เวลานี้ฉันจะพูดถึงเงินตาแลนท์ที่พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้ฉันเห็นต่อไป
คุณต้องรู้ว่าฉันไม่เคยดูข่าวจากทีวี เพราะฉันรู้สึกไม่ดีเมื่อเห็นคนมากมายเสียชีวิต
มันเป็นสิ่งที่ฉันไม่ชอบ...ฉันสนใจแต่เรื่องของ การควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก โหราศาสตร์
อำนาจทางจิต พลังงาน
หรือข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้...เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่ปีศาจใช้ในการหันเหความสนใจของเรา ทำให้เราสับสน..เวลานี้พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้ฉันเห็นในหนังสือแห่งชีวิต วันหนึ่ง
พระองค์ทรงทำให้รายการข่าวในทีวีมาช้าลง
และฉันบังเอิญเปิดดูข่าวเรื่องนี้ซึ่งยังไม่ทันจบ ฉันเห็นหญิงชาวนาผู้ยากจนคนหนึ่ง
เธอกำลังร้องไห้อยู่บนร่างของสามีที่เสียชีวิตแล้ว
ฉันขอบอกพวกคุณว่า
ปีศาจมันทำให้เรารู้สึกชินชากับความโศกเศร้าของคนอื่น
โดยคิดว่ามันเป็นเรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับเรา คนที่เป็นทุกข์อยู่ต้องดูแลตัวเอง มันไม่ใช่ปัญหาของฉัน พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้ฉันเห็นว่า
สิ่งนี้ทำให้พระองค์เจ็บปวดอย่างไรเมื่อนักข่าวเสนอข่าวเพียงเพื่อให้เกิดความสนใจ เพียงเพื่อขายข่าว โดยไม่เดือดเนื้อร้อนใจไปด้วย ในกรณีของผู้หญิงในข่าวนั้น เมื่อฉันเปิดทีวีเห็นเธอกำลังร้องไห้ ฉันเห็นความเศร้ายิ่งนักในความทุกข์ของเธอ ฉันรู้สึกเศร้าตามเธอไปด้วย พระเยซูเจ้าทรงทำให้ฉันเป็นเช่นนั้น ฉันเกิดความสนใจในเหตุการณ์นี้
และยังรู้ด้วยว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ Venadillo, Tulima บ้านเกิดของฉันเอง....แต่หลังจากนั้น
รายการก็เปลี่ยนไปทันทีกลายเป็นเรื่องการลดน้ำหนัก และฉันก็ลืมเรื่องของผู้หญิงคนนั้นไปสิ้น
เพราะไปสนใจในเรื่องการลดน้ำหนักแทน...และไม่คิดถึงมันอีกเลย
แต่ผู้ที่ไม่ลืมผู้หญิงชาวนาคนนั้น
คือ พระเยซูเจ้าของเรา
พระองค์ทำให้ฉันรู้สึกถึงความเจ็บปวดและความทุกข์ของเธอ เพื่อที่ฉันจะได้ไปช่วยเหลือเธอบ้าง เพราะพระองค์ประสงค์เช่น นั้น นั่นเป็นเวลาที่ฉันจะได้ใช้เงินตาแลนท์ของฉันซึ่งพระองค์ประทานให้ พระองค์ตรัสว่า “ความเจ็บปวดที่เจ้ารู้สึกนั้น เป็นเราเองที่ส่งเสียงขอให้เจ้าไปช่วยสตรีผู้นั้น เป็นเราเองที่ทำให้ข่าวมาช้าลง เพื่อที่เจ้าจะได้เห็น
แต่เจ้าไม่แม้แต่จะย่อเข่าลงเพื่อสวดภาวนาให้เธอสักหนึ่งนาที เจ้ามัวใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องลดน้ำหนัก และไม่เคยคิดถึงเธออีกเลย”
พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เห็นเหตุการณ์ของผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นชาวนาที่ยากจน และได้ขอให้สามีของเธอละทิ้งบ้านที่อาศัยอยู่ แต่เขาปฏิเสธ
แล้วก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์มาขับไล่พวกเขา
ชายชาวนาเห็นผู้ชายที่มีอาวุธจะเข้ามาฆ่าเขา ฉันเห็นชีวิตของชายชาวนาทั้งหมด
เห็นและรู้สึกถึงความกลัวและความโกรธของเขา เขาวิ่งหนีและหาที่หลบซ่อนให้แก่ลูกน้อยและภรรยาของเขาภายใต้กองสิ่งของบางอย่าง แล้วเขาก็วิ่งหนีไปทางอื่น แต่กลุ่มชายฉกรรจ์ติดตามเขา คุณรู้ไหมเขาสวดภาวนาครั้งสุดท้ายว่าอย่างไร? “พระเจ้าข้า
โปรดดูแลภรรยาและลูกน้อยของข้าพระองค์ด้วย
ข้าพระองค์ฝากพวกเขาไว้กับพระองค์”
และชายฉกรรจ์เหล่านั้นได้ฆ่าเขา
เขาล้มลงกับพื้นดินเมื่อถูกยิง
พระเยซูเจ้าทรงทำให้ฉันรู้สึกถึงความเจ็บปวดของผู้หญิงและลูกเล็กๆนั้นซึ่งไม่สามารถส่งเสียงร่ำไห้ได้
(..กลอเรียร้องไห้..)
ด้วยวิธีนี้พระเยซูเจ้าทรงทำให้เรารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่พระองค์ทรงรู้สึก และรู้สึกถึงความทุกข์ของผู้อื่น แต่บ่อยครั้ง
เราสนใจแต่ตัวเองและไม่รู้สึกกังวลใจในความต้องการของเพื่อนมนุษย์ของเราแม้แต่น้อย พระเยซูเจ้าทรงประสงค์สิ่งใดหรือ?
พระองค์ประสงค์ให้ฉันคุกเข่าลงและวอนขอต่อพระองค์เพื่อครอบครัวนั้น เพื่อมารดาและลูกของเธอ พระเป็นเจ้าทรงดลใจฉันให้รู้ว่าจะช่วยเธอได้อย่างไร
นั่นก็คือเพียงแต่เดินไปหาพระสงฆ์ซึ่งอยู่ไม่ห่างไกลจากบ้านของฉันมากนัก และบอกท่านว่าฉันเห็นอะไรในทีวี
พระสงฆ์ผู้นี้เป็นเพื่อนกับคุณพ่ออธิการของโบสถ์ในหมู่บ้านนั้น (Venadillo, Tulima), และท่านมีบ้านพักอยู่ที่ โบโกตา ท่านจะได้ช่วยผู้หญิงคนนั้น
สิ่งแรกที่เราต้องยอมรับและรับผิดชอบต่อพระเป็นเจ้านั้น หาใช่แต่เพียงบาปเท่านั้น แต่เป็นการละเลยด้วย มันเป็นเรื่องน่าเศร้ามากซึ่งคุณอาจนึกไม่ถึง แต่วันหนึ่งคุณจะได้เห็นด้วยตัว เองเหมือนที่ฉันเห็น
บาปเหล่านี้ทำให้พระเป็นเจ้าของเราต้องกรรแสง ถูกแล้ว
พระเป็นเจ้าทรงกรรแสง ที่เห็นลูกๆของพระองค์เป็นทุกข์เพราะการที่พวกเราขาดความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์ มีหลายคนที่มีความทุกข์และพวกเราไม่ได้ทำอะไรเพื่อพวกเขาเลย
พระเยซูเจ้าจะทรงแสดงเหตุการณ์นี้ให้แก่เรา ให้แก่ทุกๆคน
บาปที่เราทำในการละเลยไม่สนใจความทุกข์ร้อนของผู้อื่น
เป็นความเจ็บปวดในโลกที่เกิดจากความใจแข็งของเรา
ขอสรุปเล็กน้อย ผู้หญิงชาวนาที่ได้รับการเบียดเบียน (ความจริง
กลุ่มชายฉกรรจ์ตามหาเพื่อจะฆ่าเธอด้วย)
พาลูกหนีไปขอความช่วยเหลือจากพระสงฆ์ที่หมู่บ้านนั้น คุณพ่อกล่าวกับเธอว่า “ลูกเอ๋ย ลูกต้องหนีไป
เพราะถ้าพวกเขามาพบลูกที่นี่
พวกเขาจะฆ่าลูก”
คุณพ่อรีบกระทำในสิ่งที่ท่านคิดว่าดีที่สุดสำหรับเธอ ท่านรีบส่งเธอไปที่โบโกตา ให้เงินเล็กน้อยแก่เธอ และหนังสือจดหมายแนะนำตัว”
ผู้หญิงคนนั้นรีบหนีไปทันที นำจดหมายไปแสดงกับหลายแห่งตามที่คุณพ่อได้บอกไว้ แต่ไม่มีใครยอมให้เธอพักอาศัย เธอไปสิ้นสุดลงที่ไหนทราบไหม? ใครที่ช่วยเธอในตอนท้าย? คนพวกนั้นบังคับเธอให้ไปเป็นหญิงโสเภณี!!!
พระเยซูเจ้ายังคงให้โอกาสแก่ฉันอีกครั้งที่จะช่วยเหลือสตรีผู้นี้ ในปีต่อมาฉันได้พบเธออีก มันเป็นวันที่ฉันเข้าไปในกลางใจเมือง ฉันไม่อยากไปที่นั่น
เพราะมันเป็นที่ที่คุณจะเห็นแต่สิ่งน่าเศร้า และฉันไม่อยากเห็นความยากจนความขัดสน หรือสิ่งที่คล้ายแบบนั้น แต่วันหนึ่งฉันจำเป็นต้องไปที่นั่น ขณะที่ฉันผ่านไป ลูกชายได้ถามฉันว่า “โอ คุณแม่
ทำไมผู้หญิงคนนั้นจึงแต่งตัวแบบนั้น
ทำไมเธอสวมกระโปรงสั้นอย่างนั้น?"
ฉันตอบเขาว่า “อย่าไปดู ลูก นี่เป็นผู้หญิงขายบริการ ขายร่างกายเพื่อเงิน เขาเป็นโสเภณี
เป็นพวกสกปรก” ลองคิดดูเถอะ ฉันพูดออกไปอย่างนั้น มันเป็นยิ่งกว่ายาพิษสำหรับลูกชายของฉัน ฉันพูดดูถูกคน
พระเยซูเจ้าตรัสว่า “การดูถูกคนอื่นเป็นการลบหลู่เราด้วย และเราจะถ่มพวกเขาออกมา คนที่ดูถูกคนอื่นจะไม่ได้เข้าสวรรค์....คนที่ดูถูกคนอื่นคือคนที่ผ่านไปในโลกและไม่มีสิ่งใดสำคัญต่อเขานอกจากตัวของเขาเอง การตายฝ่ายจิตของเจ้าเริ่มต้น เมื่อเจ้าสนใจแต่ตัวเองแทนที่จะสนใจพี่น้องของเจ้า
เมื่อเจ้าคิดถึงแต่ตัวเองและความอยู่ดีกินดีของตัวเองเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น