วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

การถวายรัสเซียแด่ดวงหทัยนิรมลช่วยโลกไว้

 

Spiritdaily.com :
 
ย้อนกลับไปในช่วงปี 1990 เราได้รับหนังสือชื่อ“Two Hours With Sister Lucia” เขียนโดยล่ามชื่อ Carlos Evaristo ที่อาศัยอยู่ที่หอพักเซนต์แอนน์ในฟาติมา,ประเทศโปรตุเกส มันเป็นบทความพร้อมรูปถ่ายของการพบปะกันสองครั้งระหว่างลูซีอา โดสซานโตสและพระคาร์ดินัลสองท่าน,พระสังฆราชหนึ่งท่าน,และพระสงฆ์หนึ่งท่าน
 


สิ่งที่เขียนในหนังสือนั้นน่าสนใจมาก: ตามรายละเอียดของการถอดเสียงพูดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 1992,ระหว่างการพบครั้งแรกที่อารามคาร์เมลแห่งเซนต์เทเรซาคอนแวนต์,ในโกอิมบรา,ประเทศโปรตุเกส เมื่อพระคาร์ดินัลปาดิยาราแห่งเออร์นาคูลัม,อินเดีย(Padiyara of Ernaculam, India,) ถามว่าในวันที่ 25 มีนาคม 1984,พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ได้ทำตามคำขอร้องสำคัญของพระแม่มารีย์ นั่นคือการถวายประเทศรัสเซียแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่พระนั้น,ได้สัมฤทธ์ผลตามคำขอร้องของแม่พระแล้วหรือไม่ แม่พระตรัสกับบรรดาเด็กว่าจะทำให้รัสเซียกลับใจ ซิสเตอร์ลูซีอาตอบว่า: “ใช่ค่ะ, ใช่. ใช่. การถวายได้ทำสำเร็จไปแล้วบางส่วน พระสันตะปาปาปิโอที่ 12 ทรงกระทำในปี 1942 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม แต่ไม่มีการร่วมกันของพระสังฆราชทั่วโลก,แต่ในที่สุดพระสันตปาปายอห์นปอลที่ 2 ก็สามารถทำร่วมกับพระสังฆราชทั่วโลกได้ในปี 1984”
 
เป็นเวลาหลายสิบปีแล้วที่ผู้ติดตามการประจักษ์ของแม่พระได้ถกเถียงกันว่าการถวายประเทศรัสเซียตามคำขอร้องของแม่พระในปี 1984 โดยพระสันตปาปายอห์นปอลที่2นั้นได้ดำเนินไปอย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะพระสันตปาปาได้ทำการถวาย "โลก" แต่ในบทภาวนานั้นไม่ได้ระบุอย่างเจาะจงของชื่อ "รัสเซีย" การโต้เถียงเป็นไปค่อนข้างร้อนแรง และยังคงเป็นที่ถกเถียงกันจนถึงทุกวันนี้ เห็นได้ชัดว่าวาติกันระมัดระวังการระบุชื่ออย่างเปิดเผยมานานแล้วซึ่งจะถูกมองว่าเป็นการไปเหยียบเท้าโซเวียตในช่วงสงครามเย็นที่ตึงเครียดนี้
 
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 1991 ซิสเตอร์ลูซีอา,ผู้เห็นแม่พระเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ตอบคำถามในแบบที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมีมา
 
ซิสเตอร์ลูซีอาอธิบายว่าพระสันตปาปาเปาโลที่ 6 ได้พยายามประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซียในเวลาใกล้กับมีสังคายนาวาติกันครั้งที่ 2 แต่เมื่อเธอถามพระแม่มารีย์,ซึ่งยังคงประจักษ์แก่เธอในบางครั้งหลังการประจักษ์ปี 1917 - พระแม่มารีย์ทรงกล่าวว่า “ไม่” พระนางทรงประสงค์ให้พระสังฆาชอยู่ในสังฆมณฑลของตนและประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซีย(ไม่ใช่ให้พระสังฆราชทุกองค์มารวมตัวกันในที่แห่งเดียวเพื่อประกอบพิธี อันเป็นการทำให้พวกท่านต้องห่างไกลจากสัตบุรุษของพวกท่าน)
 

นอกจากนี้ยังมีความพยายามที่จะประกอบพิธีนี้โดยพระสันตปาปายอห์นปอลที่ 2 ในปี 1982 (ซึ่งซิสเตอร์ลูซีอาก็อยู่ร่วมด้วย) แต่พิธีนี้ขาดการร่วมกันของพระสังฆราชทั่วโลก, (ซิสเตอร์ลูซีอาอธิบายแก่พระคาร์ดินัล)  แต่ในปี 1984 พระสันตปาปายอห์นปอลที่ 2 ทรงประกอบพิธีอีกครั้ง,และครั้งนี้มีพระสังฆราชทั่วโลกร่วมประกอบพิธีด้วย (โดยพระสังฆราชแต่ละท่านอยู่ที่สังฆมณฑลของตนในประเทศต่างๆ)
 

แม้กระนั้น,ชื่อของประเทศรัสเซียก็ไม่ได้ถูกเอ่ยถึง,ซิสเตอร์ลูซีอากล่าว “พระเจ้าทรงทราบดีว่าความตั้งใจของพระสันตปาปาคือรัสเซีย” เช่นเดียวกับบรรดาพระสังฆราชด้วย เธอบอกกับพระคาร์ดินัล,พระสังฆราช,และพระสงฆ์ว่าพระแม่มารีย์ไม่เคยกำหนดให้มีการเอ่ยชื่อรัสเซีย (นี่คือประเด็นสำคัญของการถกเถียงกันมาอย่างต่อเนื่อง)
 
เป็นที่น่าสังเกตว่า,เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากการประกอบพิธีในวันที่ 13 พฤษภาคม 1984 ซึ่งเป็นวันครบรอบ67ปีการประจักษ์ที่ฟาติมา - ก็เกิดการระเบิดที่ฐานทัพเรือ Severomorsk ของโซเวียตได้ทำให้ขีปนาวุธ 2 ใน 3 ของทั้งหมดถูกทำลายไป,มันเป็นขีปนาวุธที่มีไว้สำหรับกองเรือภาคเหนือของโซเวียต นอกจากนี้ยังได้ทำลายโรงงานที่จำเป็นในการบำรุงรักษาขีปนาวุธและสังหารช่างเทคนิคหลายร้อยคนด้วย บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารของตะวันตกเรียกมันว่าเป็นภัยพิบัติทางเรือที่เลวร้ายที่สุดที่กองทัพเรือโซเวียตต้องเผชิญมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง
 

ผลจากการประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซียยังทำให้เกิดเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ยิ่งขึ้น นั่นคือการล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในโปแลนด์ในปี 1989 ตามด้วยการล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าในเยอรมนีตะวันออก,เชโกสโลวาเกีย,ฮังการี,โรมาเนียและบัลแกเรีย (“การพังกำแพงเบอร์ลิน” และ“การพังทลายของม่านเหล็ก”)
 
ไม่มีผู้เชี่ยวชาญของรัฐ,ไม่มีนักวิชาการทางเศรษฐกิจ,ไม่มีผู้นำทางการเมืองและไม่มีนักวิเคราะห์ทางโทรทัศน์คนใดกล้าคาดการณ์ว่าสิ่งนี้จะสามารถเกิดขึ้นได้
 
ภายในระยะเวลาสองปี,ลัทธิคอมมิวนิสต์กก็ล่มสลายในสหภาพโซเวียต อันประกอบด้วย ลัตเวีย,ลิทัวเนีย,เอสโตเนีย,ยูเครน,อาร์เมเนีย,อาเซอร์ไบจัน,เบลารุส,จอร์เจีย,คาซัคสถาน,คีร์กีซสถาน,มอลโดวา,ทาจิกิสถาน,เติร์ก,เมนิสถานและอุซเบกิสถาน ตามด้วยการล่มสลายของเผด็จการคอมมิวนิสต์ในประเทศรัสเซีย.
 
ไม่มีใครคาดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ในช่วงชีวิตของเรา-ต่อมาอีกไม่กี่ปี,แอลเบเนียและยูโกสลาเวียก็เข้าร่วมกับประเทศอื่นๆ
 
ซิสเตอร์ลูซีอาอธิบายว่า “ข่าวต่างๆเหล่านี้ได้อธิบายด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว”
 
บางคนอาจมีมุมมองที่ตรงกันข้าม, ในระหว่างการพูดคุยดังกล่าว,ซิสเตอร์ลูซีอาได้พูดกับพระสงฆ์ชาวแคนาดาคุณพ่อนิโคลัส กรุนเนอร์เป็นการส่วนตัว โดยเธอบอกว่าความสงสัยและข้อถกเถียงในเรื่องนี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง
 
เธอกล่าวเพิ่มเติมว่าการล่มสลายของสหภาพโซเวียตถือเป็น "ช่วงเวลาแห่งสันติภาพ"" ที่แม่พระทรงสัญญาไว้ในระหว่างการประจักษ์ว่าจะบังเกิดขึ้นถ้าหากพระสันตปาปาทรงกระทำตามคำขอร้องของพระนางนั้นคือการประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซียแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่พระ ซิตเตอร์กล่าวว่าสันติภาพนี้เกี่ยวข้องกับความตึงเครียดที่ลดลงอย่างมากระหว่างสหภาพโซเวียต(หรือตอนนี้เป็นเพียงแค่“รัสเซีย”) และประเทศอื่นๆของโลก มันเป็น "ช่วงเวลา" ที่แม่พระทรงสัญญาไว้ – แต่ไม่ใช่ "ยุคใหม่" (อย่างที่หลายคนตีความ)
 
ที่น่าทึ่งที่สุดคือ,ในการพบกันครั้งที่สองในอีกหนึ่งปีต่อมา - วันที่ 11 ตุลาคม 1993 – ซิสเตอร์ลูซีอากล่าวว่า เธอได้บอกกับพระคาร์ดินัลริคาร์โดวิดัลแห่งฟิลิปปินส์และคนอีก 8 คน (รวมทั้งพระสงฆ์สองท่าน) ว่า “การถวายในปี 1984 ป้องกันไม่ให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ที่จะ เกิดขึ้นในปี 1985” เธอกล่าวว่าชัยชนะแห่งดวงหทัยนิรมลของแม่พระได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ (ในคำพูดของล่าม Carlos Evaristo) เป็น “กระบวนการที่ดำเนินอย่างต่อเนื่อง” [ดูรายงานบน Youtube ของเขา]
 
ดังนั้นเราจึงมีบางสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อการถกเถียงในเรื่องนี้ยังคงมีอยู่
 
************************ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น