วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2565

คำแนะนำสู่ชีวิตศรัทธา 3/6

 


คำแนะนำสู่ชีวิตศรัทธา 
โดยนักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์  
ตอนที่3,บทที่6 
ความถ่อมตนทำให้เราชื่นชมยินดีในความต่ำต้อยของเรา 
(abjection ความต่ำต้อย)
 
ท่านทั้งหลาย,ข้าพเจ้ากำลังก้าวไปอีกขั้น,และข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านชื่นชมยินดีในความต่ำต้อยของท่านในทุกหนทุกแห่งและในทุกสิ่ง บางทีท่านอาจจะสงสัยว่าข้าพเจ้าหมายความอย่างไรในคำพูดนี้ ในภาษาละติน abjection หมายถึง ความถ่อมตน และความถ่อมตน หมายถึง ความต่ำต้อย ดังนั้นเมื่อแม่พระตรัสในแมกนีฟิกัส(Magnificat)ว่า "จิตใจข้าพเจ้าโสมนัสยินดีในพระเจ้าพระผู้กอบกู้ข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทรงเหลียวแลความต่ำต้อยแห่งผู้รับใช้ของพระองค์" พระนางทรงหมายความว่าพระองค์ทรงยอมรับความต่ำต้อยของพระนาง เพื่อเติมเต็มพระนางด้วยพระหรรษทานและความโปรดปราน อย่างไรก็ตาม,มีความแตกต่างระหว่างความถ่อมตนและความต่ำต้อย เพราะความต่ำต้อยคือความยากจน,สภาพที่น่าอนาถและความเล็กน้อยที่มีอยู่ในตัวเรา โดยที่เราไม่ใส่ใจในสิ่งเหล่านี้ แต่ความถ่อมตนแสดงถึงความรู้ที่แท้จริงและการยอมรับความต่ำต้อยนั้นโดยสมัครใจ
 
และจุดสูงสุดของความถ่อมตนนั้น,มิใช่เพียงการยอมรับความต่ำต้อยของตนเท่านั้น,แต่ยังพึงพอใจในความต่ำต้อยนั้นด้วย ทั้งนี้เพื่อถวายพระเกียรติแด่พระบรมเดชานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า,และให้เกียรติแก่เพื่อนมนุษย์มากกว่าตนเอง นี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการให้ท่านทำ และเพื่ออธิบายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น,ข้าพเจ้าขอบอกท่านว่าการทดลองทั้งหลายที่ทำให้เราทุกข์ใจ,ในบางครั้งทำให้เราต่ำต้อย,บางครั้งทำให้เรามีเกียรติ
 
ตอนนี้หลายคนจะยอมรับสิ่งหลัง แต่น้อยคนนักที่จะยอมรับสิ่งแรก ทุกคนมีความเคารพศรัทธาและสงสารนักพรตผู้เคร่งครัดซึ่งร่างกายสั่นเทาอยู่ในชุดซอมซ่อที่เขาสวมใส่; แต่ถ้าให้สุภาพบุรุษหรือสุภาพสตรีที่ยากจนสวมใส่และเป็นอย่างนักพรตนั้นบ้าง พวกเขาก็จะถูกดูหมิ่นเมื่ออยู่ในสภาพเช่นนั้น ดังนั้น,ความยากจนของพวกเขาก็เป็นความต่ำต้อย นักบวชผู้หนึ่งได้รับการตำหนิจากอธิการของเขาอย่างอ่อนโยน,หรือลูกได้รับการตำหนิจากพ่อแม่ของเขา ทุกคนก็จะเรียกสิ่งนี้ว่าการเชื่อฟัง,การละอาย,ปรีชาญาณ; แต่ถ้าให้อัศวินหรือท่านผู้หญิงได้รับสิ่งที่คล้ายคลึงกันนี้จากบางคน,และถ้าพวกเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขี้ขลาด สิ่งนี้ก็เป็นความทุกข์จากความต่ำต้อย ถ้าคนหนึ่งเป็นโรคร้ายที่แขน,ส่วนอีกคนเป็นโรคร้ายที่ใบหน้า คนแรกมีเพียงความเจ็บปวดที่ต้องทนรับ แต่คนหลังต้องอดทนต่อการถูกรังเกียจและการถูกขับไล่ที่เกิดจากโรคของเขา และนี่คือความต่อต้อย
 
และสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการจะสอนท่านคือ เราไม่ควรเพียงชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากของเรา,ซึ่งเราทำโดยใช้ความอดทน,แต่เราควรทะนุถนอมความต่ำต้อยนั้น,ซึ่งกระทำด้วยความถ่อมตน และเช่นเดียวกัน,มีคุณธรรมที่ต่ำต้อยและมีคุณธรรมที่มีเกียรติ สำหรับโลกโดยทั่วไปจะดูหมิ่นความอดทน,ความสุภาพ,ความเรียบง่าย,และแม้กระทั่งความถ่อมตน ในทางกลับกัน,โลกกลับยกย่องความรอบคอบ,ความกล้าหาญ,และเสรีภาพ บางครั้งอาจมีความแตกต่างกันระหว่างการกระทำของบุคคลซึ่งปฏิบัติคุณธรรม - คนหนึ่งถูกดูหมิ่นและอีกคนหนึ่งได้รับการเคารพนับถือ ดังนั้นการให้ทานและการให้อภัยต่อผู้กระทำผิดต่อเรา,ทั้งสองอย่างนี้เป็นการกระทำแห่งเมตตาจิต,แต่ในขณะที่ทุกคนเคารพยกย่องการให้ทาน,โลกก็กลับดูถูกการให้อภัย
 
ชายหนุ่มหรือหญิงสาวที่ไม่ยอมเข้าร่วมในการแต่งกายที่ไม่สุภาพ,ความสนุกสนานเกินขอบเขต,หรือการซุบซิบนินทาเกินควร,มักจะถูกหัวเราะเยาะและถูกวิพากษ์วิจารณ์ และการไม่ข้องเกี่ยวด้วยของเขาถูกเรียกว่าเป็นการเสแสร้งหรือความเคร่งครัดในคำสอนทางศาสนา ความชื่นชมยินดีในสิ่งเหล่านี้ก็คือยินดีในความต่ำต้อย หรืออาจมีรูปแบบอื่นของลักษณะเดียวกันเช่น  ถ้าข้าพเจ้าถูกส่งไปเยี่ยมคนป่วยที่มีสภาพเลวร้ายที่สุด,มันก็เป็นความต่ำต้อยในสายตาชาวโลก และด้วยเหตุนี้,ข้าพเจ้าก็ชอบงานเช่นนี้ ถ้าข้าพเจ้าถูกส่งไปหาคนที่มีชนชั้นสูงกว่า,นั่นเป็นความต่ำต้อยภายใน เพราะงานนี้มีคุณธรรมและพระพรน้อยกว่า ดังนั้นข้าพเจ้าจึงยอมรับความต่ำต้อยนั้นได้ ถ้าคนหนึ่งล้มลงบนถนน,ย่อมก่อให้เกิดความน่าหัวเราะเยาะที่ต้องทนรับและความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นได้ และนี่คือความต่ำต้อยที่เราต้องยอมรับ ความผิดพลาดบางอย่างไม่มีอันตรายนอกจากทำให้เกิดความต่ำต้อย ข้าพเจ้าจะขอปฏิเสธบาปอย่างจริงจัง,ในขณะที่ข้าพเจ้าก็พร้อมที่จะรับความต่ำต้อยไว้ 
 
ในขณะที่เราชื่นชมยินดีในความต่ำต้อย,เรายังต้องใช้วิธีการที่ถูกต้องเพื่อแก้ไขความชั่วที่เกิดขึ้น,โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความชั่วร้ายนั้นร้ายแรงมาก ดังนั้น,ถ้าข้าพเจ้ามีโรคร้ายที่ใบหน้า ข้าพเจ้าควรพยายามรักษาให้หาย,แม้ว่าข้าพเจ้าไม่ประสงค์จะลบล้างความต่ำต้อยที่เกิดกับข้าพเจ้า ถ้าหากข้าพเจ้าได้ทำผิดเล็กน้อยซึ่งไม่ได้ทำร้ายใคร,ข้าพเจ้าจะไม่แก้ตัว เพราะถึงแม้มันจะเป็นข้อบกพร่อง,แต่มันก็เป็นความต่ำต้อย ถ้าข้าพเจ้าได้กระทำความผิดในเรื่องใหญ่โดยความประมาทหรือความเขลา ข้าพเจ้าจะต้องพยายามแก้ไขด้วยการขอโทษอย่างจริงใจ 
 
บางทีท่านอาจจะถามว่ารูปแบบอะไรที่เราจะได้ประโยชน์จากความต่ำต้อยมากที่สุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อจิตวิญญาณของเรามากที่สุดและเป็นที่ยอมรับของพระผู้เป็นเจ้ามากที่สุดนั้น เกิดขึ้นโดยบังเอิญหรือเป็นเหตุการณ์ตามธรรมชาติ เพราะเราไม่ได้เลือกสิ่งนั้นเอง แต่เราเพียงแต่ยอมรับการเลือกสรรของพระเจ้าซึ่งมักจะให้ความพึงพอใจแก่เราเสมอ แต่ถ้าเราถูกบังคับให้เลือก  ความต่ำต้อยมากที่สุดก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุด และสิ่งที่ไม่ใช่น้ำใจของเราเองมากที่สุดก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ตราบเท่าที่มันสอดคล้องกับกระแสเรียกของเรา เพราะแท้จริง,น้ำใจของเราเองและความพอใจของเราเองกีดกันพระหรรษทานมากมาย ใครเล่าจะสอนเราให้พูดเหมือนกับดาวิดว่า "ข้าพเจ้าอยากเป็นคนเฝ้าประตูในพระวิหารของพระเจ้า ดีกว่าอยู่ในเต็นท์แห่งความอธรรมที่ปราศจากพระเจ้า?" หาใช่ใครอื่น,ท่านที่รัก,นอกจากพระองค์ผู้ทรงพระชนม์และสิ้นพระชนม์เป็นที่ดูหมิ่นของมนุษย์,และถูกขับไล่โดยประชาชน,เพื่อที่เราจะได้รับการไถ่กู้กลับมา ข้าพเจ้าได้กล่าวหลายสิ่งในที่นี้ซึ่งดูเป็นเรื่องยากในการพินิจใคร่ครวญ แต่เชื่อข้าพเจ้าเถอะว่ามันจะหวานเหมือนน้ำผึ้งเมื่อท่านได้ลองนำไปฝึกปฏิบัติ
 


************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น