วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

คุณพ่อปีโอช่วยให้ตาของเด็กน้อยหายบอด

 


 
อัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเพราะคุณพ่อปีโอนั้น บางครั้งเกิดขึ้นโดยที่คุณพ่อมิได้อยู่ด้วย อัศจรรย์ที่โด่งดังในการรักษาโรคของคุณพ่อเกิดกับหนูน้อยชาวซีซิลี ชื่อเจ็มมา ดี จอร์จี (Jemma di Giorgi) เป็นการหายโดยไม่มีพิธีรีตรองใด ๆ เจ็มมาตาบอดตั้งแต่เกิด เพราะไม่มีแก้วตาดำ แต่เธอสามารถมองเห็นและแยกแยะสีต่างๆ ได้ เธอสามารถข้ามถนนได้เอง แม้ในเวลาที่มีรถมาก ปกติเย็มมาสวมแว่นตาสีทึบเพื่อปกปิดตาเหมือนคนตาบอดทั่วไป มารดาของเธอเปิดกิจการบ้านพัก ส่วนบิดาทำงานในไร่ ปัจจุบันเจ็มมาสามารถช่วยงานในครัว และทำความสะอาดที่พักได้อย่างไม่มีที่ติ
 
(แม่ของเจ็มมา) “หลังจากที่เจ็มมาเกิดได้ 3 เดือน ดิฉันสังเกตว่าเธอไม่มีแก้วตา ดิฉันจึงรีบไปหาหมอซึ่งยืนยันว่า เธอไม่มีทางจะมองเห็นได้เลย ญาติคนหนึ่งจึงเขียนจดหมายไปถึงคุณพ่อปีโอ คุณพ่อก็ตอบมาว่า ‘คุณมั่นใจได้เลยว่า พ่อจะสวดอ้อนวอนให้’
 
(ยายของเจ็มมา) “ปกติเวลาเธอจับต้องอะไร เธอจะถามเสมอว่า สิ่งที่จับอยู่นั้น เป็นอะไรและใช้ทำอะไร? วันหนึ่ง ดิฉันพาเธอไปที่ทะเล และบอกให้เธอฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ดิฉันพาเธอไปลูบคลำเรือลำหนึ่ง และอธิบายเรื่องของเรือให้ฟัง หลังจากนั้นหนึ่งปี ดิฉันก็พาเธอซึ่งขณะนั้นอายุ 5 ขวบเดินทางไปพบคุณพ่อปีโอ เพื่อให้คุณพ่อช่วยรักษาให้ ระหว่างการเดินทางขณะที่รถไฟกำลังแล่นเลียบทะเลอาเดรียติกอยู่นั้น ดิฉันกำลังหลับอยู่ ทันใดนั้นหนูเย็มมาก็มาปลุกดิฉันพูดว่า ‘คุณยายคะ หนูเห็นสิ่งที่คุณยายเคยให้หนูลูบคลำที่ริมทะเลเมื่อปีที่แล้วแน่ะ’ ดิฉันขยี้ตาและมองออกไปก็เห็นเรือลำหนึ่งลอยอยู่ไกลในทะเลจริง ๆ”
 
(เจ็มมา) “จากนั้นมา ดิฉันก็เห็นได้อย่างชัดเจน และที่ซานโจวันนี ดิฉันก็ได้รับศีลมหาสนิทจากมือของคุณพ่อปีโอ คุณพ่อทำสำคัญมหากางเขนที่ตาของดิฉันให้ ที่จริงตาของดิฉันก็ยังคงเหมือนเดิม คือมีลักษณะเป็นตาของคนตาบอด ที่ต่างกันคือดิฉันมองเห็นได้อย่างชัดเจนทั้งที่ไม่มีแก้วตาดำ
 


เรื่องราวการรักษาของเจมม่า ดิ จิออร์จิ
 

Gemma di Giorgi เกิดในวันคริสต์มาสในปี 1939 ในเมืองริเบราของซิซิลี เกือบจะในทันที แม่ของเธอตระหนักว่าดวงตาของเธอแตกต่างจากดวงตาของเด็กคนอื่นๆ ความจริงก็คือ เจมม่าตาบอด แม่ของเธอพาเธอไปพบแพทย์ที่ไม่สามารถระบุถึงสาเหตุของสภาพของเธอได้ เธอได้รับการส่งต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญสองคนในปาแลร์โม พวกเขาพิจารณาแล้วว่าเจมม่าไม่มีรูม่านตาในดวงตาของเธอ และไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเธอตาบอด ครอบครัวของเจมม่าหมดหวัง พ่อแม่ของเธอมักจะพาเธอไปที่แท่นพระรูปพระแม่มารีย์ในโบสถ์เพื่อสวดอ้อนวอนเพราะพวกเขารู้สึกว่าการรักษาดวงตาของเธอต้องใช้อัศจรรย์
 
ญาติผู้หนึ่งที่เป็นซิสเตอร์ได้แนะนำให้ครอบครัวไปหาคุณพ่อปีโอ คำแนะนำของเธอทำให้ครอบครัวมีความหวัง คุณยายของเจมม่าขอให้ซิสเตอร์เขียนจดหมายถึงคุณพ่อปีโอในนามของเจมม่า
 
เมื่อซิสเตอร์กลับไปที่คอนแวนต์ของเธอ เธอเขียนจดหมายถึงคุณพ่อปีโอเพื่อขอให้ท่านสวดภาวนาเพื่อเจมม่า คืนหนึ่งซิสเตอร์เห็นคุณพ่อปีโอในความฝัน คุณพ่อปีโอถามเธอว่า “เจมม่านี้อยู่ที่ไหน มีคนสวดภาวนาเพื่อเธอจนแทบหูหนวก” ในความฝันของเธอ เธอแนะนำให้เจมม่ารู้จักกับคุณพ่อปิโอ และท่านได้ทำเครื่องหมายกางเขนบนดวงตาของเธอ วันรุ่งขึ้นซิสเตอร์ได้รับจดหมายจากคุณพ่อปีโอซึ่งท่านเขียนว่า “ลูกสาวที่รัก จงวางใจเถิดว่าพ่อจะสวดอ้อนวอนให้เจมม่า พ่อขอส่งความปรารถนาดีของพ่อมายังลูก”
 
ซิสเตอร์ตกใจกับความบังเอิญของความฝันและจดหมายที่ตามมา เธอจึงเขียนจดหมายถึงครอบครัวของเจมม่าและสนับสนุนให้พวกเขาพาเจมม่าไปพบคุณพ่อปิโอ ดังนั้นในปี 1947 คุณย่าจึงพาเจมม่าวัย 7 ขวบไปที่ซาน จิโอวานนี โรตอนโดเพื่อพบกับคุณพ่อปิโอ เพื่อขอให้ท่านสวดอ้อนวอนและหวังว่าจะมีอัศจรรย์เกิดขึ้นกับเจมม่า
 
ระหว่างเดินทางจากซิซิลีไปยังซาน จิโอวานนี โรตอนโด สายตาของเจมม่าเริ่มทำงานอย่างลึกลับ
 

เจมม่าเริ่มเห็นทะเลและเรือกลไฟก่อนถึงจุดหมายราวๆครึ่งทาง เธอจึงเล่าเรื่องนี้ให้คุณยายฟัง ตามคำพูดของเจมม่า คุณยายของเธอและเพื่อนๆคนอื่นๆที่พาเจมม่าไป ทุกคนก็เริ่มสวดภาวนาอธิษฐาน อย่างไรก็ตาม,การเดินทางจากซิซิลีไปยังอารามนั้นยาวนานและยากลำบากมาก คุณยายของเจมม่ายังคงหมกมุ่นอยู่กับความคิดที่จะขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อปีโอเกี่ยวกับสายตาของ เจมม่า ที่ San Giovanni Rotondo ท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก คุณพ่อปีโอ แยกเจมม่าออกมาและเรียกชื่อเธอ ท่านฟังสารภาพบาปของเธอ และแม้ว่าเธอไม่ได้เอ่ยถึงอาการตาบอด คุณพ่อปีโอก็เอามือที่มีรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ของท่านแตะตาเธอแกะทำเครื่องหมายกางเขน ในตอนท้ายของการฟังสารภาพบาป คุณพ่อปีโอยกมืออวยพรเธอ และพูดว่า “ซิ บูโอนา อี ซานต้า” (Sii buona e santa เป็นคนดีและเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ดังนักบุญ)
 
คุณยายรู้สึกวุ่นวายใจที่เจมม่าลืมขอพรจากคุณพ่อปิโอให้รักษาตาของเธอขณะที่เธออยู่ในที่สารภาพบาป ดังนั้นเธอจึงเริ่มร้องไห้ เจมม่าก็วุ่นวายใจเช่นกันและเริ่มร้องไห้ คุณยายไปสารภาพบาปกับพ่อปีโอและเธอได้เล่าให้ฟังด้วยตัวเธอเองว่า “ฉันขอพระหรรษทานการรักษาของเจมมา และฉันบอกคุณพ่อปิโอว่าเจมม่าร้องไห้เพราะในการสารภาพบาป เธอลืมขอพระหรรษทานนี้ ฉันจะไม่ลืมเสียงที่นุ่มนวลและอ่อนโยนของคุณพ่อปีโอเลย ขณะที่ท่านตอบฉันด้วยคำพูดเหล่านี้ว่า “ลูกสาว,ลูกมีความเชื่อไหม? เด็กจะต้องไม่ร้องไห้และลูกก็ไม่ต้องร้องไห้เพราะเด็กเห็นได้แล้วและลูกก็รู้ว่าเธอเห็นได้แล้ว” ฉันเข้าใจแล้วว่า คุณพ่อปีโอกำลังพูดถึงทะเลและเรือ ที่เจมม่าได้เห็นระหว่างการเดินทางและพระเจ้าทรงใช้คุณพ่อปีโอเพื่อทำลายความมืดที่ปกคลุมดวงตาของเจมม่า ”ในวันเดียวกันนั้น คุณพ่อปิโอได้มอบศีลมหาสนิทครั้งแรกให้กับเจมม่า และทำเครื่องหมายกางเขนที่ดวงตาของเธออีกครั้ง”
 
เมื่อเจมม่ากลับมายังซิซิลี ดวงตาของเธอได้รับการตรวจสอบอีกครั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ แพทย์ที่ทำการทดสอบเจมม่าได้ถือสิ่งของต่างๆ ไว้ข้างหน้าเธอและเธอก็สามารถเห็นแต่ละชิ้นได้ เธอสามารถนับนิ้วของหมอได้ในระยะสิบหกฟุต เจมม่าถึงแม้จะไม่มีรูม่านตาก็ตาม เธอสามารถเห็น ทั้งๆที่แพทย์ประกาศว่าดวงตาของเจมม่าไม่สามารถมองเห็นได้ ไม่มีคำอธิบายทางการแพทย์สำหรับเรื่องนี้
 
แพทย์จำนวนมากจากทั่วอิตาลีขอให้ตรวจตาของเจมม่า การรักษาที่ไม่ธรรมดานี้และคำทำนายก่อนหน้านั้น กระตุ้นความสนใจอย่างมากในสื่ออิตาลีในช่วงฤดูร้อนปี 1947 สายตาของเจมม่าดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเธอสามารถไปโรงเรียนและเรียนรู้วิธีการอ่านและเขียน เธอสามารถดำเนินชีวิตอย่างปกติได้อย่างสมบูรณ์
 
Clarice Bruno ผู้แต่งหนังสือ “Roads to Padre Pio” พบกับเจมม่าในเดือนพฤษภาคมปี 1967 Clarice กล่าวว่าแม้ว่าสายตาของเจมม่าจะทำงานได้ แต่เธอก็ยังมีดวงตาที่ดูขุ่นมัวและเป็นหมอกซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของคนตาบอด Clarice บอกเจมม่าว่าเธอกำลังเขียนหนังสือเกี่ยวกับ คุณพ่อปีโอ และต้องการรวมเรื่องราวอัศจรรย์ของเจมม่าไว้ในนั้น เจมม่าขออนุญาตคุณพ่อปีโอเพื่อแบ่งปันเรื่องราวของเธอและท่านก็ให้ความยินยอม เนื่องจากสภาพอากาศที่มีแดดจัดและมีลมแรงมาก,เจมม่าจึงสวมแว่นกันแดดในวันที่เธอร้องขอจากคุณพ่อปีโอ ท่านแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ “ทำไม” คุณพ่อปีโอพูดขณะเอามือปิดตาเธอ ”ลูกสวมแว่นอยู่หรือ? ลูกดูดีมาก”
 
คุณพ่อจอห์น ชูก ผู้เขียนหนังสือ “A Padre Pio Profile” ได้พบกับเจมม่าและสัมภาษณ์เธอ ยังให้รายละเอียดว่า “เธอดูเหมือนคนตาบอด ดวงตาของเธอซีดและไร้แววตา แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอสามารถมองเห็นได้ ผมเห็นเธอเอื้อมมือไปหยิบสมุดโทรศัพท์ เช็คหมายเลข และกดหมายเลขโดยไม่ต้องคลำ”
 
ในขณะที่แพทย์ไม่สามารถสรุปเกี่ยวกับสภาพทางการแพทย์ของ Gemma di Giorgi ได้ทั้งหมด ข้อเท็จจริงที่สามารถระบุได้อย่างแน่นอนคือ: (1) Gemma di Giorgi เกิดมาพร้อมกับความบกพร่องที่ร้ายแรงของดวงตา; (2) ก่อนที่คำภาวนาของคุณพ่อปีโอ นิมิการมองเห็นตของเธอก็ค่อนข้างบกพร่องหรือไม่มีอยู่เลย และ (3) หลังจากนั้น แม้ว่าโครงสร้างทางกายภาพของดวงตาของเธอยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เจมม่าก็สามารถมองเห็นได้ตามปกติ แม้ว่าจะถูกจัดอย่างเป็นทางการว่าเธอตาบอดอย่างแน่นอนก็ตาม
 
แล้วบทสรุปเป็นอย่างไร? ขณะที่เจมม่าและคุณยายของเธอกำลังเดินทางไปซาน จิโอวานนี โรตอนโดเพื่อขอพระคุณแห่งการรักษา พระคุณก็มาถึงพวกเขาผ่านการวิงวอนของคุณพ่อปิโอ ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงจุดหมายเสียอีก พระเจ้า,ด้วยเหตุผลลึกลับของพระองค์เอง,ทรงต้องการให้มันเกิดขึ้นในลักษณะนี้ เจมม่าได้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อเล่าเรื่องราวของเธอ
 

************************ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น