ไดอารี่ของนักบุญโฟสตินา - ย่อหน้า 309 - 311 - การถวายตนเองเป็นเครื่องบูชาเพื่อคนบาป
309 เบื้องหน้าสวรรค์และโลก เบื้องหน้าเหล่าทูตสวรรค์คณะขับร้องประสานเสียง เบื้องหน้าพระแม่มารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง เบื้องหน้าพลังอำนาจทั้งมวลของสวรรค์ ดิฉันขอประกาศต่อพระตรีเอกภาพองค์เดียวว่า วันนี้, ในความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูคริสต์, พระผู้ไถ่วิญญาณให้รอด, ดิฉันถวายตนเองด้วยความสมัครใจเพื่อให้บรรดาคนบาปกลับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวิญญาณเหล่านั้นที่สูญเสียความหวังในพระเมตตาของพระเจ้า การถวายนี้ประกอบด้วยการยอมรับความทุกข์ ยอมรับความกลัวและความหวาดหวั่นทั้งหมดที่คนบาปต้องเผชิญ และยอมจำนนต่อพระประสงค์ของพระเจ้าโดยสิ้นเชิง ดิฉันขออุทิศแก่พวกเขาด้วยความสุขทั้งหมดที่วิญญาณของดิฉันได้รับจากการมีส่วนร่วมกับพระเยซูเจ้าในความทุกข์ กล่าวโดยสรุป ดิฉันขอถวายทุกสิ่งเพื่อพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นพิธีมิสซา พิธีศีลมหาสนิท การชดเชยใช้โทษบาป การสวดภาวนา ดิฉันไม่กลัวการถูกโจมตี จากความยุติธรรมของพระเจ้า เพราะดิฉันเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้า โอ้พระเจ้าของลูก ด้วยวิธีนี้ ลูกต้องการชดใช้ต่อพระองค์สำหรับวิญญาณที่ไม่วางใจในความดีของพระองค์ ลูกหวังในมหาสมุทรแห่งพระเมตตาของพระองค์อย่างสุดความสามารถ พระเจ้าของลูก ลูกขอมอบทุกสิ่งนี้แด่พระองค์ตลอดไป ลูกไม่ได้ถวายเครื่องบูชาด้วยกำลังของลูกเอง แต่ถวายด้วยกำลังที่มาจากคุณความดีของพระเยซูคริสต์
310 - เรากำลังมอบส่วนแบ่งการไถ่บาปมนุษยชาติให้กับลูก ลูกคือความปลอบประโลมใจของเราในยามที่เรากำลังจะตาย
311 เมื่อดิฉันได้รับอนุญาตจากคุณพ่อผู้ฟังสารภาพบาปของดิฉัน [คุณพ่อโซปอคโค] ให้ทำการถวายตนเองเป็นเครื่องบูชา ดิฉันก็ได้เรียนรู้ในไม่ช้าว่าการถวายตนเองเป็นเครื่องบูชานี้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า เพราะดิฉันเริ่มสัมผัสได้ถึงผลที่ตามมาในทันที ชั่วพริบตาเดียว จิตวิญญาณของดิฉันก็กลายเป็นเหมือนก้อนหินที่แห้งผาก เต็มไปด้วยความทรมานและความไม่สงบ คำดูหมิ่นและคำสาปแช่งทุกประเภทก็วนเวียนอยู่ในหูของดิฉัน ความไม่ไว้วางใจและความสิ้นหวังเข้ามารุกรานใจของดิฉัน นี่คือสภาพของคนที่น่าสงสารซึ่งดิฉันได้ประสบ ในตอนแรก ดิฉันกลัวมากกับสิ่งน่ากลัวเหล่านี้ แต่ในระหว่างการสารภาพบาปครั้งแรก [ที่มีโอกาส] ดิฉํนรู้สึกสงบ ดิฉันจะทำการถวายตนเองเป็นเครื่องบูชาซ้ำทุกวันโดยสวดภาวนาต่อไปนี้ ซึ่งพระเยซูทรงสอนดิฉันเอง พระเยซูตรัสสอนว่า: "โอ้พระโลหิตและน้ำที่ไหลออกมาจากพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นท่อธารแห่งพระเมตตาเพื่อเราทั้งหลาย ลูกวางใจในพระองค์!"
พวกเราไม่ได้เป็นเพียงผู้รับพระเมตตาของพระคริสต์เท่านั้น เมื่อได้รับพระเมตตาของพระองค์ เราก็ได้มีส่วนร่วมในการไถ่บาปของผู้อื่นด้วย ดังที่นักบุญโฟสตินาได้แสดงให้เห็นในการถวายตนเองเป็นเครื่องบูชาในวรรคที่ 309 “ดิฉันเชื่อว่าชีวิตของนักบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราสามารถเป็นบทเรียนสำหรับพวกเราผู้ซึ่งเป็นนักบุญที่ต่ำต้อยกว่าได้" ดังนั้น หากนักบุญโฟสตินาสามารถทำสิ่งนี้ได้ เราก็สามารถทำได้ในระดับที่เล็กกว่า เราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการไถ่บาปของมนุษยชาติได้ และด้วยวิธีที่ลึกลับที่ไม่ใช่ทางโลก เราก็สามารถกลายเป็นผู้ปลอบประโลมของพระคริสต์ในช่วงเวลาแห่งการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนของพระองค์เมื่อสองพันปีที่แล้ว เช่นเดียวกับที่พระคริสต์ได้อธิบายแก่นักบุญโฟสตินา
นักบุญโฟสตินาเป็นผู้ที่ได้รับพระพรพิเศษที่แท้จริง ผมคิดว่าเธอมักจะรู้สึกไม่สบายใจในโลกแห่งวัตถุมากกว่าในโลกแห่งจิตวิญญาณ ผมเชื่อว่านี่คือสาเหตุที่การถวายตนเองเป็นเครื่องบูชาของเธอทำให้เกิดการทรมานทางจิตวิญญาณอย่างรวดเร็วตามที่บรรยายไว้ในย่อหน้าที่ 311 ซึ่งก็คือการต้องรับ “ความทุกข์ ความกลัว และความหวาดหวั่นทั้งหมดที่คนบาปต้องได้รับ” เธอสวดภาวนาขอให้รับความทุกข์เหล่านั้นเพื่อคนบาปเหมือนกับที่พระคริสต์ทรงรับเพื่อคนบาปอย่างครบถ้วนบนไม้กางเขน และในระดับหนึ่ง คำอธิษฐานนี้ได้รับและยืนยันโดยพระคริสต์ในย่อหน้าที่ 310 ความทุกข์เพื่อการไถ่บาปเป็นความจริงของชีวิตคริสตชน ไม่เพียงแต่ปรากฏในชีวิตของนักบุญโฟสตินาเท่านั้น แต่ปรากฏในพระคัมภีร์ด้วย
ข้อความจากพระคัมภีร์เกี่ยวกับเรื่องนี้
โคโลสี 1:24 บัดนี้ข้าพเจ้ายินดีที่ได้รับทุกข์ทรมานเพื่อท่านทั้งหลาย ความทรมานของพระคริสตเจ้ายังขาดสิ่งใด ข้าพเจ้าก็เสริมให้สมบูรณ์ด้วยการทรมานในกายของข้าพเจ้า เพื่อพระกายของพระองค์คือพระศาสนจักร
เราถูกเรียกให้ทนทุกข์ในพระคริสต์เพื่อผู้อื่น ไม่ใช่ในระดับของพระเจ้าหรือระดับจิตวิญญาณในระดับสูงเหมือนของนักบุญโฟสตินา แต่ในระดับที่ต่ำกว่า ซึ่งยังคงปลดปล่อยความเป็นพระเจ้าของพระคริสต์ในระดับหนึ่งเข้าสู่ชีวิตของผู้อื่นผ่านตัวเรา กิจกุศลเป็นช่องทางหนึ่งที่เราใช้ได้ แต่พวกเราแทบไม่มีใครที่เพิ่มความทุกข์ทรมานด้วยการเสียสละให้กับกิจกุศลนั้น เช่น การพลีกรรมอดอาหารเพื่อเป็นเครื่องบูชาทางจิตวิญญาณ ขณะเดียวกันก็จัดหาอาหารเย็นให้คนไร้บ้านอันเป็นกิจกุศลทางวัตถุ ซึ่งอาจฟังดูอาจเป็นเรื่องเล็กน้อยจากมุมมองทางโลก แต่ในมุมมองทางจิตวิญญาณที่เหนือโลก เมื่อพระคริสต์สัมผัสเรา อาจช่วยให้เราสัมผัสทั้งผู้อื่นและพระคริสต์ในเวลาเดียวกัน
ข้อความจากพระคัมภีร์
1 โครินธ์ 12:26 ถ้าอวัยวะหนึ่งเป็นทุกข์ อวัยวะอื่นๆทุกส่วนก็ร่วมเป็นทุกข์ด้วย ถ้าอวัยวะหนึ่งได้รับเกียรติ อวัยวะอื่นๆทุกส่วนก็ร่วมยินดีด้วยเช่นเดียวกัน
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น