มีโบสถ์แห่งหนึ่งในอิตาลีที่มีดาบศักดิ์สิทธิ์ที่เสียบอยู่ในก้อนหิน
เมื่อนักท่องเที่ยวไปที่เมืองเซียนนา นอกจากจะได้ชมทิวทัศน์และสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว ยังจะได้มีโอกาสชมดาบที่ฝังอยู่ในหินจริงๆอีกด้วย ใช่แล้ว,ดาบของนักบุญกัลป์กาโน ถูกเสียบในก้อนหินและอยู่ในโบสถ์น้อย chapel of Montesiepi in Chiusdino
เมื่อไม่นานมานี้ประวัติของนักบุญกัลป์กาโน(St. Galgano) ได้รับการรวบรวมโดย Mario Moiraghi นักวิชาการชาวอิตาลีผู้ทำการศึกษาวรรณกรรมเชิงประวัติศาสตร์โดยเปรียบเทียบประวัติของนักบุญกับตำนานของ Percival และ Arthur ในหนังสือ L’enigma di san Galgano ของเขา
Mario Moiraghi ได้เขียนในหนังสือของเขาว่า ตำนานแห่งดาบในหินของกษัตริย์อาเธอร์ได้รับแรงบันดาลใจจากหินก้อนนี้ที่อยู่ในทัสคานี นักบุญกัลกาโนเกิดเมื่อประมาณปี 1148 และเสียชีวิตในปี 1181 เรื่องราวของท่านเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการตีพิมพ์หนังสือนิยายพ่อมดเมอร์ลิน “Merlin” ของ Robert de Boron ในศตวรรษที่ 13 Moiraghi ยังนำทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Pavia มาศึกษาดาบและทดสอบตัวอย่างขนาดเล็กเพื่อยืนยันว่าวัตถุดังกล่าวมีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 12
การวิเคราะห์เรดาร์เจาะเข้าไปในก้อนหินได้พบว่าใต้ดาบมีโพรงขนาด 2 ม. x 1 ม. ซึ่งคิดว่าเป็นที่ฝังศพซึ่งอาจมีร่างของอัศวินอยู่ด้วย “หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเราต้องขุดค้น” Garlaschelli กล่าวซึ่งการค้นพบนี้ได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสาร Focus
การวิเคราะห์ด้วยวิธี Carbon-dating ยืนยันว่ามือสองมือของซากศพในโบสถ์เดียวกันที่ Montesiepi นั้นมาจากศตวรรษที่ 12 เช่นกัน ตำนานเล่าว่าใครก็ตามที่พยายามจะดึงดาบออกจากก้อนหิน,ถ้าหากทำไม่สำเร็จแขนของเขาจะถูกฟันจนขาด
นักบุญกัลกาโนเป็นใคร?
ท่านเป็นลูกชายของขุนนางศักดินาที่ไม่รู้หนังสือ เป็นที่รู้จักกันดีว่าท่านเป็นผู้ที่มีความหยิ่ง,เห็นแก่ตัวและชอบก่อปัญหา,จนถึงวันที่ท่านได้รับนิมิต อัครเทวดามีคาแอล,หัวหน้าทูตสวรรค์,ได้ประจักษ์แก่ท่านและบอกให้ท่านเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา
กัลกาโนตัดสินใจที่จะดำเนินชีวิตเป็นฤๅษี ในขณะที่ท่านปีนขึ้นไปบนภูเขาเพื่อปลีกวิเวกและใช้ชีวิตในการพิจารณาไตร่ตรอง,เสียงหนึ่งบอกท่านว่าท่านต้องละทิ้งความชั่วร้ายทั้งหมด และท่านนักบุญตอบว่า “การตัดหินด้วยดาบนี้ยังจะง่ายกว่าทำเช่นนั้น”
เขายิ่งประหลาดใจเมื่อเขาเอาดาบไปปักบนหินเพื่อพิสูจน์ความคิดของเขา ดาบปักจมลงไปในก้อนหินอย่างง่ายดาย เมื่อเผชิญหน้ากับอัศจรรย์นี้,กัลป์กาโนคุกเข่าลงและสวดภาวนา ท่านใช้ชิวตเป็นฤๅษีตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา สี่ปีหลังจากการตายของท่าน,ท่านได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญและมีการสร้างโบสถ์ขึ้นคลุมดาบในปี 1189: โบสถ์ที่มีชื่อว่า “Rotonda della Spada”
ทุกวันนี้ผู้มาเยี่ยมชมซากปรักหักพังของ Abbey of Saint Galgano ในช่วงฤดูร้อนสามารถเพลิดเพลินกับการแสดงในเทศกาลของ Aida, Cavalleria Rusticana, The Barber of Seville และการแสดงโอเปร่าที่ยิ่งใหญ่ ในซากปรักหักพังของวัดเก่าแก่ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่ล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมยุคกลาง และรับรู้เรื่องราวที่แท้จริงของดาบถูกปักอยู่ในศิลา
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น