บางครั้งเราอาจท้อแท้เมื่อความพยายามละทิ้งบาปและพยายามดำเนินชีวิตที่ศรัทธา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และกลับไปสู่ชีวิตเดิมๆอีก ตัวอย่างเช่น คนที่พยายามไม่โกรธเกลียดคนบางคน หรือคนที่ชอบพูดจาว่าร้ายผู้อื่น ฯลฯ
มีอุปสรรคมากมายในชีวิตฝ่ายวิญญาณ เราพยายามปรับปรุงการดำเนินชีวิตของเราและเริ่มก้าวหน้าในคุณธรรม แต่แล้วเราก็หวนกลับไปสู่พฤติกรรมเก่าๆ ทำให้เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคริสตชนที่ดีได้
เราอาจรู้สึกท้อแท้และหมดหวังเมื่อพบกับความล้มเหลว
อย่างไรก็ตาม ในความปรารถนาที่จะเป็นคนดีสมบูรณ์แบบ เราต้องมีความตั้งใจจริงและมั่นใจในพระเมตตาของพระเจ้า การชำระล้างจิตวิญญาณของเราบนโลกจะไม่สิ้นสุดลงจนกระทั่งเราตาย
นักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์ กล่าวถึงประสบการณ์นี้ในหนังสือคำแนะนำสู่ชีวิตศรัทธา:
“เราต้องกล้าหาญและอดทนในการดำเนินการนี้ เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เห็นวิญญาณหนึ่งเริ่มรู้สึกหงุดหงิดและท้อแท้ เพราะพวกเขาพบว่าตนเองยังคงตกอยู่ภายใต้ความไม่สมบูรณ์ครบครันหลังจากพยายามดำเนินชีวิตที่ศรัทธามาบ้างแล้ว และเกือบจะยินยอมต่อการประจญให้ยอมแพ้,สิ้นหวังและถอยหลัง”
ส่วนแรกของคำแนะนำของนักบุญคือ ให้มองสิ่งต่างๆในมุมมองที่เหมาะสมเสมอ ไม่มีใครกลายเป็นนักบุญได้ในทันที ในความเป็นจริงแล้ว ถนนสายนี้ยาวไกลมากและไม่สิ้นสุดลงจนกว่าจะถึงเวลาแห่งความตาย:
งานของการชำระล้างวิญญาณไม่สามารถสิ้นสุดลงได้ จงอย่าท้อแท้กับความไม่สมบูรณ์ครบครันของเรา ความสมบูรณ์ครบครันของเราอยู่ที่การต่อสู้กับการประจญเหล่านั้นอย่างขยันขันแข็ง และเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อสู้โดยไม่เผชิญหน้ากับมัน หน้าต่อหน้า หรือเอาชนะได้โดยไม่พบเห็นสิ่งเหล่านั้นโดยตรง
แทนที่จะยอมแพ้เพราะความสิ้นหวัง เราควรปล่อยให้พระเจ้า,พระบิดา,ทรงช่วยเหลือพยุงเราขึ้นมา ปัดเป่าความท้อแท้ของเราออกไป และนำเรากลับมาสู่เส้นทางแห่งคุณธรรมอีกครั้ง
เราจำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลมากขึ้นในใจ โดยตระหนักว่าเราสามารถก้าวหน้าได้ทีละเล็กทีละน้อย และก้าวไปข้างหน้าเสมอ
ความจริงอีกอย่างทางด้านจิตวิญญาณที่สำคัญที่ต้องจำไว้คือ พระเจ้าเป็นพระบิดาผู้เปี่ยมด้วยความรัก ทรงพร้อมและเต็มพระทัยที่จะรับเราไว้ในอ้อมแขนของพระองค์เสมอ
เมื่อใดก็ตามที่เราล้มลง เราก็ควรวิ่งเหมือนเด็กน้อยเข้าสู่อ้อมอกอันเปี่ยมด้วยความรักของพระเจ้า
#Catholic 4 Life
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น