เรื่องนี้เขียนอยู่ในบันทึกความทรงจำของ Don Lemoine เขาบันทึกคำพูดของคุณพ่อ Don Marchesco ซึ่งเป็นพระสงฆ์ผู้ช่วยเจ้าอาวาสของโบสถ์ในเมือง มอนเตแมกโน และได้เล่าให้เขาฟังโดยตรง
นี่เป็นเรื่องของความเชื่อที่ไม่หวั่นไหว และการตอบสนองจากสวรรค์ที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน
เราอยู่ในอิตาลี ในเขตเปียตมอนท์ที่เรียกว่า มอนเตแมกโน(Montemagno) วันนั้นเป็นปี 1864 มอนเตแมกโน เกิดความแห้งแล้งอย่างหนักและเป็นเวลานาน สามเดือนแล้วที่ฝนไม่ตกเลย ผู้คนต่างพากันสวดภาวนาทั้งส่วนตัวและสาธารณะ แต่ดูเหมือนจะไม่เกิดผลแต่อย่างใด เกษตรกรเริ่มรู้สึกหมดหวัง และละทิ้งการปลูกพืชผลทั้งหมด
คุณพ่อบอสโกได้รับเชิญจากเจ้าอาวาสของโบสถ์ที่มอนเตแมกโนให้ไปเทศน์แก่ชาวบ้าน คุณพ่อบอสโกยืนบนแท่นเทศน์และได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า - “ถ้าพวกคุณฟังการเทศน์สามวันนี้ด้วยความศรัทธาเป็นพิเศษ ถ้าพวกคุณกลับคืนดีกับพระเจ้าและสำนึกผิดสารภาพบาปด้วยความจริงใจ และในวันฉลองพระนางมารีย์ทรงได้รับเกียรติยกขึ้นสู่สวรรค์,ถ้าพวกคุณรับศีลมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์กันทุกคน พ่อขอสัญญากับพวกคุณในพระนามของพระนางมารีย์ว่า ฝนจะตกลงมาอย่างอุดมบริบูรณ์ให้แก่ทุ่งนาของพวกคุณ” - คำพูดของคุณพ่อบอสโกสัมผัสจิตใจของผู้คนทั้งหมด ทำให้พวกเขาตอบสนองต่อคำแนะนำของคุณพ่อบอสโก แต่มีบางอย่างที่แปลกเกิดขึ้น คุณพ่อบอสโกไม่รู้ตัวว่าได้ให้คำมั่นสัญญาที่กล้าหาญนั้นออกไป ดูเหมือนว่าท่านถูกพลังบางอย่างที่ทำให้ท่านพูดเช่นนั้น
ที่ห้องซาคริสตี คุณพ่อเจ้าอาวาสของโบสถ์ Don Cleavio ได้เข้าไปหาคุณพ่อบอสโกด้วยความรู้สึกประหลาดใจและไม่เชื่อในสิ่งที่ท่านได้ยิน ท่านพูดกับคุณพ่อบอสโกว่า “คุณพ่อช่างกล้าหาญจริงๆ คุณพ่อสัญญาเกี่ยวกับฝนต่อหน้าทุกคน” คุณพ่อบอสโกประหลาดใจและพูดว่า “ผมได้พูดเช่นนั้นหรือ?” คุณพ่อเจ้าอาวาสตอบยืนยัน “แน่นอน”,”ทุกคนได้ยินเหมือนกันหมดที่คุณพ่อพูดว่า ในพระนามของพระนางมารีย์ พ่อขอสัญญากับพวกคุณว่า ถ้าพวกคุณสารภาพบาปอย่างดี ฝนจะตกลงมา” คุณพ่อบอสโกไม่เชื่อกล่าวว่า “ไม่ใช่แน่, คุณพ่อต้องเข้าใจผิดแน่ ผมจำไม่ได้ว่าได้พูดอย่างนั้น ผมขอปฏิเสธ” คุณพ่อเจ้าอาวาสบอกคุณพ่อบอสโกให้ไปถามชาวบ้านดูเอง และต่อมาคุณพ่อบอสโกจึงตระหนักว่าท่านได้ให้คำสัญญาต่อหน้าทุกคนในโบสถ์จริงๆเกี่ยวกับฝนที่จะตก
ชาวบ้านใน มอนเตแมกโน รู้สึกประทับใจในคำพูดของคุณพ่อบอสโกมาก พวกเขาต้องพึ่งพาพืชผลจากแผ่นดินของเขาเป็นอย่างมาก และความแห้งแล้งเป็นสิ่งที่เลวร้ายสำหรับพวกเขา มันส่งผลกระทบกับทุกครอบครัว คำสัญญาของคุณพ่อบอสโกก่อให้เกิดความหวังและช่วยฟื้นฟูความเชื่อของพวกเขาทุกคน พวกเขาทุกคนจึงพร้อมใจกันทำตามคำแนะนำของคุณพ่อบอสโก พวกเขาตรวจสอบมโนธรรมและพากันไปที่โบสถ์เป็นจำนวนมากจนพระสงฆ์ที่ฟังสารภาพบาปแทบไม่เพียงพอ
เราคงจะพอจินตนาการได้ว่า ข่าวนี้ได้แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ชาว มอนเตแมกโนเตรียมจิตใจด้วยการสารภาพบาปและสวดภาวนา แต่เมืองที่อยู่ข้างเคียง,ผู้คนเยาะเย้ยคำทำนายของคุณพ่อบอสโก ในเมืองกรานา (Grana),เมืองเล็กๆที่อยู่ใกล้มอนเตแมกโน,ผู้คนที่นั่นถึงกับจัดงานเต้นรำเพื่อฉลองความล้มเหลว เพราะพวกเขาคิดว่าคำทำนายเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
วันเวลาผ่านไปและฝนก็ยังไม่ตก ความร้อนกลับยิ่งทวีมากขึ้นอีก ผู้คนพากันไปหาคุณพ่อบอสโกและถามท่านเกี่ยวกับฝนที่จะตก คุณพ่อบอสโกย้ำเตือนพวกเขาว่า “จงกำจัดบาปแล้วฝนจะตกลงมา”
แล้ววันฉลองพระนางมารีย์ได้รับเกียรติยกขึ้นสู่สวรรค์ก็มาถึง แต่ท้องฟ้าก็ยังกระจ่างแจ้ง ไม่มีวี่แววของเมฆฝนเลย ดูเหมือนว่าความร้อนที่มากขึ้นเป็นการเยาะเย้ยคำสัญญาของคุณพ่อบอสโก สิ่งเหล่านี้ทำให้คุณพ่อบอสโกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ท่านรีบเข้าไปในห้องของท่านและสวดภาวนาด้วยความร้อนรน จากหน้าต่างในห้อง,ท่านได้ยินเสียงแตรทรัมเป็ตที่ดังมาจากงานฉลองที่เมืองกรานา และในเมืองนี้มีบางคนที่เตรียมจะทำบางอย่างเพื่อประท้วงต่อต้านคุณพ่อบอสโก คุณพ่อบอสโกคิดว่าท่านจะทำอย่างไรดีสำหรับคำสัญญาที่ล้มเหลว ท่านจะต้องพูดอย่างไรดีเพื่อทำให้ผู้คนมั่นใจ
เมื่อคุณพ่อบอสโกไปที่ถึงห้องซาคริสตี ท่านได้พบกับ Marquis-Fasati ที่กำลังรอท่านอยู่ เขาพูดกับคุณพ่อบอสโกว่า “คุณพ่อบอสโกครับ ครั้งนี้คุณพ่อพลาดแล้ว คุณพ่อสัญญาว่าจะมีฝน แต่ไม่มี” เขาพูดอย่างสงบ คุณพ่อบอสโกรู้สึกวิตกกังวลมากเกี่ยวกับคำสัญญาที่ท่านพูดไป และในไม่ช้าท่านจะต้องอธิบายให้ผู้คนเกี่ยวกับการที่ไม่มีฝนตก ท่านตัดสินใจไปพบเด็กที่เป็นผู้ดูแลห้องซาคริสตีและขอให้เขาวิ่งไปที่ปราสาทของบารอน กาโรฟิลลิส(Baron Garofilis)ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการสังเกตท้องฟ้าและดูว่ามีวี่แววของฝนหรือไม่? เด็กคนนั้นรีบวิ่งไปที่ปราสาท แต่กลับมาด้วยคำพูดที่ให้ความหวังเพียงเล็กน้อยว่า “ท้องฟ้ากระจ่างแจ้งครับ มีแต่เพียงเมฆก้อนเล็กๆอยู่ไกลสุดขอบฟ้าเท่านั้น มีรูปร่างเหมือนรองเท้า” คุณพ่อบอสโกสวมชุดสำหรับพิธีการฉลอง มีบางคนเข้ามาหาท่านถามท่านว่า ท่านจะทำอย่างไรถ้าฝนไม่ตก คุณพ่อบอสโกตอบว่า อาจมีเครื่องหมายบางอย่างที่บอกว่าพวกคุณไม่เหมาะสมกับมัน
คุณพ่อบอสโกขึ้นไปยังแท่นเทศน์ ท่านวิตกกังวลมาก จิตใจของท่านหันไปหาพระนางมารีย์และสวดภาวนาว่า “ข้าแต่พระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ นี่ไม่ใช่ธุระของลูก แต่เป็นของพระแม่ ผู้คนจะพูดเยาะเย้ยถ้าความหวังของพวกเขาหมดสิ้นไป ทั้งๆที่พวกเขาทำดีอย่างที่สุดแล้ว” จากแท่นเทศน์,คุณพ่อบอสโกมองลงไปที่ผู้คน บรรยากาศไม่เหมือนกับที่เคยเป็นมาก่อน ผู้คนจ้องมองมาที่คุณพ่อบอสโก คุณพ่อเริ่มต้นสวดบทวันทามารีย์ และเมื่อสวดไปได้ไม่กี่คำ แสงจากดวงอาทิตย์ก็สลัวลง ไม่นาน ท่านก็ได้ยินเสียงดังคล้ายกับฟ้าร้อง เสียงพึมพำของผู้คนแพร่กระจายไปทั่วทั้งโบสถ์ เสียงฟ้าร้องครั้งต่อมาละลายความไม่เชื่อของผู้คนให้สลายไป และฟ้าก็ร้องอีกหลายครั้ง ทันใดนั้น,ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก กระทบกับหน้าต่างโบสถ์และถนน ผู้คนร้องไห้ออกมาด้วยความยินดี คุณพ่อบอสโกรู้สึกสะเทือนใจมาก ท่านขอบคุณพระมารดาสำหรับพระหรรษทานที่ได้รับและทำให้ประชาชนตื้นตันใจ
แต่ยังมีบางอย่างที่พิเศษเกิดขึ้นอีกซึ่งเป็นสิ่งที่คนที่ไม่มีความเชื่อไม่อาจปฏิเสธได้ ฝนตกแค่ที่เมืองมอนเตแมกโน เท่านั้น ส่วนเมืองและหมู่บ้านที่อยู่รอบๆยังคงแห้งแล้ง และที่เมืองกรานา ที่ผู้คนจะจัดเตรียมการฉลองเพื่อเยาะเย้ยคำทำนายของคุณพ่อบอสโก เกิดพายุร้ายแรงพัดถล่มทำลายพืชผลทุ่งนา คนที่พูดเยาะเย้ยถึงกับพูดไม่ออก
เรื่องนี้เกิดขึ้นในวันฉลองแม่พระได้รับเกียรติยกขึ้นสู่สวรรค์ ในปี 1864 และสอนเราว่าความเชื่อด้วยความจริงใจและไม่หวั่นไหวจะเปลี่ยนชีวิตของเรา พระเจ้าไม่ทรงทอดทิ้งผู้ที่เชื่อและวางใจในพระองค์ด้วยความถ่อมตน
************************

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น