กาลครั้งหนึ่ง
มีการประชุมของเหล่าเทวดาบนสวรรค์ – แต่ไม่ใช่เทวดาทั่วไป
นี่เป็นการประชุมประจำตามปกติของเทวดาที่เป็นกรรมการเลือกสรรในการให้พระพรพิเศษเพื่อเป็นรางวัลเกียรติยศ เป็นหน้าที่ของเทวดาเหล่านี้ที่จะประชุมกันทุกวันพุธเวลาบ่าย
3 ถึง 5 โมง เพื่อพิจารณาว่ามนุษย์คนใดบนโลกมีความเหมาะสมกับรางวัลพิเศษของพระเป็นเจ้า นอกเหนือไปจากพระพรทั่วไปที่พระองค์ทรงประทานให้ทุกวัน
แต่ละสัปดาห์คณะกรรมการนี้จะต้องนำเสนอชื่อของมนุษย์ให้พระองค์พิจารณารับรองอนุมัติเป็นครั้งสุดท้าย ในการประชุมของวันพุธครั้งนี้ หลังจากทำการพิจารณากันมากแล้ว คณะกรรมการก็เสนอชื่อของสตรีผู้หนึ่งถวายต่อเบื้องบน หลังจากนั้นพวกเขาได้รับข้อความตอบกลับจากพระเป็นเจ้าว่า
“อนุมัติ แต่ให้ถามเธอก่อน”
เทวดาที่เป็นคณะกรรมการได้ส่งสมาชิกกลุ่มหนึ่งลงไปยังโลก และประจักษ์แก่สตรีที่ได้รับเลือกนี้ เทวดาทั้งหมดพูดกับเธอเป็นเสียงเดียวกันว่า “เราพบว่าเธอเหมาะสมที่จะได้รับพระพรพิเศษจากพระเป็นเจ้า
– คือพระพรแห่งการเยียวยารักษา
ใครก็ตามที่เธอสัมผัสด้วยมือของเธอจะหายจากความเจ็บป่วยและโรคภัยทุกชนิด” แต่เทวดาต้องประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง สตรีผู้นั้นตอบว่า “ขอขอบคุณในความกรุณาของท่านเป็นอย่างยิ่ง ดิฉันทราบว่านี่เป็นพระพรที่โลกต้องการมาก แต่ดิฉันต้องขอปฏิเสธที่จะรับไว้ อาจมีคนอื่นที่ต้องการพระพรนี้ก็ได้” เทวดาที่เป็นคณะกรรมการกลุ่มเล็กๆนี้จึงหันหน้าประชุมกันและตัดสินใจจะมอบข้อเสนอใหม่ “เธอเป็นผู้ที่เหมาะสมที่จะได้รับพระพรพิเศษนี้จากพระเป็นเจ้า”
เทวดาพูดเป็นเสียงเดียวกัน “คือพระพรแห่งการกลับใจ ใครก็ตามที่เธอพูดกับเขา
จะได้รับการดลใจให้เปลี่ยนแปลงชีวิตของตนให้ดีขึ้น” สตรีตอบเทวดาว่า “ดิฉันรู้สึกขอบคุณในความกรุณานี้เป็นอย่างยิ่ง ดิฉันทราบว่าพระพรนี้มีคุณค่ามาก แต่ดิฉันต้องขอปฏิเสธที่จะรับไว้ คงมีคนอื่นที่ต้องการพระพรนี้” เทวดารู้สึกประหลาดใจมากและอึดอัดใจเล็กน้อย
พวกท่านจึงหันหน้าประชุมกันอีกครั้งและตัดสินใจจะให้ข้อเสนอใหม่ เทวดาหันมาหาสตรีและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เธอเป็นผู้ที่เหมาะสม และเราจะมอบพระพรใหม่ให้ คือพระพรแห่งคุณธรรมความดี
ใครก็ตามที่ได้เห็นกิจการดีและแบบอย่างที่ดีของเธอ เขาจะได้รับแรงบันดาลใจให้ดำเนินชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์” แต่สตรีผู้นี้ก็ปฏิเสธพระพรนี้อีกคราวนี้ เทวดาต่างบ่นพึมพำกับตนเอง แต่พวกท่านก็ระลึกถึงคำสั่งของพระเป็นเจ้าว่า “ให้ถามเธอก่อน” ดังนั้นพวกท่านจึงพูดกับสตรีนั้นว่า “ถ้าเธอไม่ต้องการพระพรการสัมผัสรักษาโรค หรือพระพรการกลับใจ หรือพระพรคุณธรรมความดี แล้วพระพรอะไรล่ะที่เธอต้องการ?” สตรีนั้นครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน และทันทีก็ตอบว่า”ดิฉันขอพระพรให้ทำความดีโดยไม่รู้ตัวว่าได้ทำความดีค่ะ” เทวดาหันหน้าประชุมกันอีกครั้ง และรู้สึกดีใจมาก เพราะความต้องการที่ท่านไม่คาดคิดนี้เป็นความท้าทายสำหรับพวกท่าน และเทวดาก็ชอบความท้าทายเสมอ ในที่สุดเทวดาก็ค้นพบวิธี เทวดาจะทำให้เงาของสตรีผู้นี้ทำให้เกิดอัศจรรย์ เทวดาอธิบายว่า เมื่อเงาของเธอไปโดนใครก็ตาม เขาจะได้รับพระหรรษทานอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยที่เธอจะไม่รู้ตัวเพราะเธอจะหันหลังให้กับเขา สตรีนั้นยอมรับและเป็นสุขใจ และเหตุการณ์ก็เป็นเช่นนั้น เมื่อเงาของสตรีผู้นี้ผ่านเด็กคนหนึ่งที่กำลังโมโหเพื่อนของเขา จิตใจของเด็กก็หายโมโหกลายเป็นความสุขแทน เมื่อเงาของเธอถูกผู้หญิงที่กำลังมีความทุกข์ ผู้หญิงคนนั้นก็ได้รับความสุขที่อธิบายไม่ได้ เมื่อเงาของเธอไปถูกชายคนหนึ่งที่กำลังสิ้นหวัง เขาก็ได้ค้นพบเป้าหมายในชีวิตทันที สตรีนั้นได้กระจายพระหรรษทานและสันติสุขไปทั่วโลก เธอได้ทำความดีมากมายโดยที่เธอไม่รู้ตัว และทุกคนรู้จักเธอในฐานะเงาที่ศักดิ์สิทธิ์ (จาก Bausch, 60 More Seasonal Homilies, p. 85).เราทุกคนก็ถูกเรียกให้ทำเช่นนี้ด้วย คือการเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นด้วยการปรากฏของเรา แต่เงาต้องการแสงสว่าง และพระเยซูเจ้าทรงเป็นแสงสว่างให้แก่เราเพื่อที่เราจะได้แบ่งปันแสงสว่างนี้ให้แก่ผู้อื่น |
วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
ทำความดีโดยไม่รู้ตัว
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น