คำอธิบายเรื่อง Apocalypse Chapter XIII โดย ผู้รับใช้ของพระเจ้า คุณพ่อโดลินโด รูโอโตโล † (1882-1970)
มีผู้ต่อต้านคริสตศาสนาก่อนแล้วจึงมีแอนตี้ไครส์
คริสตศาสนา คืออาณาจักรของพระเยซูคริสต์,เป็นพระกายลึกลับของพระองค์,เป็นสถาบันที่สรรเสริญพระเจ้าอย่างเด่นชัด ซาตานคือผู้ต่อต้านพระเจ้า พระเยซูเจ้าทรงทำสงครามกับมันอย่างไร้ความปราณีตั้งแต่เริ่มแรก สงครามนี้ดำเนินต่อเนื่องมาหลายศตวรรษ และหลังจากความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของซาตานต่อพระเยซูเจ้าและต่อพระศาสนจักรของพระองค์, ซาตานจะกลับมาทำสงครามอีกครั้งด้วยความโกรธอย่างมาก โดยมันรู้ว่ามันมีเวลาเหลืออยู่น้อยแล้ว ด้วยเหตุนี้เสียงอันยิ่งใหญ่ของสวรรค์จึงดังก้องออกมาหลังจากชัยชนะที่นักบุญอัครเทวดามีคาแอลและเหล่าเทวดาของท่านที่มีต่อซาตานและพรรคพวกของมัน,เสียงนั้นพูดว่า: " วิบัติแก่แผ่นดินและทะเล เพราะปีศาจลงมายังแผ่นดินและทะเลด้วยความโกรธอย่างรุนแรง " (วิวรณ์ 12.12) ด้วยความโกรธเกรี้ยวอันน่าสยดสยองของซาตาน,มันจึงรวบรวบความพยายามทั้งหมดในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายมาตลอดหลายศตวรรษ ด้วยเหตุนี้ตัวละครในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายจึงตอบสนองต่อการต่อสู้ของมังกรตลอดช่วงชีวิตของพระศาสนจักร
ซาตานมักใช้กษัตริย์ให้รุกรานเข้ามาในพระศาสนจักร, และมันใช้ความก้าวหน้าที่ผิดพลาดของวิทยาศาสตร์และอารยธรรมมาทำลายชีวิตมนุษย์และทำให้มนุษย์เป็นอัมพาตทางจิตวิญญาณ ยุทธวิธีการต่อสู้ของมันนั้นละเอียดอ่อนและกระทำอย่างต่อเนื่อง, ทำทีละเล็กทีละน้อย มันพยายามทำให้ประเทศที่นับถือคริสตศาสนาแตกแยกกัน และค่อยๆสลายละลายชีวิตทางศีลธรรมของชนชาติทั้งหลายด้วยศิลปะที่ไร้ยางอายและแฟชั่นที่ลามกอนาจาร อันเป็นภาพลักษณ์ที่แท้จริงของสัตว์ร้ายนั้น สิ่งเหล่านี้ถูกเคลื่อนไหวด้วยจิตวิญญาณของมันด้วยคำพูดจากปากของมันเอง
บรรดาผู้ที่เชื่อและติดตามพระศาสนจักรมาตั้งแต่เกิดจะพบตัวละครของการต่อสู้ที่โหดร้ายในทุกยุคทุกสมัย และด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงระบุถึงแอนตี้ไครส์ในสมัยก่อนว่าได้แก่ จักรพรรดิโรมัน โดยมีจูเลียนผู้ละทิ้งความเชื่อ และมาร์ติน ลูเธอร์, คาลวิน, นโปเลียน, และในยุคสมัยของเรา ได้แก่ สตาลิน, ฮิตเลอร์, และมุสโสลินี แอนตี้ไครส์ในฐานะบุคคลที่ถูกกำหนดไว้,จะเกิดขึ้นในช่วงสุดท้ายของพระศาสนจักรและจะมีระยะเวลาเพียงสั้นๆ ทุกยุคทุกสมัยของพระศาสนจักร,จะมีการต่อต้านคริสตศาสนา,ซึ่งเป็นการกระทำในส่วนของซาตาน โดยมีพลังอำนาจที่ร้ายแรงกว่า [ผู้นำทางความคิดหรือหลักความคิดที่หลงผิด] ที่คอยให้การสนับสนุน โดยบุคคลใด,และด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง และนั่นถือได้ว่าเป็นแอนตี้ไครส์
ด้วยเหตุนี้เราจึงมีสัตว์ร้ายสองตัวอยู่ในที่เกิดเหตุเสมอ นั่นคือในทะเล, ซึ่งก็คือจักรวรรดินิยมที่ต่อต้านคริสตชน และบนแผ่นดิน,ซึ่งก็คือความหลงผิดและการล่อลวง และบุคคลที่เป็นผู้ล่อลวงประชาชนให้หลงผิดอย่างเด่นชัด,อาจอยู่วงในของคริสต์ศาสนาและจารีตประเพณี เขาเป็นผู้ยั่วยุประชาชนให้ละทิ้งความเชื่อและขโมยวิญญาณไปจากพระเจ้า [... ].
ผู้ต่อต้านคริสตศาสนาและพรรคพวกของมันอันได้แก่ผู้นำของบริษัทหรือกลุ่มเคลื่อนไหวใดๆ(coryphaeus) ทั้งในทางการเมืองและวัฒนธรรม, จะทำการจู่โจมโจมตีอย่างดุเดือดต่อพระศาสนจักร จนกระทั่งถึงจุดที่ทำให้เกิดการละทิ้งความเชื่อ,ซึ่งน่าสยดสยอง และเราไม่ค่อยตระหนักในเรื่องนี้ เนื่องจากเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อิ่มตัวจากความรุนแรงและข้อผิดพลาดที่เป็นพิษต่อประชาชาติและเป็นพิษต่อจิตวิญญาณที่เชื่อมโยงกับพระศาสนจักร
ความชั่วร้ายเข้าครอบงำโลกอย่างมาก ความหลงผิดทางด้านศาสนาและความโง่เขลาเข้าครอบงำวิญญาณจำนวนมาก ความรุนแรงและการกดขี่ข่มเหงพระศาสนจักรนั้นโจ่งแจ้งจนยากที่จะเห็นหนทางที่เราจะออกจากขุมนรกนี้ได้ แต่พระเจ้าจะทรงมีชัยชนะบนโลกในช่วงเวลาเหล่านี้อย่างแน่นอน ให้เรารอคอยด้วยความเชื่อที่ไม่สั่นคลอน ในการมาถึงของอาณาจักรของพระเจ้า ให้เรารอคอยพยานทั้งสอง และผู้ที่จะทำให้สัตว์ร้ายได้รับบาดเจ็บถึงตาย
หลังจากช่วงเวลาแห่งความเจริญรุ่งเรืองทางจิตวิญญาณซึ่งจะมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อชีวิตทางฝ่ายวัตถุและอารยธรรม, ความชั่วร้ายจะกลับมามีอำนาจอีกครั้ง จักรวรรดิและอาณาจักรทั้งหลายจะหันกลับไปสู่การละทิ้งความเชื่ออีก, ความหลงผิดซึ่งเกิดขึ้นด้วยการบดบังแสงแห่งความจริงจะเข้ามาครอบงำอีกครั้ง ศิลปะแห่งการยั่วยวนล่อลวงจิตวิญญาณจะทำให้จิตใจมนุษย์ขึ้นไปถึงความตะกละตะกลามโลภโมโทสันอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และดูเถิด ท่ามกลางกระแสแห่งความชั่วช้านี้ บุรุษแห่งความพินาศ,บุรุษแห่งบาปจะผงาดขึ้น แอนตี้ไครส์(ผู้ต่อต้านพระคริสต์),ผู้รับใช้ของซาตาน ผู้ซึ่งจะมีชัยชนะเป็นเวลาสี่สิบสองเดือน,เขาจะทรมานพระศาสนจักร เขาจะสามารถพิชิตผู้ศักดิ์สิทธิ์, แต่แล้วเขาจะพ่ายแพ้ตลอดไป [... ].
สำหรับชีวิตฝ่ายวิญญาณของเราในช่วงเวลาของสัตว์ร้ายทั้งสอง
เราอยู่ท่ามกลางภยันตรายและบ่วงแร้วของสัตว์ร้ายทั้งสองนั้นแล้ว ทั้งของทะเลและของแผ่นดิน เนื่องจากเราถูกครอบงำโดยอำนาจที่ทำให้ละทิ้งความเชื่อ และเราถูกล่อลวงโดยวิทยาศาสตร์เท็จ การละทิ้งความเชื่อเกิดขึ้นและเป็นความจริงในโลกแล้ว แม้ว่าจะยังไม่ถึงจุดสูงสุด แต่จะนำพาไปถึงช่วงเวลาของแอนตี้ไครส์ เราหวังอย่างแน่วแน่ในชัยชนะของพระเจ้าและของพระศาสนจักร แต่ในชัยชนะนี้ เราเองก็ต้องร่วมมือ,ด้วยการมีจุดยืนที่ชัดเจนเมื่อเผชิญกับการกดขี่และการล่อลวงของความชั่วร้าย เราไม่สามารถและต้องไม่ยอมแพ้ไม่ว่าด้วยวิธีใด โดยการไม่ยอมรับเครื่องหมายของแอนตี้ไครส์ที่หน้าผากและที่มือ (เปรียบเทียบ วิวรณ์ 13:16) ตราประทับของคริสชนต้องดำรงอยู่ในความคิดและความประพฤติ, เราต้องสัตย์ซื่อต่อพระเจ้าและต่อพระศาสนจักรอย่างมั่นคง และไม่ประนีประนอมต่อความชั่วร้ายโดยสิ้นเชิง เราต้องไม่ยอมรับงานที่มาจากสัตว์ร้ายและมังกร และเราต้องไม่โง่เขลาและอ่อนแอจนถูกล่อลวงอย่างน่าสมเพช
การเสื่อมสลายของชีวิตคริสตชนมักเกิดจากการมีจิตใจที่ขี้ขลาด,อยากรู้อยากเห็นมากเกินไป,และการใฝ่หาอำนาจทางโลกและการยอมรับความยั่วยวนของวิทยาศาสตร์เท็จ ด้วยมโนธรรมในจิตวิญญาณ,เราไม่สามารถสนับสนุนอำนาจเหล่านี้ที่ปฏิเสธพระเจ้า หรือแสร้งทำเป็นเพิกเฉยต่อพระองค์ และเราต้องไม่มีลักษณะของสัตว์ร้ายในความคิด,คำพูด,ในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของเสื้อผ้า,แฟชั่นและจะต้องไม่รับแรงบันดาลใจจากโลก
คุณพ่อโดลินโด ในวัยชรา
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น