จาก จำลองแบบพระคริสต์,โดยโทมัส เอ เคมปิส
เราคงจะมีสันติสุขมากขึ้นถ้าเราไม่ใส่ใจในสิ่งที่คนอื่นพูดและทำ เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรา คนที่เข้าไปยุ่งเรื่องที่ไม่ใช่ของตัวเอง คนที่แสวงหาสิ่งแปลกๆที่ดึงดูดใจ และคนที่เก็บเรื่องไร้สาระต่างๆมากมายไว้ในใจ จะมีชีวิตอย่างสงบสุขยาวนานได้อย่างไร?
เป็นบุญของผู้มีชีวิตที่เรียบง่าย เพราะเขาจะมีความยินดีในสันติสุขอย่างเหลือล้น
ทำไมนักบุญบางองค์จึงเป็นผู้ที่มีความดีครบครันและเป็นแบบอย่างให้แก่เราเล่า? เป็นเพราะพวกท่านพยายามที่จะละทิ้งความปรารถนาทางโลกทั้งหมด และด้วยเหตุนี้พวกท่านจึงสามารถผูกมัดตนเองกับพระเจ้าด้วยสุดจิตใจและมีใจที่เป็นอิสระในการรำพึงถึงพระองค์ในส่วนลึกแห่งจิตใจของท่าน
เพราะเราหมกมุ่นอยู่กับความเพ้อฝันและจินตนาการของตัวเองมากเกินไป ดังนั้น,น้อยครั้งนักที่เราจะเอาชนะความชั่วในตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แม้แต่เพียงประการเดียว เราไม่กระตือรือร้นและปรารถนาที่จะปรับปรุงตนเองทุกวัน ดังนั้นเราจึงยังคงมีใจเฉื่อยชาและไม่สนใจที่จะก้าวหน้าในชีวิตฝ่ายจิต
ถ้าเพียงแต่เราไม่ใส่ใจในเรื่องฝ่ายเนื้อหนังโดยสมบูรณ์และไม่ปล่อยให้สิ่งภายนอกมารบกวนความคิดของเรา เราอาจได้ชื่นชมในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมีประสบการณ์ในการพิจารณาใคร่ครวญเรื่องของสวรรค์
อันที่จริง,อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด,และเป็นอุปสรรคเพียงอย่างเดียวก็คือ เรายังไม่เป็นอิสระจากกิเลสตัณหาและความปรารถนาฝ่ายเนื้อหนัง เราไม่พยายามต่อสู้และดำเนินไปสู่หนทางแห่งความครบครันของบรรดานักบุญ
ดังนั้นเมื่อเราพบกับความยากลำบากเพียงเล็กน้อย เราก็รู้สึกผิดหวังและหันไปหาชีวิตฝ่ายโลกเพื่อรับความบรรเทาทันที
อย่างไรก็ตาม หากเราพยายามยืนหยัดต่อสู้อย่างกล้าหาญในสนามรบ ความช่วยเหลือของพระเจ้าจากสวรรค์จะช่วยเหลือค้ำจุนเราอย่างแน่นอน
พระองค์ผู้ทรงให้โอกาสเราต่อสู้เพื่อเราจะได้รับชัยชนะ,ทรงพร้อมเสมอที่จะช่วยเหลือผู้ที่ต่อสู้และไว้วางใจในพระหรรษทานของพระองค์
ถ้าเราปล่อยให้ความก้าวหน้าในชีวิตฝ่ายจิตของเราขึ้นอยู่กับการปฏิบัติสิ่งภายนอกเพียงอย่างเดียว ความศรัทธาของเราจะเสื่อมสลายไปในไม่ช้า
ดังนั้น,ให้เรานำขวานไปจ่อไว้ที่รากแก้วเถิด ซึ่งก็คือจิตสำนึกของเรา เพื่อเราจะได้หลุดพ้นจากกิเลสตัณหาและมีจิตใจที่สงบสุข
ถ้าเราถอนรากถอนโคนกิเลสตัณหาเพียงประการเดียวในแต่ละปี ในไม่ช้าเราก็จะก้าวหน้าในความดีครบถ้วน
อย่างไรก็ตาม,บ่อยครั้งมันมักจะเป็นไปในทางตรงกันข้าม เรารู้สึกว่าเราดีขึ้นและบริสุทธิ์ขึ้น,มีความร้อนรนเฉพาะในระยะแรกของการกลับใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปความรู้สึกนี้กลับลดน้อยลง
ซึ่งอันที่จริง,ความร้อนรนและความก้าวหน้าของเราควรเพิ่มขึ้นทุกๆวัน
แต่ทว่าในตอนนี้,เรากลับรู้สึกว่ายากลำบากมากขึ้น และคิดว่าถ้าสามารถรักษาความร้อนรนที่มีในตอนแรกไว้ได้แม้เพียงส่วนหนึ่งก็นับว่าดีมากแล้ว
ถ้าในตอนแรก เรากระตุ้นตนเองด้วยการฝึกฝนตนเองบ้าง หลังจากนั้นเราจะสามารถทำทุกอย่างได้ง่ายขึ้นและรู้สึกยินดี
เป็นการยากที่จะทำลายนิสัยเก่า แต่เป็นเรื่องยากยิ่งกว่าในการที่จะทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับน้ำใจของตนเอง
ถ้าท่านไม่สามารถเอาชนะใจตนเองในเรื่องเล็กน้อย ท่านจะเอาชนะใจตนเองในเรื่องที่ยากกว่าได้อย่างไร?
จงต่อสู้กับการประจญล่อลวงตั้งแต่ตอนแรกที่มันเริ่มต้น และละเลิกนิสัยชั่วร้ายเสีย มิฉะนั้น,ทีละเล็กทีละน้อย,มันอาจจะนำไปสู่ความชั่วร้ายที่ใหญ่กว่าอีก
ถ้าเพียงแต่รู้ว่าความศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตของท่านจะนำสันติสุขมาสู่ตัวท่านเองอย่างไรและนำความยินดีให้แก่ผู้อื่นมากแค่ไหน,ท่านคงจะสนใจเกี่ยวกับความก้าวหน้าของชีวิตฝ่ายจิตของท่านมากขึ้นอย่างแน่นอน
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น