่สิงอยู่ในตัวของโรซาออกไปจากตัวของเธอ  โรซามีปฏิกิริยา  เธอเห่าหอนและตะโกนว่า “MAAAAAAIIIIII!!!”  ความกลัวกระจายไปทั่วห้อง

             มีเสียงอีกเสียงหนึ่งจากส่วนลึกในตัวของโรซาตะโกนใส่หน้าของคุณพ่อเอม็อท  “อย่าแตะต้องเธอ  อย่าแม้แต่จะสัมผัสเธอ”  ตาของโรซาปิดสนิท  คุณพ่อเอม็อทออกคำสั่ง “CEDE! CEDE!” (จงศิโรราบ)

             เธอตอบกลับว่า “IO SONO SATANA.” (ข้าคือซาตาน)

             (คุณพ่อเอม็อทบอกกับผมว่า “ทุกวันนี้ซาตานปกครองโลก...และใช่แล้ว  ซาตานอยู่ในวาติกันด้วย”)

               เสียงหึ่งดังต่อไป  โรซากระวนกระวายและต่อต้านมากขึ้น   ห้องหนาวเย็น  แต่ทุกคนกลับเหงื่อไหล

               ยกเว้นโรซา

 “RECEDE ERGO NUNC!” (ออกจากเธอไปเดี๋ยวนี้)

“MAAAAAAAIIIIIII!”

“ตอบมา”

“NO!!” “SATANA! SATANA!” (ไม่   ซาตาน  ซาตาน)

“พวกแกมีทั้งหมดกี่ตัว?”

“แปดสิบกองพล”

“IN NOMINE DEO QUANDO TU EXIS?”(ในพระนามของพระเป็นเจ้า  เจ้าจะออกไปเมื่อไร?”

 “MAAAAAAI!!!” และต่อมามันพูดว่า” หล่อนเป็นของข้าแล้ว  ข้าครอบครองหล่อนแล้ว”

“เธอเป็นของพระเยซูคริสตเจ้า”

“พวกเราเป็นกองทัพ!!!!

“Requie creatue Dei”(สิ่งสร้างของพระเป็นเจ้า  จงพักผ่อนเถิด) คุณพ่อเอม็อทกล่าวอย่างเงียบๆ

โรซาค่อยๆตื่นขึ้นมาและนั่งลง  เธอจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง  พระสงฆ์ท่านหนึ่งนำเธอไปที่มุมห้องขณะที่มารดาของเธอรับการอวยพรจากคุณพ่อเอม็อท  ทันใดนั้น โรซาเริ่มเกรี้ยวกราดอีกครั้งหนึ่ง ด่าและร้องตะโกน  ชายคนหนึ่งจับคอเธอไว้  อีกคนหนึ่งจับที่ขาของเธอ  เธอค่อยๆกลับคืนสู่สภาพปกติอีก  และนี่ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก

คุณพ่อเอม็อทยิ้ม  ขณะที่บรรยากาศในห้องเริ่มดีขึ้น

ทุกคนร้องเพลง “สุขสันต์วันเกิด”ให้คุณพ่อเป็นภาษาอิตาลี

ทุกๆคนยกเว้นโรซา

ภายหลังจากนั้นโรซาบอกผมว่า “มีหลายสิ่งเกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาซึ่งทำให้ฉันเชื่อว่าดิฉันถูกปีศาจเข้าสิง  และถึงเวลาที่คุณไม่อาจทนมันได้หรือเลื่อนเวลาออกไปได้อีก  สองปีผ่านไปและฉันต้องทำบางอย่าง”

             ผมถามเธอว่าทำไมเธอจึงไม่ไปพบแพทย์หรือจิตแพทย์  เธอตอบว่า “มันไม่มีประโยชน์ที่จะไปพบแพทย์  ปัญหาของฉันมีสาเหตุมาจากจิตชั่วร้าย” เธอเคยไปหาพระสงฆ์องค์อื่นมาก่อน “แต่คุณพ่อเอม็อทเป็นเพียงคนเดียวที่จะช่วยฉันได้”

             ผมถามโรซาว่าเธอรู้สึกดีขึ้นไหมหลังจากทำพิธี  “แต่ละครั้ง  มันรู้สึกเหมือนว่าฉันเป็นอิสระ  ดิฉันรู้สึกได้ถึงปีศาจที่ทรมานฉันอยู่ข้างในตัวฉัน”  เธอตอบ

 
ลินดา แบร์ แมกซ์ วอน ซิดโดว และเจสัน มิลเลอร์ ในภาพยนตร์ The Exorcist ของ เฟรดกิน ปี 1973
 
---------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น