เหตุการณ์หลังการสิ้นพระชนม์ของพระสันตปาปาฟรังซิสเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก
บรรดาพระคาร์ดินัลจะคงไว้ซึ่งแนวทางเสรีนิยมต่อไปหรือไม่ หรือจะเลือกแนวทางที่พอประมาณมากขึ้น หรือจะหันไปหาผู้สมัครที่ยึดถือธรรมประเพณีเพื่อตำแหน่งพระสันตปาปาองค์ต่อไป?
ประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือเรื่องเชื้อชาติและเผ่าพันธุ์ พระสันตปาปาฟรังซิสเป็นคนแรกที่มาจากอาร์เจนตินา,อเมริกาใต้ แล้วเอเชียหรือแอฟริกาจะเป็นลำดับต่อไปได้หรือเปล่า?
เป็นครั้งแรกที่พระคาร์ดินัลผู้เลือกตั้งส่วนใหญ่มาจากนอกยุโรป โดยมีตัวแทนจากอัฟริกา เอเชีย และละตินอเมริกาเพิ่มมากขึ้น
องค์ประกอบทางเทววิทยาและวัฒนธรรมที่หลากหลายของคณะพระคาร์ดินัลแสดงให้เห็นว่าการประชุมที่กำลังจะมีขึ้นอาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มก้าวหน้า, สายกลาง, และอนุรักษ์นิยม ประกอบกับความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้น ช่วยสร้างเวทีสำหรับการเลือกตั้งพระสันตปาปาที่เกิดผลตามมาและอาจสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้
ด้วยจำนวนพระคาร์ดินัลผู้เลือกตั้ง 135 คนที่อายุต่ำกว่า 80 ปี การจัดองค์กรพระคาร์ดินัลนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในแนวทางเทววิทยาและการเมือง ซึ่งพระคาร์ดินัลส่วนใหญ่ได้รับการแต่งตั้งจากพระสันตปาปาฟรังซิส
ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง, พระสันตปาปาฟรังซิสทรงแต่งตั้งพระคาร์ดินัลผู้เลือกตั้งในปัจจุบันประมาณ 80% ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในองค์ประกอบของคณะคาร์ดินัล การคัดเลือกของพระองค์เน้นที่ประสบการณ์การดูแลจิตวิญญาณ ความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ และการเน้นที่ประเด็นความยุติธรรมทางสังคม
แม้จะมีความก้าวหน้า แต่คณะพระคาร์ดินัลก็ยังมีพระคาร์ดินัลที่มีแนวโน้มอนุรักษ์นิยมอยู่ โดยเฉพาะจากอัฟริกาและเอเชีย ซึ่งทัศนคติแบบดั้งเดิมเกี่ยวกับครอบครัวและศีลธรรมยังคงมีอิทธิพลอยู่ สมาชิกเหล่านี้มักเน้นย้ำถึงความบริสุทธิ์ของหลักคำสอน และอาจต่อต้านการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วต่อคำสอนที่ได้รับการยอมรับ
แนวโน้มอนุรักษ์นิยมมีความแข็งแกร่ง
รายงาน ของวอลล์สตรีทเจอร์นัลระบุว่า“การสำรวจคณะพระสงฆ์คาทอลิกในสหรัฐฯ กว่า 3,500 คนในปี 2022 ซึ่งจัดทำโดยโครงการวิจัยคาทอลิกของมหาวิทยาลัยคาทอลิก ยืนยันผลการสำรวจดังกล่าว โดยในบรรดาพระสงฆ์ที่ได้รับการบวชตั้งแต่ปี 2020 ประมาณ 80% ระบุว่าเป็น 'พระสงฆ์อนุรักษ์นิยม/ออร์โธดอกซ์' ส่วนพระสงฆ์ที่ระบุว่าเป็นกลุ่มก้าวหน้าและเสรีนิยมกำลังเผชิญกับ 'การล่มสลายอย่างแท้จริง' “ในหมู่พระสงฆ์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” สตีเฟน พี. ไวท์ ผู้อำนวยการบริหารของโครงการคาทอลิกกล่าว เขามองว่าการฟื้นฟูคาทอลิกอนุรักษ์นิยมเป็น “ส่วนหนึ่งของลัทธิประชานิยมที่ดูเหมือนจะแพร่กระจายไม่เพียงแต่ในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ไปทั่วโลกตะวันตกส่วนใหญ่ด้วย”
อนุรักษ์นิยมยึดมั่นในความเชื่อที่ว่าเสรีนิยมในรูปแบบต่างๆ ทั้งทางการเมือง สังคม และศาสนา ได้เสื่อมความนิยมลง แม้ว่าเสรีนิยมอาจก่อให้เกิดความมั่งคั่งทางวัตถุ แต่พวกเขาก็กล่าวว่าเสรีนิยมได้บ่อนทำลายชุมชนและก่อให้เกิด "การสังหารหมู่" ทางสังคม
การสิ้นพระชนม์ของพระสันตปาปาเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลอีสเตอร์ ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ของพระคริสต์เป็นเวลา 8 วัน วันจันทร์อีสเตอร์สะท้อนให้เห็นถึงความชื่นชมยินดีที่ต่อเนื่องและความจริงของพระคริสต์ผู้ทรงฟื้นคืนพระชนม์ พระสันตปาปาฟรังซิสเป็นบุคคลที่ดีและมีเมตตากรุณา พระองค์เป็นพระสันตปาปาผู้สวดสายประคำอย่างลึกซึ้ง 15 ทศทุกวัน เราจะคิดถึงพระองค์
การฝังพระศพของพระองค์ที่โบสถ์เซนต์แมรี่เมเจอร์จะเป็นภาพที่น่าชมยิ่งนัก การที่พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งพระสันตปาปาจนถึงวาระสุดท้ายถือเป็นเรื่องสำคัญ
ในโลกแห่งความลึกลับ,หนังสือพิมพ์London Mailได้นำเอา คำทำนายของ นอสตราดามุสเกี่ยวกับ พระสันตปาปาองค์ต่อไป โดยอ้างว่า "กำลังบอกเป็นนัยถึงรายละเอียดของผู้สืบทอดตำแหน่งจากพระสันตปาปาฟรังซิส โดยที่นอสตราดามุสเขียนคำทำนายว่า 'ชายหนุ่มผิวคล้ำด้วยความช่วยเหลือของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่จะมอบกระเป๋าเงินให้กับคนผิวแดงอีกคนหนึ่ง' คำทำนายของนอสตราดามุสก่อให้เกิดการตีความที่หลากหลาย หลายคนบอกว่าไม่ควรตีความตามตัวอักษรมากเกินไป อย่างไรก็ตาม เมื่อคำนึงถึงการสิ้นพระชนม์ของพระสันตปาปาฟรังซิส บางคนได้ตีความคำทำนายนี้ว่าหมายถึงการเปลี่ยนแปลงผู้นำภายในพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก"
* * * *
[จากเว็บไซต์ที่อุทิศให้กับการประจักษ์ที่การาบังดัล ประเทศสเปน: “ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 1963ข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระสันตปาปายอห์นที่ 23 เพิ่งมาถึงการาบังดัล คอนชิตา [กอนซาเลซ หนึ่งในเด็กสี่คนที่เห็นแม่พระ] และมารดาของเธอเดินทางไปที่โบสถ์เพื่อสวดภาวนาขอให้พระสันตปาปาได้พักผ่อนชั่วนิรันดร์ ระหว่างทาง คอนชิตาได้ยินเสียงอันชัดเจนของพระมารดาที่บอกกับเธอว่า “ หลังจากพระสันตปาปาองค์นี้ จะมีเพียงสามพระองค์เท่านั้น และหลังจากนั้นจะเป็นจุดสิ้นสุดของยุคสมัย”ไม่นานหลังจากนั้น พระแม่มารีย์ทรงชี้แจงว่าแม้ว่าจะมีพระสันตปาปาเพียงสามพระองค์เท่านั้น แต่จะมีอีกพระองค์หนึ่ง แต่พระองค์จะ “ปกครองพระศาสนจักรเป็นเวลาสั้นมาก” และนั่นคือเหตุผลที่พระแม่มารีย์ไม่ได้รวมพระองค์ไว้ในรายชื่อ มีพยานบางคนยืนยันว่าพวกเขาได้ยินคอนชิตาพูดเรื่องนี้ในเดือนมิถุนายนปี 1963” เพื่อให้คุณมองเห็นได้ เราไม่สามารถยืนยันรายละเอียดเหล่านี้ได้ ]
สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวของผม - คำทำนายที่การาบังดัล อาจเปลี่ยนแปลงไปแล้วบางส่วน อย่างเช่น ที่กล่าวว่าจะมีพระสันตปาปาเพียง 4 พระองค์ต่อจากพระสันตปาปายอห์นที่ 23 อาจเป็นไปได้ว่าพระสันตปาปาจะมีมากกว่า 4 พระองค์ และส่วนที่บอกว่า จะมีไซนอตเกิดขึ้นในสมัยพระสันตะปาปาองค์หนึ่ง ส่วนนี้ได้เป็นจริงแล้วในสมัยพระสันตปาปาฟรังซิส แต่ที่กล่าวต่อไปว่า “พระสันตปาปาจะเสด็จไปพบกับผู้นำคริสตจักรออร์โธดอกซ์ในรัสเซีย และหลังจากพระองค์เสด็จกลับมาที่วาติกัน รัสเซียจะบุกยุโรป ทำให้พระสันตะปาปาต้องเสด็จหนี” ในส่วนนี้,เนื่องจากการสิ้นพระชนม์ของพระสันตปาปาฟรังซิส,ทำให้ผมคิดว่าคำทำนายได้เปลี่ยนไปแล้ว มันไม่ได้เกิดขึ้นหรืออาจเป็นอย่างอื่นแทน ยังมีคำทำนายบางส่วนที่บอกว่าวันที่จะเกิดอัศจรรย์จะตรงกับวันสำคัญของนักบุญเด็กที่เกี่ยวข้องกับศีลมหาสนิท เวลานี้เรากำลังมีนักบุญองค์ใหม่คือ Carlo Acustic ซึ่งเขาเป็นผู้ที่มีความศรัทธาต่อศีลมหาสนิทมากและได้เผยแพร่อัศจรรย์ของศีลมหาสนิทที่เกิดขึ้นในสถานที่ต่างๆในเว็ปไซต์ของเขา ดังนั้นเหตุการณ์อัศจรรย์ได้เกิดขึ้นแล้วหรือไม่? หรือไม่เกิดขึ้นหรือมีอย่างอื่นแทน? ซึ่งอาจเป็นการสิ้นพระชนม์ของพระสันตปาปาฟรังซิสก็เป็นไปได้ เพราะคำทำนายนั้นบอกว่าอัศจรรย์จะสามารถรับรู้ได้ทั่วโลก และการสิ้นพระชนม์ของพระสันตปาปาฟรังซิสก็เป็นดังนั้น ยังมี เหตุการณ์ต่อจากนี้อีก นั่นคือ การส่องสว่างในจิตใจของมนุษย์ทุกคน และความทุกข์เวทนาครั้งใหญ่ ซึ่งจะต้องรอดูกันต่อไป
อย่าลืมว่า คำทำนายเป็นการเตือนให้รู้ล่วงหน้าถึงการลงโทษจากสวรรค์เมื่อมนุษย์ทำบาปมากมาย ก็เพื่อทำให้มนุษย์กลับใจมาหาพระองค์ ถ้ามนุษย์กลับใจ,พระเจ้าก็อาจไม่ทรงลงโทษหรืออาจทำให้โทษนั้นเบาบางลงได้ ดังเช่นเรื่องของประกาศกโยนาห์ในพระคัมภีร์ เป็นต้น ชาวนีนาเวห์ได้กลับใจหลังจากโยนาห์ประกาศว่า พระเจ้าจะลงโทษพวกเขา ทำให้ชาวนีนาเวห์ทั้งหมดกลับใจใช้โทษบาป พระเจ้าจึงไม่ได้ทรงลงโทษตามที่ประกาศกโยนาห์ได้ทำนายไว้ ดังนั้น,คำทำนายก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับการกลับใจมาหาพระเจ้าของมนุษย์ พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระทัยเมตตาและทรงกระทำทุกสิ่งตามพระประสงค์ของพระองค์
************************

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น