วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2564

บทวันทามารีย์สามบทของนักบุญอันตนแห่งปาดัว

 



 
นักบุญอันตนแห่งปาดัวสนับสนุนให้ผู้คนที่ติดตามท่านสวดภาวนาบทวันทามารีย์สามบทเสมอเมื่อพวกเขามีความปรารถนาในสิ่งใด
 
ตลอดการทำงานของท่าน,นักบุญอันตนแห่งปาดัวมีความศรัทธาอย่างลึกซึ้งต่อพระมารดาพรหมจารีย์มารีย์ มีคําบอกเล่าว่า ท่านกระตุ้นเตือนให้ผู้คนที่ติดตามท่านสวดภาวนาบทวันทามารีย์สามบททุกวัน
 
การปฏิบัติความศรัทธานี้เป็นเรื่องง่าย ประกอบด้วยการสวดบทวันทามารีย์สามบทติดต่อกัน บ่อยครั้งที่การสวดภาวนาเช่นนี้จะเชื่อมโยงกับความตั้งใจในเรื่องความบริสุทธิ์ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้บังคับว่าจะต้องมีความตั้งใจนั้น
 
โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรสวดในตอนเย็นตามที่สารานุกรมคาทอลิก(Catholic Encyclopediaex)อธิบายไว้ดังนี้
 
ณ.ที่นี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการสวดบทวันทามารีย์สามบท ในตอนเย็น ณ.ที่แห่งก็ใดก็ตามในช่วงพระอาทิตย์ตกได้กลายเป็นกิจศรัทธาทั่วไปในยุโรปในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่14 และได้รับการแนะนําให้กระทำด้วยความสมัครใจโดยพระสันตะปาปายอห์นที่22 ในปี 1318 และ 1327
 
นักบุญอันตนแห่งปาดัวชอบที่จะเอ่ยพระนามของพระแม่มารีย์มากและท่านได้กล่าวคําต่อไปนี้เกี่ยวกับการปฏิบัติกิจศรัทธานี้
 
พระนามของพระแม่มารีย์นั้นหวานยิ่งกว่าน้ําผึ้ง, เสนาะเพราะหูมากกว่าบทเพลงใดๆ, 
พระนามนี้เป็นที่น่ายินดีในหัวใจยิ่งกว่าความยินดีใดๆทั้งสิ้น
 
นักบุญอันตนแห่งปาดัว
 
*************
 
ทุกครั้งที่เราสวดบทวันทามารีย์ เรากล่าวซ้ำคำของอัครเทวดากาเบรียล ที่สรรเสริญพระนางมารีย์ในวันที่ท่านนำสาส์นของพระเจ้ามาบอกกับพระนาง ทำให้พระนางเป็นมารดาของพระบุตรของพระเจ้า.
 
พระหรรษทานมากมายและความปิติยินดีอันสูงสุดเต็มเปี่ยมในพระนางในเวลานั้น
 
เมื่อเราสวดวันทามารีย์เราได้นำพระหรรษทานและความยินดีมาให้แก่พระนางอีกครั้ง และพระนางทรงรับไว้ด้วยความยินดียิ่งนัก.
 
พระนางจะทรงประทานความยินดีนี้ให้แก่เราเป็นการตอบแทนด้วย
 
ครั้งหนึ่งพระเยซูเจ้าทรงตรัสถามนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซิซีเพื่อขอให้ท่านมอบบางสิ่งแก่พระองค์. นักบุญตอบว่า "พระเจ้าสุดที่รักของข้าพเจ้า, ข้าพเจ้าไม่สามารถให้อะไรแก่พระองค์ได้อีกแล้ว เพราะข้าพเจ้าได้มอบทุกสิ่งให้แก่พระองค์, ข้าพเจ้าได้มอบความรักทั้งสิ้นของข้าพเจ้าแก่พระองค์ไปแล้ว"
 
พระเยซูเจ้าทรงยิ้มและตรัสว่า "ฟรังซิส, จงมอบทั้งหมดแก่เราอีกครั้งและอีกครั้ง, มันจะทำให้เรามีความยินดีแบบเดิมอีก"
 
ดังนั้นพระแม่สุดที่รักของเรา ก็จะได้รับความยินดีและปิติสุขเช่นเดียวกับเวลาที่พระนางได้รับจากนักบุญอัครเทวดากาเบรียล เมื่อเราสวดบทวันทามารีย์.
 
*************
 
จาคอบ ผู้เห็นแม่พระแห่งเมดจูกอเรจ์, เมื่อเป็นเด็กชอบเล่นเตะฟุตบอลกับเพื่อนมาก. แม่พระได้บอกกับเขาไม่ให้หยุดสวดภาวนา เมื่อเวลาที่เดินไปโรงเรียนหรือเล่นอยู่กับเพื่อน,ก็ให้ภาวนาด้วยการพูดประโยคสั้นๆที่ออกจากหัวใจต่อพระเป็นเจ้า วันต่อมา,จาคอปกำลังจะไปเล่นกีฬากับเพื่อน ก่อนเริ่มเล่น,เขาจำคำของแม่พระที่บอกเขาเมื่อเย็นวันก่อนได้. แต่เขารู้สึกไม่อยากสวดภาวนา. เขาอยากเริ่มเล่นกีฬาเลย. เพื่อประนีประนอมในจิตใจ,เขาจึงสวดบทวันทามารีอาอย่างเร็วๆเพื่อไม่ให้แม่พระเสียพระทัย. วันนั้น,เมื่อแม่พระประจักษ์มาแก่เขา. พระนางทรงให้เขาเห็นชายคนหนึ่งซึ่งอยู่ในประเทศจีน, เขากำลังจะตาย. เขาเป็นคนเหี้ยมโหดมาก,เป็นคนใจแข็ง,และเขากำลังจะต้องไปยังนรก. แต่แม่พระตรัสแก่จาคอปว่า เพราะเห็นแก่การสวดภาวนาที่เขาถวายแด่พระนางก่อนที่จะเล่นกีฬา, ถึงแม้จะเป็นการสวดอย่างเร็วๆ, แต่ด้วยการสวดภาวนานี้จึงทำให้พระนางได้รับพระหรรษทานจากพระเป็นเจ้าเพื่อช่วยคนคนนี้. ก่อนที่เขาจะตาย ,จิตใจของเขาได้เปลี่ยนไป ชายคนนี้ได้รับการช่วยเหลือเพราะคำสวดภาวนาของจาคอป.
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น