วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2565

นักบุญยอห์น มารี เวียนเนย์พูดเกี่ยวกับพระสงฆ์

 


ลูกทั้งหลาย, เรามาเรียนรู้กันถึงศีลบรรพชา เป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับใครในพวกลูก,แต่อันที่จริงมันเกี่ยวข้องกับทุกคน ศีลศักดิ์สิทธิ์นี้ยกมนุษย์ขึ้นสู่พระเจ้า พระสงฆ์คืออะไร! เขาคือชายผู้รับใช้พระเจ้า – ชายผู้ถวายตนเองด้วยอำนาจทั้งหมดของพระเจ้า “ไปเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับพระสงฆ์ “พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านไปฉันนั้น เราได้รับอาญาสิทธิ์ทั้งหมดทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดิน ไปเถิด ไปสั่งสอนทุกชนชาติ…. ผู้ที่ฟังท่านก็ฟังเรา ผู้ที่ดูหมิ่นท่านก็ดูหมิ่นเรา” เมื่อพระสงฆ์โปรดศีลอภัยบาป ท่านไม่ได้พูดว่า "พระเจ้าให้อภัยท่าน"; ท่านพูดว่า "ข้าพเจ้าอภัยบาปของท่าน" ในการถวายบูชา,ท่านไม่ได้พูดว่า "นี่คือพระกายขององค์พระเยซูเจ้า,พระผู้เป็นเจ้าของเรา" ท่านพูดว่า "นี่คือกายของเรา"
 
นักบุญเบอร์นาร์ดบอกเราว่าเราได้รับทุกสิ่งผ่านทางพระนางมารีย์ และเราอาจกล่าวได้ด้วยว่าเราได้รับทุกสิ่งโดยทางพระสงฆ์ ใช่แล้ว, ความสุขทั้งหมด, พระหรรษทานทั้งหมด, พระพรแห่งสวรรค์ทั้งหมด ถ้าหากเราไม่มีศีลบรรพชานี้ เราก็ไม่อาจได้รับพระเยซูเจ้า ใครที่วางพระองค์ไว้ที่นั่นในตู้ศีลนั้น? นั่นคือพระสงฆ์ ใครคือผู้ที่รับจิตวิญญาณของลูก,เมื่อลูกเข้ามาสู่ชีวิตในพระศาสนจักร? พระสงฆ์. ใครที่หล่อเลี้ยงวิญญาณ, ให้กำลังแก่วิญญาณในชีวิตแห่งการแสวงบุญ? พระสงฆ์. ใครที่เตรียมวิญญาณลูกให้พร้อมที่จะไปปรากฏเบื้องพระพักตร์พระเจ้า โดยการชำระวิญญาณนั้นให้บริสุทธิ์เป็นครั้งสุดท้ายในพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ พระสงฆ์ - พระสงฆ์เสมอ และถ้าวิญญาณนั้นมาถึงจุดแห่งความตายในบาป ใครที่ปลุกวิญญาณให้กลับฟื้นขึ้นมา ใครจะฟื้นฟูวิญญาณให้มาสู่ความสงบและสันติ? พระสงฆ์อีกแล้ว. ท่านไม่สามารถคิดถึงพระพรแม้แต่ประการเดียวที่ได้รับจากพระเจ้าโดยไม่พบความเกี่ยวข้องกับภาพของพระสงฆ์
 
ไปสารภาพบาปกับพระนางพรหมจารีย์มารีย์หรือทูตสวรรค์ซิ, พวกท่านจะอภัยบาปให้ลูกได้ไหม? ไม่ได้ 
พวกท่านจะให้พระกายและพระโลหิตขององค์พระเยซูแก่ลูกได้ไหม? ไม่ได้
 
พระนางพรหมจารีย์มารีย์ไม่สามารถนำพระบุตรของพระเจ้าเสด็จลงมายังศีลมหาสนิทได้ ลูกอาจวอนขอเทวดาสองร้อยองค์ในสวรรค์ แต่พวกท่านก็ไม่สามารถอภัยบาปของลูกได้ พระสงฆ์ไม่ว่าจะต้อยต่ำเพียงใดก็สามารถทำได้ พระสงฆ์ยังจะบอกกับลูกว่า “จงไปในสันติสุขเถิด ข้าพเจ้าอภัยบาปของท่าน” โอ้พระสงฆ์ช่างยิ่งใหญ่เพียงใด! พระสงฆ์จะไม่เข้าใจความยิ่งใหญ่ของฐานะของท่านจนกว่าท่านจะอยู่ในสวรรค์ ถ้าท่านเข้าใจบนโลกนี้,ท่านก็จะตาย ไม่ใช่ด้วยความกลัว, แต่ด้วยความรัก พระหรรษทานต่างๆของพระเจ้าจะไม่มีประโยชน์สำหรับเราเลยถ้าหากไม่มีพระสงฆ์ บ้านที่เต็มไปด้วยทองคำจะมีประโยชน์อะไร ถ้าไม่มีใครเปิดประตูให้! พระสงฆ์มีกุญแจแห่งขุมทรัพย์สวรรค์ ท่านเป็นผู้เปิดประตู ท่านเป็นผู้จัดการของพระเจ้าผู้ทรงพระทัยดี ท่านเป็นผู้แจกจ่ายทรัพย์สมบัติของพระองค์ หากปราศจากพระสงฆ์ การสิ้นพระชนม์และพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าก็จะไม่เกิดประโยชน์ ดูคนนอกศาสนาซิ,พวกเขาได้รับประโยชน์อะไรจากการที่พระเจ้าของเราสิ้นพระชนม์หรือ? อนิจจา พวกเขาไม่สามารถมีส่วนร่วมในพระพรแห่งการไถ่บาปได้ เพราะพวกเขาไม่มีพระสงฆ์ที่จะนำพระโลหิตของพระองค์ไปชำระล้างจิตวิญญาณของพวกเขา!
 
พระสงฆ์ไม่ได้เป็นพระสงฆ์เพื่อตัวของเขาเอง เขาไม่ได้ให้อภัยบาปตัวเอง เขาไม่ได้ประกอบพิธีมิสซาเพื่อตัวเอง เขาไม่ได้ทำเพื่อตัวเขาเอง แต่เพื่อลูก ต่อจากพระเจ้า,พระสงฆ์คือทุกสิ่ง ถ้าตำบลใดไม่มีพระสงฆ์นานยี่สิบปี,ชาวบ้านก็จะบูชาสัตว์ร้าย ถ้าพ่อและบรรดามิชชันนารีต้องไปจากที่นี่,พวกลูกก็จะพูดว่า “เราจะทำอะไรได้ในโบสถ์นี้? ไม่มีการประกอบพิธีมิสซา พระเยซูเจ้าไม่ทรงอยู่ที่นั่นแล้ว เราอาจต้องสวดภาวนาที่บ้านแทนก็ได้” เมื่อมีคนต้องการทำลายศาสนา, พวกเขาเริ่มต้นด้วยการโจมตีพระสงฆ์ เพราะที่ใดไม่มีพระสงฆ์,ที่นั่นก็ไม่มีการถวายยัญบูชาในพิธีมิสซา และที่ใดไม่มีการถวายยัญบูชาในพิธีมิสซา,ที่นั่นก็ไม่มีศาสนา
 
เมื่อเสียงระฆังดังขึ้นเรียกลูกให้ไปโบสถ์ ถ้าลูกถูกถามว่า “คุณจะไปไหน” ลูกอาจตอบว่า “ฉันจะไปเลี้ยงจิตวิญญาณของฉัน” ถ้ามีคนถามลูกโดยชี้ไปที่ตู้ศีลว่า “ประตูทองนั่นคืออะไร” “นั่นคือคลังเสบียงของเรา ที่ซึ่งอาหารที่แท้จริงของจิตวิญญาณของเราถูกเก็บไว้” “ใครที่มีกุญแจ? ใครที่จัดเตรียมอาหารนี้? ใครเป็นผู้จัดเตรียมงานเลี้ยง และใครเป็นผู้ให้อาหาร?” “พระสงฆ์” “แล้วอาหารล่ะคืออะไร?” “พระกายและพระโลหิตอันล้ำค่าขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” โอ้พระเจ้า! โอ้พระเจ้า! พระสงฆ์รักเรามากสักเพียงใด! ดูอำนาจของพระสงฆ์ซิ; วาจาของพระสงฆ์สร้างพระเจ้าจากขนมปังชิ้นหนึ่ง นี่เป็นมากกว่าการสร้างโลกเสียอีก.... มีคนพูดว่า "ถ้าอย่างนั้น,นักบุญฟิโลมีนาจะ เชื่อฟังวาจาของเจ้าอาวาสแห่งอารส์(Cure of Ars) หรือไม่" ที่จริงเธออาจจะเชื่อฟังเขาเพราะพระเจ้าเชื่อฟังเขา ถ้าหากพ่อพบกับพระสงฆ์และเทวดาพร้อมกัน พ่อจะทักทายพระสงฆ์ก่อนจะทักทายเทวดา เพราะคนหลังคือเพื่อนของพระเจ้า แต่พระสงฆ์มีฐานะเป็นผู้แทนของพระเจ้า นักบุญเทเรซาจุมพิตพื้นดินที่พระสงฆ์ท่านหนึ่งเดินผ่านไป เมื่อลูกเห็นพระสงฆ์ ลูกควรพูดว่า “มีผู้ที่ทำให้ฉันกลายเป็นลูกของพระเจ้า และเปิดสวรรค์ให้ฉันโดยศีลล้างบาปอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้ชำระฉันให้บริสุทธิ์หลังจากที่ฉันได้ทำบาปแล้ว ผู้หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของฉัน” เมื่อเห็นหอคอยโบสถ์ ลูกอาจพูดว่า “ที่นั่นมีอะไรบ้าง” “พระกายขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” “พระองค์ทรงอยู่ที่นั่นทำไม” “เพราะว่าพระสงฆ์อยู่ที่นั่นและที่นั่นพระสงฆ์ประกอบพิธีมิสซาอันศักดิ์สิทธิ์”
 
อัครสาวกรู้สึกยินดีเพียงใดหลังจากการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูเจ้า พวกเขาได้เห็นพระอาจารย์ที่พวกเขารักมาก! พระสงฆ์จะต้องรู้สึกยินดีเช่นเดียวกันเมื่อได้เห็นพระเยซูเจ้าซึ่งเขาถืออยู่ในมือของเขา สิ่งของที่สัมผัสกับถ้วยน้ำของพระแม่มารีย์และพระกุมารเยซูที่โลเรโตนั้นมีค่ามหาศาล แต่นิ้วของพระสงฆ์ที่สัมผัสเนื้อหนังที่น่ารักของพระเยซูคริสต์ ที่จุ่มลงในถ้วยที่บรรจุพระโลหิตของพระองค์ เข้าไปในพระคูหาที่พระกายของพระองค์ยังนอนอยู่ สิ่งเหล่านี้ไม่มีค่ายิ่งกว่านี้อีกหรือ? สังฆภาพคือความรักของพระหฤทัยของพระเยซู เมื่อลูกพบพระสงฆ์, ให้นึกถึงพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น