ความลับ 12 ข้อนี้ พระเยซูเจ้าทรงบอกกับคุณพ่อปีโอว่า “โลกกำลังเดินไปสู่ความพินาศ....มนุษย์ได้ละทิ้งหนทางที่ถูกต้อง”...คำชี้แนะของความลับเหล่านี้มีอยู่ในพระคัมภีร์ ปต.3,2-13
เป็นสิ่งที่น่านำมาพิจารณาไตร่ตรองว่า เมื่อไรที่เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นมิใช่หรือ? และคำตอบอยู่ใน ปต.3,2-13
บทความต้นฉบับถูกตีพิมพ์ลงหนังสือคาทอลิก ไดเจสต์
มีคนเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าในบรรดาพระพรต่างๆที่คุณพ่อปีโอได้รับนั้น มีพระพรหนึ่งที่พิเศษมาก นั้นคือพระพรแห่งการทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้า และพระเยซูเจ้าเองทรงบอกแก่คุณพ่อ ในจดหมายของคุณพ่อปีโอเขียนถึงคุณพ่ออธิการในปี 1959 คุณพ่อปีโอได้เปิดเผยว่าพระเยซูเจ้าได้ตรัสถึงจุดจบของโลก
จดหมายที่คุณพ่อปีโอเขียนนี้มีความยาวมาก เต็มไปด้วยสาส์นของพระเยซูเจ้า แต่เราจะนำมาเพียง 12 สาส์นซึ่งมีที่มาจากหนังสือ “I grandi profeti” ที่เขียนโดย Renzo Baschera
*******************
1. โลกกำลังเดินไปสู่ความพินาศ มนุษย์ได้ละทิ้งหนทางที่ถูกต้องไปสู่ทางตันในทะเลทรายแห่งความรุนแรง.....ถ้าหากพวกเขาไม่ดื่มน้ำจากลำธารแห่งความสุภาพถ่อมตน , ความเมตตากรุณาและความรัก พวกเขาจะประสบกับภัยพิบัติ.
2. สิ่งที่น่ากลัวจะมา เราไม่สามารถผ่อนปรนให้กับมนุษย์ได้อีกต่อไป ความรักอันศักดิ์สิทธิ์กำลังจะสิ้นสุดลง มนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อชีวิตแห่งความรัก แต่ต้องสิ้นสุดลงที่ชีวิตแห่งการทำลาย
3. เมื่อโลกถูกมอบหมายให้แก่มนุษย์ มันคือสวนแห่งหนึ่ง แต่มนุษย์ได้เปลี่ยนมันในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษ เวลานี้ไม่มีสิ่งใดที่ช่วยชำระล้างบ้านเรือนของมนุษย์ให้สะอาดบริสุทธิ์ได้ จำเป็นต้องมีการทำงานอย่างจริงจัง ซึ่งจะได้รับมาจากสวรรค์เท่านั้น
4. จงเตรียมตัวสำหรับสามวันแห่งความมืดสนิท สามวันนี้ใกล้มาถึงแล้ว....และในวันเหล่านั้นมนุษย์จะมีชีวิตเหมือนตายแล้วโดยปราศจากอาหารและน้ำดื่ม และแล้วแสงสว่างจะกลับคืนมา แต่หลายคนจะกลายเป็นมนุษย์ที่ไม่สามารถมองเห็นได้อีก
5. คนจำนวนมากจะพยายามหลบหนี แต่พวกเขาจะปราศจากเป้าหมาย พวกเขาจะพูดกันว่ามีความรอดอยู่ทางตะวันออกและประชาชนก็จะพากันวิ่งไปทางตะวันออก แต่พวกเขาจะพากันตกหน้าผา พวกเขาจะพูดกันว่าทางตะวันตกมีความรอดและประชาชนก็จะพากันวิ่งไปทางตะวันตก แต่พวกเขาจะพากันตกลงในเตาไฟ
6. โลกจะสั่นสะเทือนและมีความหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง....โลกเจ็บป่วย แผ่นดินไหวจะเป็นเหมือนงู มันจะเลื้อยคลานไปทุกหนแห่ง และก้อนหินหลายก้อนจะตกลงมา คนเป็นจำนวนมากจะพินาศ
7. พวกท่านเป็นเหมือนมด เพราะเวลาจะมาถึงเมื่อมนุษย์จะควักตาของพวกเขาออกเพื่อแลกกับขนมปังเพียงหนึ่งก้อน ธุรกิจจะถูกปล้น คลังสินค้าจะถูกปล้นและทำลาย น่าสงสารสำหรับคนที่อยู่ในวันแห่งความมืดมิดนั้น พวกเขาจะไม่มีแม้แต่เทียนหนึ่งเล่ม ไม่มีน้ำแม้แต่เพียงหนึ่งเหยือกและปราศจากสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตสำหรับเวลาสามเดือน
8. พื้นแผ่นดินจะหายไป....ผืนแผ่นดินใหญ่ ประเทศจะถูกลบทิ้งไปตลอดกาลจากแผนที่ภูมิศาสตร์....และประวัติศาสตร์ของมัน ความมั่งคั่งของมันและผู้คนของมันจะถูกลากดึงลงไปสู่ดินโคลน
9. ความรักของมนุษย์ต่อมนุษย์ด้วยกันจะกลายเป็นเพียงคำพูดลมแล้ง ท่านจะหวังให้พระเยซูเจ้าทรงรักท่านได้อย่างไร ในเมื่อท่านไม่รักแม้แต่คนที่ทานอาหารร่วมโต๊ะกับท่าน? ....ด้วยพระพิโรธของพระเจ้า ผู้ที่มั่นใจในวิทยาศาสตร์จะไม่ได้รับการอภัย เว้นแต่ผู้ที่มีน้ำใจเท่านั้น
10. เราหมดหวัง.....เราไม่รู้ว่าจะทำให้มนุษยชาติสำนึกผิดได้อย่างไร ถ้าหากมนุษย์ยังคงเดินอยู่ในหนทางนี้ พระพิโรธอันใหญ่หลวงของพระเจ้าจะถูกปลดปล่อยออกมาเหมือนเสียงฟ้าผ่าสะเทือนเลื่อนลั่น
11. อุกาบาตจะตกลงมาบนโลกและทุกสิ่งจะเปล่งแสง มันจะเป็นภัยพิบัติ เลวร้ายยิ่งกว่าสงคราม หลายสิ่งจะสูญหาย และนี่จะเป็นหนึ่งในสัญญาณเหล่านั้น.....
12. มนุษย์จะมีประสบการณ์อันเลวร้าย หลายๆคนจะจมลงไปในน้ำ หลายๆคนจะถูกเผาไหม้ด้วยไฟ หลายๆคนจะถูกฝังด้วยมลพิษ....แต่เราจะอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่มีหัวใจบริสุทธิ์ ผู้ที่พิจารณาไตร่ตรองอย่างจริงจัง แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อไร? กุญแจอยู่ที่พระคัมภีร์ในบทจดหมาย ปต. 3,2-13
จงระวังตัวไว้เถิด เพราะพระเจ้าจะมาเหมือนขโมย
******************
บทจดหมายนักบุญเปโตร ฉบับที่ 2 ข้อ 3 , 2-13
จงรู้เถิดว่า เรื่องสำคัญที่สุดคือ ในยุคสุดท้าย จะมีผู้เยาะเย้ยที่ใช้คำพูดถากถางตามกิเลสตัณหาของตนพูดว่า พระสัญญาว่าจะเสด็จมานั้นอยู่ที่ไหน ตั้งแต่เวลาที่บรรพบุรุษของเราล่วงหลับไปแล้ว ทุกสิ่งยังคงเป็นอยู่เหมือนเดิมดังเมื่อทรงสร้างโลก เขาเหล่านั้นแสร้างลืมไปว่า พระวาจาของพระเจ้าสร้างสวรรค์มานานแล้ว และทรงแยกแผ่นดินจากน้ำและให้น้ำล้อมแผ่นดินไว้ ต่อมาพระองค์ทรงทำลายโลกด้วยน้ำ คือน้ำวินาศ บัดนี้ก็เช่นเดียวกัน พระวาจาเดียวกันนี้รักษาสวรรค์และแผ่นดินไว้เพื่อให้ไฟเผาผลาญ คือเก็บไว้จนกว่าจะถึงวันแห่งการพิพากษาและทำลายคนบาป
ท่านที่รักทั้งหลาย สิ่งหนึ่งที่ท่านต้องไม่ลืม คือสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า เพียงหนึ่งวันก็เหมือนกับหนึ่งพันปี และหนึ่งพันปีก็เหมือนกับหนึ่งวัน องค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ทรงรีรอที่จะปฏิบัติตามพระสัญญาดังที่บางคนคิด แต่พระองค์ทรงอดกลั้นต่อท่านทั้งหลาย ไม่ทรงประสงค์ให้ผู้ใดต้องพินาศ แต่ทรงประสงค์ให้ทุกคนกลับใจเปลี่ยนวิถีชีวิต วันขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะมาถึงอย่างไม่รู้ตัวเหมือนขโมย วันนั้นท้องฟ้าจะอันตรธานสูญสิ้นไปด้วยเสียงกึกก้อง โลกธาตุจะลุกเป็นไฟแตกแยกจากกัน แผ่นดินและสรรพสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินจะมอดไหม้สูญสิ้นไป
เมื่อทุกสิ่งต้องสูญสลายไปเช่นนี้ ท่านจงตระหนักว่าจะต้องประพฤติตนอย่างไร จะต้องดำเนินชีวิตให้ศักดิ์สิทธิ์และมีความเลื่อมใสศรัทธา รอคอยวันของพระเจ้าและพยายามเร่งให้วันนั้นมาถึง วันนั้นท้องฟ้าจะถูกไฟเผาผลาญ และโลกธาตุจะถูกไฟเผาละลายไป เรากำลังรอคอยฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่ ซึ่งเป็นที่อยู่ถาวรของความชอบธรรมตามพระสัญญา
**************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น