วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560

ปีศาจกลัวพระสงฆ์ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจ


Mexico City, Mexico, Jan 19, 2017 / 04:22 pm (CNA). คุณพ่อ ฟรานซิสโก โลเปซ เซดาโน อายุ 80 ปีเป็นพระสงฆ์ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจ ตลอดเวลา 40 ปีที่ผ่านมาท่านได้ทำพิธีแล้วอย่างน้อย 6,000 ครั้ง
และท่านกล่าวว่าปีศาจกลัวท่าน
คุณพ่อโลเปซบอกกับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ Hoy Los Angeles (Los Angeles Today) ว่าเมื่อปีศาจพูดกับท่านผ่านทางผู้ที่มันสิง  ท่านตอบมันว่า “ข้าไม่ได้มีอำนาจอะไร แต่ข้ามาจากพระคริสต์ – เจ้านายของเจ้าและองค์พระผู้เป็นเจ้า  และเจ้าต้องออกไปเดี๋ยวนี้  ข้าสั่งเจ้าในพระนามของพระองค์ เจ้าจงไปให้พ้น  ออกไป”
คุณพ่อโลเปซเป็นผู้ประสานงานกิติคุณของพระสงฆ์ที่ประกอบพิธีขับไล่ปีศาจของสังฆมณฑลเม็กซิโก  และท่านอยู่ในคณะมิชชันนารีแห่งพระจิตเจ้า  ปัจจุบันนี้ ท่านยังคงทำงานอยู่ที่โบสถ์ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเม็กซิโกซิตี้
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์  คุณพ่อกล่าวเน้นใน 4 ประเด็นที่ท่านได้เรียนรู้จากการเป็นผู้ประกอบพิธีนี้จากปีที่ผ่านมา
ประการแรก ท่านย้ำว่าปีศาจมีตัวตน(เป็นบุคคล)ไม่ใช่เป็นเพียงสิ่งของ  ท่านบอกว่าพระเยซูได้เผชิญหน้ากับปีศาจหลายครั้งและได้ตรัสกับมันด้วย  เมื่อพูดกับปีศาจ “เราไม่ได้พูดกับสิ่งของ  แต่เราพูดกับบุคคล”
“ปีศาจต้องการแยกเราออกจากพระเป็นเจ้า  ต้องการทำให้เรากลัว ต้องการทำร้ายเรา ต้องการทำให้เราอกสั่นขวัญผวา”
“มันทำให้เราเกียจคร้าน เหนื่อยล้า ง่วงนอน ไม่ไว้วางใจ สิ้นหวัง เกลียดชัง – ทุกๆสิ่งที่เป็นด้านลบ”
ประการที่สอง คุณพ่อโลเปซกล่าวว่า ปีศาจเข้าสิงคนได้เพราะคนนั้นอนุญาตให้มันทำดังนั้น “มันไม่สามารถเข้าสิงใครได้ถ้าเราไม่เปิดประตูให้กับมัน....เพราะเหตุนี้พระเป็นเจ้าจึงทรงสั่งห้ามการทำอาคม  ไสยศาสตร์ พ่อมดหมอผี  การเข้าทรงและโหราศาสตร์  สิ่งเหล่านี้เป็นการโกหกหลอกลวง”
“ความเชื่อที่ว่าดวงดาวมีอิทธิพลต่อชีวิตของคนเรานั้นเป็นการโกหกที่ใหญ่ที่สุด  มันอยู่ห่างจากเราไปหลายล้านกิโลเมตร มันเป็นโลหะและก๊าซ – แล้วมันจะมีอิทธิพลต่อเราได้อย่างไร? ทำนองเดียวกันกับเรื่องของการทำอาคม ซึ่งเกี่ยวข้องกับวัตถุและมันไม่มีอำนาจในตัวของมันเอง เช่นการห้อยเกือกม้าเพื่อทำให้มีโชคดี – นั่นคือการโกหก”
ความจริงอีกอย่างที่คุณพ่อโลเปซได้เรียนรู้จากประสบการณ์ก็คือ การถูกปีศาจสิงจะทำให้แสดงพฤติกรรมที่จำเพาะ
ท่านสังเกตคนที่ถูกปีศาจสิง “พวกเขาเริ่มส่งเสียงตะโกน ส่งเสียงเห่าเหมือนสุนัข  กรีดร้องหรือชักดิ้นชักงอ และบางคนเลื้อยไปบนพื้นเหมือนงู  มีรูปแบบต่างๆเป็นพันแบบ” ครั้งหนึ่งคุณพ่อโลเปซเล่า – เด็กชายอายุประมาณ 18 ปีผลักม้านั่งยาว 5 ตัวที่หนักมาก ต้องใช้คนถึง 10 คนจึงจะเคลื่อนย้ายม้านั่งนี้ได้
 “เขามีพละกำลังอย่างเหลือเชื่อ  เราต้องใช้คนสามคนเพื่อจับตัวเขาไว้ระหว่างทำพิธี  นั่นย่อมอธิบายได้อย่างดีว่ามีปีศาจสิงเขาอยู่  บางคนสามารถปีนกำแพงได้ และใช่ บางคนก็บินได้ด้วย”
ในบางครั้ง คนที่ถูกปีศาจสิง “จะได้ยินเสียงของพระเจ้า รู้สึกถึงความเกลียดชังของพระเจ้าหรือการถูกปฏิเสธจากพระเจ้า  ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พวกเขาเชื่อในพระเจ้า  แต่ตอนนี้พวกเขากระทืบเท้าบนหนังสือพระคัมภีร์  มีคนหนึ่งที่ปวดหลังมาก  แต่แพทย์ตรวจแล้วไม่พบว่าผิดปกติ”
 “อาการบาดเจ็บจากซาตานอยู่นอกเหนือการควบคุมทางการแพทย์  คนที่ท้องร่วงตลอดเวลาแต่ไม่มีสาเหตุที่ทำให้เกิด  คนที่ปวดตาแต่จักษุแพทย์หาสาเหตุไม่พบ  อาการบาดเจ็บเหล่านี้วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ไม่อาจตรวจรักษาได้”
และสุดท้าย  คุณพ่อโลเปซกล่าวว่า หลายสิบปีที่ท่านได้ให้ความช่วยเหลือผู้คน ได้สอนท่านว่า พิธีขับไล่ปีศาจเป็นอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์  ท่านมั่นใจว่า “พิธีนี้เป็นสิ่งจำเป็น”  หลังจากที่ท่านได้เห็น “กรณีต่างๆที่เจ็บปวดและสาหัสมาก”
“เพื่อนพระสงฆ์ที่มีส่วนร่วมในพิธีทำให้ผมมองเห็นว่าการต่อสู้กับปีศาจนั้นเป็นพันธกิจ  คุณจะเป็นพระสงฆ์ผู้ประกอบพิธีนี้ได้โดยพระบัญชาของพระเป็นเจ้าเท่านั้น  อำนาจที่คุณจะต้องมีก็คือ อำนาจประกาศพระวาจาของพระเจ้า  อำนาจการรักษาผู้ป่วยและอำนาจในการขับไล่ปีศาจ  สามสิ่งนี้เป็นสิ่งที่มีอยู่ในพระศาสนจักร”
---------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น