“ความเจ็บปวดนั้นหากดำรงชีวิตด้วยความรักก็จะเป็นการชำระล้างให้บริสุทธิ์ แต่ถ้าหากไม่ดำรงชีวิตด้วยความรัก, ความเจ็บปวดนั้นก็จะทำให้เสื่อมทรามลง”
มารีโน เรสทรีโป(Marino Restrepo)พูดว่า “ผมได้เห็นด้วยตาตัวเองว่านรกเป็นความจริงที่สามารถปรากฏให้เห็นได้ในช่วงสุดท้ายของชีวิตนี้»
ในการสัมภาษณ์มารีโน ผู้เป็นธรรมทูตฆราวาสชาวโคลอมเบียในโอกาสที่เขาไปเยือนสเปนในช่วงฤดูร้อนปี 2018 เพื่อประกาศการเป็นพยานในหลายเมือง มารีโนได้พบกับการเปลี่ยนแปลงชีวิตระหว่างการถูกลักพาตัวโดยผู้ก่อการร้าย FARC ในโคลอมเบียและถูกกักขังไว้ในถ้ำเป็นเวลาหลายเดือน (5/09/19)
( Javier Navascués/InfoCatólica ) มารีโน เรสทรีโป กล่าวบรรยายในที่ประชุมระหว่างการเดินทางไปที่สเปนตลอดเดือนกรกฎาคม ในโอกาสนี้ เขาได้รับการสัมภาษณ์จาก Javier Navascués
เขาเกิดในเมืองเล็กๆ ที่ปลูกกาแฟในเทือกเขาแอนดิสของโคลอมเบีย ในครอบครัวที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก แต่เขาได้ห่างไปจากความเชื่อที่ได้รับมาในวัยเด็ก เนื่องจากชีวิตของเขาเน้นไปที่การเที่ยวกลางคืน เซ็กส์ และแอลกอฮอล์ เป็นชีวิตที่ว่างเปล่าไร้แก่นสารถึงแม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงานผ่านดนตรี และทำงานในวงการภาพยนตร์ของฮอลลีวูด เขายังเติมเต็มชีวิตด้วยความเชื่องมงาย เช่น ไพ่ทาโรต์, cabalas, runes ซึ่งเป็นเรื่องทางเวทมนตร์และความเชื่องมงายต่างๆ จนกระทั่งในปี 1997 เขากลับไปที่บ้านของเขาในโคลอมเบียและถูกลักพาตัวโดยองค์กรก่อการร้าย FARC และได้พบกับประสบการณ์ที่น่าตกตะลึงกับพระเจ้า
ขณะที่ถูกคุมข้งอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งเป็นเวลาเกือบสามเดือน,เขาได้เห็นนรกชั่วนิรันดร์ที่รอเขาอยู่ พระเยซูเจ้าทรงให้โอกาสแก่เขาอีกครั้ง และปัจจุบัน เขาเดินทางไปทั่วโลกเพื่อสั่งสอนความจริงของความเชื่อ นรกมีอยู่จริงและถ้าหากคุณใช้ชีวิตในบาปก็มีแนวโน้มสูงมากที่คุณจะตกอยู่ในนั้นและถูกลงโทษชั่วนิรันดร
เขาได้ก่อตั้งสมาคม "ผู้แสวงบุญแห่งความรัก(Pilgrims of Love)" ซึ่งได้รับการรับรองจากอาร์ชบิชอปแห่งโบโกตา และมุ่งเน้นเป็นพิเศษที่การเผยแพร่ศาสนารูปแบบใหม่
คำถาม - คุณสามารถมีความสุขโดยปราศจากพระเจ้าได้หรือไม่?
มารีโน - มนุษย์ในโลกแสร้งทำเป็นมีความสุขโดยปราศจากพระองค์ จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ผมพบว่าหลังจากที่ใช้ชีวิตโดยปราศจากพระองค์มา 33 ปี ผมไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่อายุ 14 ผมหันหลังให้กับพระองค์และรู้สึกไม่มีความสุขเลย
ทุกวันนี้ ผมสามารถพูดได้ว่าผมรู้สึกถึงความยินดีที่พระจิตทรงประทานให้ และผมเข้าใจถึงความโดดเดี่ยวและความว่างเปล่าที่เกิดขึ้นโดยปราศจากพระเจ้า มนุษย์ออกแบบความสุขให้ดูสมจริงแบบมหัศจรรย์เพื่อความสบายใจของตนเองโดยทำให้ตัวเองเชื่อในสิ่งไร้แก่นสารเหล่านี้ด้วยการสร้างสภาพชีวิตที่เป็นเท็จ
โลกเสนอช่องทางมากมายเพื่อให้มนุษย์ครอบครองและทำให้เขาเชื่อว่าเขาใช้ชีวิตอิสระได้อย่างเต็มที่ แต่การทดลองและความยากลำบากของชีวิตนี้พิสูจน์ให้เห็นว่ามันเป็นอย่างอื่น และหลายคนลงเอยด้วยการแสวงหาพระเจ้า
คำถาม - ความสุขที่ไร้ระเบียบนั้นตอบสนองความต้องการของเนื้อหนังได้จริงหรือ?
มารีโน - ความสุขที่ไร้ระเบียบนั้นตอบสนองความต้องการของเนื้อหนังและบรรลุถึงความพึงพอใจชั่วครั้งชั่วคราว (ซึ่งไม่เคยตอบสนองได้) และก่อให้เกิดนิสัยที่คนเราใช้ชีวิตด้วยความปรารถนาชั่วครั้งชั่วคราว
ชีวิตนี้ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อตอบสนองความต้องการทั้งหมดเหล่านี้ บริโภคนิยมและลัทธิสัมพันธ์นิยมเป็นธงสองผืนที่ถูกยกขึ้นสำหรับการดำรงอยู่ของลัทธิวัตถุนิยม
คำถาม - ทำไมความชั่วร้ายจึงไม่สามารถตอบสนองความปรารถนาในความสุขได้?
มารีโน - ความสุขของคริสตชนคือการพบกับความปีติยินดีอย่างเต็มเปี่ยมในพระเยซูคริสต์ ไม่มีความชั่วร้ายใดที่จะให้สิ่งนี้ได้ ผลของความชั่วร้ายอาจพูดได้ว่า: ความชั่วร้ายทำลายมนุษย์
คำถาม - พระเยซูเจ้าเสด็จมาพบคุณได้อย่างไร?
มารีโน - พระเยซูเจ้าทรงปรากฏกายให้ผมเห็นระหว่างประสบการณ์ลึกลับขณะที่ผมเป็นนักโทษของกองโจรโคลอมเบีย ท่ามกลางประสบการณ์นั้น ทุกสิ่งที่ถูกสอนให้ผมรู้ในพระศาสนจักรคาทอลิก,ตั้งแต่เวลาที่ผมรับศีลมหาสนิทครั้งแรกจนถึงอายุ 14 ปีเมื่อผมอยู่ในพระศาสนจักร ทั้งหมดถูกเปิดเผยให้ผมเห็น ประสบการณ์นี้เปลี่ยนชีวิตของผมและเปลี่ยนไม่เพียงแต่เป็นผู้เชื่อในความจริงเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังเป็นธรรมทูตคาทอลิกอีกด้วย
ประสบการณ์ที่เจ็บปวดแต่จำเป็น.....
ทรงกระทำการอย่างลึกลับ และสิ่งที่ดูไร้สาระในเหตุผลของมนุษย์ที่น่าสงสารของเรากลับกลายเป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบในพระประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ความเจ็บปวดนั้น หากเราดำเนินชีวิตด้วยความรัก, ก็จะเป็นการชำระล้างให้บริสุทธิ์ แต่ถ้าหากเราไม่ดำเนินชีวิตด้วยความรัก ความเจ็บปวดก็จะทำให้เราเสื่อมทรามลง ขอบคุณพระเจ้าที่ผมได้ดำเนินชีวิตด้วยความรัก
ช่วยอธิบายประสบการณ์ของคุณให้ฟังหน่อย
มารีโน – มันเกิดขึ้นในขณะที่อยู่ในญาณแห่งความปิติ ผมได้รับการส่องสว่างในจิตสำนึกของผมก่อน จากนั้นพระเยซูเจ้าก็ตรัสกับผมและเปิดเผยความจริงในพระศาสนจักรคาทอลิกให้ผมรู้ จากนั้นผมก็ปรากฏตัวในทะเลสาบที่ผมสามารถมองเห็นบาปทั้งหมดของผม และทางด้านซ้ายของทะเลสาบ ผมสามารถมองเห็นนรก และทางด้านขวาเป็นไฟชำระ พระเยซูทรงปรากฏให้ผมเห็นพระองค์ประทับยืนบนก้อนหินที่อยู่หน้าทะเลสาบ
มีความรู้สึกอย่างไรในการได้รับการช่วยเหลือให้รอดพ้นจากนรก?
พระเมตตาของพระเจ้า มนุษย์,ในระหว่างการเดินทางผ่านการเนรเทศบนโลกนี้,ไม่เข้าใจถึงอันตรายที่พวกเขากำลังเผชิญ หากเรารู้ว่าซาตานเกลียดชังเรา เราก็จะเตรียมตัวในช่วงเวลาแห่งความตายได้เป็นอย่างดี ประสบการณ์ของผมได้แสดงให้ผมเห็นความเศร้าโศกของความมืดบอดทางจิตวิญญาณที่มนุษยชาติต้องเผชิญ
บอกเราหน่อยเกี่ยวกับความร้ายแรงของการถูกสาปแช่งชั่วนิรันดร์...
คำว่าชั่วนิรันดร์อธิบายทุกสิ่งได้ ถ้าเพียงแต่เราสามารถพินิจใคร่ครวญบ่อยๆเกี่ยวกับความหมายของคำว่านิรันดร: ไม่มีที่สิ้นสุด, ไม่วันหมดสิ้น คำเหล่านี้มีความรุนแรงและเหนือโลกอย่างมาก มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกจะต้องมีการสอนคำสอนที่ชัดเจนและลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับผลที่ตามมาของการถูกสาปแช่งชั่วนิรันดร์
คุณจะพูดอะไรกับผู้คนที่ดำเนินชีวิตในบาปอย่างต่อเนื่อง?
พวกเขาจะถูกสาปแช่งได้ ผมเห็นด้วยตาฝ่ายวิญญาณของผมเองว่านรกเป็นความจริงที่สามารถปรากฏตัวมันเองให้เห็นในตอนท้ายของชีวิตนี้ในฐานะจุดหมายปลายทางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้ที่ปฏิเสธที่จะดำเนินชีวิตตามความเชื่อฟังพระเจ้าและเลือกที่จะทำตามความต้องการของมนุษย์ในเส้นทางของบาป
หลังจากกลับใจแล้วมีความจำเป็นต้องแก้ไขบาปความผิดด้วย....
มนุษย์มีสองทางเลือก: ใช้ชีวิตอย่างดีหรือใช้ชีวิตที่ไม่ดี หากเขาใช้ชีวิตอย่างดี เขาจะต้องอยู่ในสถานะของการกลับใจอย่างถาวรและการชดเชยใช้โทษบาปอย่างถาวร เป็นเรื่องปกติมากในพระศาสนจักรคาทอลิกในปัจจุบันที่จะพบว่า ผู้คนจำนวนมากไม่มีความกระตือรือร้นที่จะดำเนินชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์ ทำให้พวกเขาไม่หลุดพ้นจากบาป เพราะพวกเขาสารภาพโดยไม่สำนึกผิดอย่างจริงใจและไม่มีความพยายามในการชดเชยใช้โทษบาป พวกเขาดำเนินชีวิตทางศาสนาโดยไม่มีการกลับใจ
บอกเราเกี่ยวกับความจำเป็นในการอุทิศชีวิตของเราเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า....
การดำเนินชีวิตในความศักดิ์สิทธิ์ ผมค้นพบว่าไม่มีวิธีอื่นใดนอกจากสิ่งนี้ หากเราไม่ใช่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ เราจะเข้าสวรรค์ไม่ได้ ผมนึกไม่ออกว่าคนที่บอกว่าเป็นคาทอลิกและยืนยันความเชื่อของตนจะแสวงหาอะไรอื่น
เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยชีวิตของเรา เราต้องตระหนักว่าการยอมจำนนต่อการเชื่อฟัง, การเชื่อฟังพระเจ้า, เป็นสิ่งสำคัญ
ความสำคัญของการสวดภาวนาเพื่อความรอดของวิญญาณ....
มันเป็นการเป็นหนึ่งเดียวกันของเหล่านักบุญ เราเป็นหนึ่งเดียวกันในการสวดภาวนาเพื่อกันและกัน พระศาสนจักรสอนเราอย่างชัดเจน และผมได้เห็นสิ่งนี้ระหว่างประสบการณ์ลึกลับของผมว่า การตระหนักถึงการสวดภาวนาเพื่อวอนขอพรเป็นสิ่งสำคัญมาก เราต้องสวดภาวนาเสมอเพื่อการกลับใจของคนบาปทุกคน ผมเชื่อว่านี่คือบทภาวนาที่พระเยซูเจ้าทรงโปรดปราน เพราะพระองค์เสด็จมาถูกตรึงกางเขนเพื่อช่วยให้คนบาปทุกคนได้รับความรอดพ้น
มีความจำเป็นต้องกลับใจอย่างต่อเนื่อง เพราะแม้ว่าเราจะมีประสบการณ์กับพระเจ้า แต่โลกก็ยังคงโจมตีเราอยู่....
เราต้องดำเนินชีวิตในความศักดิ์สิทธิ์และสวดภาวนาเพื่อให้มีกำลังเพียงพอที่จะปกป้องตนเองจากจุดอ่อนและสิ่งล่อลวงต่างๆ ของความชั่วร้าย
ทำไมคุณถึงรู้สึกว่าจำเป็นต้องเป็นพยานต่อโลก?
เพราะนั่นเป็นกระแสเรียกจากพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าทรงปรากฏแก่ผมสองปีหลังจากที่ผมได้รับการปลดปล่อยจากการลักพาตัว,ในโบสถ์แห่งหนึ่งในโบโกตา ระหว่างพิธีมิสซาปาล์มซันเดย์(พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่า หรือวันแห่ใบลาน)
มันจะใช้เวลานานเกินไปในการจะเล่ารายละเอียดประสบการณ์นี้ แต่พระองค์ทรงแสดงให้ผมเห็นว่าผมเกิดมาเพื่อภารกิจนี้ และมันจะพาผมไปทั่วโลก
แน่นอนว่าสถานการณ์ของพระศาสนจักรในปัจจุบันนั้นละเอียดอ่อน เพราะมีความสับสนมากมาย...
เราไม่สามารถช่วยพระศาสนจักรทั้งหมดหรือทั้งโลกได้ เราแต่ละคนต้องแน่ใจว่าเราชำระตัวให้บริสุทธิ์แล้ว นี่คือการมีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา ชีวิตประจำวันของเราคือการมีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะเป็นโอกาสที่จะใช้ชีวิตเป็นพยาน
จะทำอย่างไรในเมื่อผู้เลี้ยงแกะไม่ทำหน้าที่ดังกล่าว...
เราต้องเป็นพยานที่ดีขึ้นในชีวิตส่วนตัวของเรา เพื่อที่เราจะแก้ไขข้อผิดพลาดของพวกเขาได้ เราอาศัยอยู่ในโลกที่ขาดความสมบูรณ์ทางจิตวิญญาณของพระสงฆ์จำนวนมาก เรื่องอื้อฉาวของพระสงฆ์ในพระศาสนจักรในยุคนี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งนี้ แต่ยังไม่สูญเสียทุกอย่าง ความชั่วร้ายเป็นเรื่องอื้อฉาวมาก แต่ปีศาจจะไม่สามารถเอาชนะพระศาสนจักรได้ จะมีพระสงฆ์อยู่เสมอ ชีวิตนักบวชและฆราวาสที่ประกอบด้วยผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่เหลืออยู่เพื่อค้ำจุนพระศาสนจักรแม้ในยามที่พายุรุนแรงในยุคนี้
คำบรรยายเป็นพยานของ Marino Restrepo ในสเปน ฤดูร้อนปี 2018
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น