วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

บาปที่สองของซาตาน

 


โดย - Mons. Stewen Rossetti
 
สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ท่ามกลางพิธีการขับไล่ปีศาจ ผมได้ยินอะไรบางอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนในขั้นตอนหนึ่งของพิธี เราเพิ่งสวดภาวนาบทเริ่มต้นของพระวรสารของยอห์นเสร็จ: “และพระวจนาตถ์ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์และประทับอยู่ท่ามกลางเรา” ผู้ถูกปีศาจกระทำได้สติขึ้นมาและเงยหน้าขึ้นมองผม ผมถามเธอว่าเธอเป็นยังไงบ้าง เธอตอบว่า “ฉันรู้สึกท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกอิจฉาริษยาที่เข้มข้นอย่างไม่น่าเชื่อ!”
 
ปกติเธอไม่ใช่คนขี้อิจฉา แล้วเรื่องนั้นมาจากไหน? แน่นอนว่ามันมาจากปีศาจ คนที่ทนทุกข์ทรมานจากปีศาจมักจะมีความสัมพันธ์ทางชีวภาพกับปีศาจ พวกเขาสามารถรู้สึกและสัมผัสถึงสิ่งที่ปีศาจกำลังประสบอยู่และในทางกลับกันปีศาจก็รู้สึกและสัมผัสผู้ที่ถูกมันกระทำด้วย
 
การฟังบทเริ่มต้นของพระวรสารของยอห์น ซึ่งกล่าวถึงการจุติเป็นมนุษย์ของพระเจ้าในพระคริสตเยซูนั้น ถือเป็นความทรมานสำหรับพวกปีศาจ—ทำให้พวกมันเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา เชื่อกันโดยทั่วไปว่าทูตสวรรค์ที่ตกต่ำลงสู่บาปนั้น,เดิมทีทำบาปหยิ่งจองหอง แต่นักเทววิทยาหลายคน รวมทั้งนักบุญโทมัส อไควนัสคิดว่าพวกปีศาจทำบาปอิจฉาริษยาด้วยเช่นกัน
 
ตั้งแต่เริ่มแรก พระเจ้าทรงเปิดเผยแผนการของพระองค์แก่เหล่าทูตสวรรค์ในการจุติเป็นมนุษย์ขององค์พระวจนาตถ์ ความคิดที่ว่าพระเจ้าจะทรงถ่อมตัวลงและกลายเป็นมนุษย์, ไม่ใช่เป็นทูตสวรรค์,นั้นทำให้ซาตานและผู้ติดตามมันโกรธเคือง ความหยิ่งยโสและความอิจฉาริษยากระตุ้นให้พวกมันปฏิเสธพระเจ้า ทูตสวรรค์ที่ตกลงสู่บาปเหล่านี้ต้องการมากกว่าสิ่งที่พระเจ้าจะมอบให้พวกมัน และพวกมันก็ต้องการที่จะได้รับด้วยตนเอง โดยไม่ขึ้นอยู่กับความใจกว้างของพระองค์
 
ทุกวันนี้คุณไม่ค่อยได้ยินเรื่องบาปแห่งความอิจฉาริษยาจากการเทศน์สอนในโบสถ์มากนัก แต่เมื่อพิจารณาถึงการแพร่ขยายของความไม่สงบ, ความขัดแย้ง, และความบาดหมางที่เกิดขึ้นทั่วโลกของเราทุกวันนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากความอิจฉาริษยา การไม่รู้สึกขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่พระเจ้าประทานแก่เรา
 
ปีศาจคอยกระตุ้นให้เราทำบาปแบบเดียวกับที่พวกมันทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบาปแห่งความเย่อหยิ่งและความอิจฉาริษยา พวกมันต้องการให้เราทนทุกข์ร่วมกับพวกมันและอยู่ภายใต้แอกอันโหดร้ายของพวกมันในชีวิตนี้และชีวิตหน้า
 

 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น