วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

 
โดยคุณพ่อยอห์นชัยยะ กิจสวัสดิ์  
ยอห์น 15:1-8 
1เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน 2กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น 3ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน 4ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น 5เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย 6ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา 7ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ 8พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
******************
 
 
 
พระวรสารวันนี้เริ่มต้นด้วยพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ว่า“เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน” เพราะฉะนั้น วันนี้เราจะพูดเรื่องการทำสวนองุ่นกันสักหน่อย
 
เคล็ดลับในการทำสวนองุ่นให้ได้ผลดีอยู่ที่การลิดกิ่งและดูแลดินให้สะอาด สามปีแรกต้องหมั่นตัดหรือลิดกิ่งอย่าให้เกิดผลเพื่อจะได้รักษาความแข็งแรงของเถาองุ่นเอาไว้ เมื่อเถาองุ่นโตเต็มที่แล้ว กิ่งก้านใดที่ไม่เกิดผลก็ต้องตัดทิ้ง อย่าปล่อยให้มันดูดน้ำเลี้ยงและทำให้เถาองุ่นไม่แข็งแรง
 
ตรงนี้แหละที่ทำให้พระเยซูเจ้าตรัสว่า “กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย” !!
 
กิ่งก้านที่ไม่เกิดผลประการแรกก็หมายถึง ผู้ที่รับศีลล้างบาปเป็นคริสตชนแล้ว แต่ไม่ได้ดำเนินชีวิตแข็งขันเหมือนอย่างเซาโลที่เราได้ฟังในบทอ่านที่หนึ่งวันนี้ เซาโลเมื่อกลับใจและเปลี่ยนชื่อเป็นเปาโลแล้ว ท่านประกาศข่าวดีเรื่องพระเยซูเจ้าอย่างแข็งขันชนิดไม่เห็นอุปสรรคอยู่ในสายตา แม้จะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่จ้องจะเอาชีวิตท่านก็ตาม
 
นอกจากนี้กิ่งก้านที่ไม่เกิดผลยังหมายถึง คริสตชนที่นักบุญยอห์นในบทอ่านที่สองเรียกว่า “รักกันแต่ปาก” แต่ไม่ได้ทำจริง คือเชื่อและฟังพระเยซูเจ้าแต่ไม่ปฏิบัติตามที่พระองค์ทรงสั่งสอน เข้าตำรา “ดีแต่พูด”
 
และกิ่งก้านที่ไม่เกิดผลพวกสุดท้ายก็คือ พวกที่ฟังและปฏิบัติตามที่พระองค์ทรงสั่งสอนก็จริง แต่เมื่อประสบความยากลำบากในชีวิตก็ทอดทิ้งและทรยศพระองค์
 
เราต้องไม่ลืมว่า อนาคตของกิ่งก้านที่ไม่เกิดผลนั้นน่ากลัวยิ่งนัก เพราะมันจะถูกโยนทิ้งและเผาไฟ !
 
เพื่อจะบังเกิดผลมาก เคล็ดลับประการแรกก็คือ “ทำดินให้สะอาด” ซึ่งพระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน” (ยน 15:3) ก็แปลว่าเราจะสะอาดได้ก็โดยอาศัยพระวาจา เพราะฉะนั้น เราต้องหมั่นฟัง และอ่านพระวาจาอยู่เสมอ จะเพิกเฉยหรือละเลยไม่ได้เป็นอันขาด !
 
เคล็ดลับที่สองก็คือ “ลิดกิ่งที่ไม่เกิดผล” เช่นความเห็นแก่ตัว ความเกลียดชัง ความอิจฉาริษยา ความมักใหญ่ใฝ่สูง ฯลฯ ซึ่งรังแต่จะแย่งน้ำเลี้ยงไปจากเรา และทำให้เราอ่อนแอ ไม่แข็งแรง
 
และเคล็ดลับสุดท้ายซึ่งเป็นสูตรเด็ดของพระเยซูเจ้าเลยก็อยู่ตรงพระวาจาที่ตรัสว่า “ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก” (ยน 15:5)
 
ลองคิดแง่ลบก่อนว่า ถ้าเราไม่ยอมดำรงอยู่ในพระองค์ และไม่ยอมให้พระองค์ดำรงอยู่ในเรา จะเกิดอะไรขึ้น?
 
มีเรื่องเล่าของชาวอินเดียนแดงเรื่องหนึ่ง...
 
มีชาวอินเดียนแดงคนหนึ่งไปพบไข่นกอินทรีย์เข้าโดยบังเอิญ เขาเอาไข่ใบนี้ใส่ลงไปในรังไก่ ลูกนกอินทรีย์ฟักออกมาเป็นตัวพร้อมกับลูกไก่ตัวอื่นๆ มันเจริญเติบโตพร้อมกับลูกไก่และคิดว่าตัวมันเองเป็นไก่ มันทำทุกอย่างเหมือนที่ไก่ทำ มันคุ้ยเขี่ยดินหาเมล็ดพืชและแมลงกิน มันบินสูงจากพื้นได้ไม่เกิน 2-3 ฟุตเหมือนไก่ตัวอื่นๆ เวลาผ่านไป นกอินทรีย์เคราะห์ร้ายตัวนี้เริ่มแก่ แล้ววันหนึ่งมันก็มองเห็นนกตัวหนึ่งบินสูงลิบอยู่บนท้องฟ้า มันร่อนถลาไปตามกระแสลมและทะยานสูงขึ้นอย่างสง่างามด้วยปีกอันแข็งแรงของมัน นกอินทรีย์เคราะห์ร้ายถึงกับเอ่ยกับเพื่อนไก่ของมันว่า “นกอะไรกัน ช่างสวยงามเหลือเกิน” เพื่อนไก่ตอบว่า “นั่นแหละนกอินทรีย์ ราชาแห่งนกละ แต่เอ็งไม่ต้องคิดจะเป็นเหมือนเค้าหรอกนะ” แล้วนกอินทรีย์ที่น่าสงสารก็เลิกคิดที่จะเป็นนกอินทรีย์ และก็ตายไปโดยที่คิดว่าตนเองเป็นไก่ !
 
นกโชคร้ายตัวนี้ก็เปรียบเหมือนกิ่งองุ่นที่ไปติดอยู่กับเถาผิดๆ ไม่ใช่เถาองุ่นแท้อย่างพระเยซูเจ้า ผลมันจึงออกมาน่าเศร้าเช่นนี้
 
ปัจจุบันมีเถาองุ่นผิดๆ มากมายที่ทำให้เราหลงใหลและเอาตัวเราเข้าไปติดพัน ที่น่ากลัวที่สุดก็คือเถาองุ่นแห่งวัตถุนิยม เถาองุ่นแห่งการแสวงหาความบันเทิงสนุกสนานใส่ตัว เถาองุ่นแห่งการดิ้นรนต่อสู้เพื่อยศถาบรรดาศักดิ์และอำนาจ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนมีผลต่อการมองตัวตนของเราว่าจะเป็นแค่ไก่ธรรมดาๆ หรือจะเป็นนกอินทรีย์อันสง่างาม และที่สำคัญ มุมมองนี้มันส่งผลต่อความคาดหวัง และต่อเพดานความสำเร็จของเราอย่างใหญ่หลวงจริงๆ
 
เป็นถึงนกอินทรีย์ แต่ต้องจบชีวิตลงเหมือนไก่ตัวหนึ่ง มันน่าเสียดาย
 
และจะยิ่งน่าเสียดายกว่าอีก หากเราเป็นถึงบุตรของพระเจ้า เป็นฉายาของพระเจ้า แต่ดันไปติดอยู่กับเถาองุ่นผิดๆ แล้วต้องจบชีวิตลงไม่ต่างไปจากหมู หมา หรือเป็ดไก่ตัวหนึ่ง
 
เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องดำรงอยู่ในพระเยซูเจ้า ผู้ทรงเป็นเถาองุ่นแท้ และให้พระองค์ดำรงอยู่ในตัวเรา หาไม่แล้วชะตากรรมของเราคงไม่ต่างไปจากนกอินทรีย์เคราะห์ร้ายตัวนั้น
 
พูดง่ายๆ ก็คือ เราต้องมีชีวิตสนิทสัมพันธ์กับพระองค์
 
เคล็ดลับความสำเร็จของพระเยซูเจ้าอยู่ที่การมีชีวิตสนิทสัมพันธ์กับพระบิดาฉันใด ความสำเร็จและความรอดพ้นของเราก็ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของเรากับพระองค์ฉันนั้น
 
พระองค์จึงตรัสว่า “ถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย”
 
แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องระลึกอยู่เสมอก็คือ ความสนิทสัมพันธ์กับพระเยซูเจ้าจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเราไม่ “เริ่มต้นก้าวไปหาพระองค์”
 
ก้าวแรก ขอให้เราเริ่มต้นแต่ละวันด้วยการ “สวดภาวนา” เพราะการสวดภาวนาเป็นเสมือนยาปฏิชีวนะที่ช่วยป้องกันเราจากอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่แฝงมาตลอดทั้งวัน
 
ก้าวต่อๆ ไป ขอให้เราจัดระเบียบชีวิตเพื่อให้มีเวลาสำหรับติดต่อกับพระองค์ อย่าเปิดโอกาสให้เราหลงลืมพระองค์แม้แต่วันเดียวเป็นอันขาด !
 
ในบูชามิสซาวันนี้ ให้เราวอนขอพระเยซูเจ้าโปรดให้เราดำรงอยู่ในพระองค์ ผู้ทรงเป็นเถาองุ่นแท้ และขอให้พระองค์ดำรงอยู่ในเราตลอดไปด้วยเทอญ
 
***************************


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น