วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

แม่พระแห่่งกัวดาลูเป (ตอนที่ 2)

 
พระนางนั้นคือใครหนอ เสด็จมาดุจรุ่งอรุณ  งามดั่งดวงจันทร์  รุ่งโรจน์ดั่งดวงอาทิตย์ 
สง่าน่าเกรงขามดุจกองทัพที่เรียงรายเป็นขบวนรบ
บรรยายโดย  Luis Fernando Castaneda monster ท่านเรียนทางด้านเทวศาสตร์เกี่ยวกับแม่พระ (Mariologist) และเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ศึกษาเกี่ยวกับแม่พระแห่งกัวดาลูเป ในกรุงเม็กซิโก ท่านได้อุทิศเวลานาน 16 ปีกว่าในการอาสาสมัครเป็นผู้แนะนำให้ความรู้แก่ผู้แสวงบุญในอาสนวิหารแม่พระแห่งกัวดาลูเป  ท่านจะได้อธิบายให้เรารู้เกี่ยวกับแม่พระและความหมายต่างๆของภาพปรากฏในผ้าทิลมา
          GUADALUPE  อ่านออกเสียงว่า  วา – ดา – ลู -  เป  เพราะ G แทบไม่ได้ออกเสียงเลย 
            ภาษาไทยเขียนตามตัวอักษรภาษาอังกฤษว่า  กัวดาลูเป
เมื่อ คอร์เตส ยึดอาณาจักรแอสเทคได้แล้ว  สิ่งแรกที่คอร์เตสทำก็คือทำลายวิหารและปิรามิดของชาวแอสเทคซึ่งบูชาเทพการ์รอค และ เทพฮัมมิ่งเบริด  ที่มีหน้าตาน่าเกลียด  พระสงฆ์ฟรังซิสกันที่มากับคอร์เตสเพื่อดูแลจิตใจของทหารและเผยแพร่ศาสนาได้ทำพิธีขับไล่ปีศาจ  เพื่อทำให้แผ่นดินกลับมาเป็นของพระเป็นเจ้า  พระสงฆ์ได้สอนตำสอนทำพิธีล้างบาปให้แก่ชาวพื้นเมืองบางคน  แต่ชาวพื้นเมืองส่วนใหญ่มีความเคียดแค้นชาวสเปนที่มารุกราน  พวกเขาเกลียดชังผู้ที่เปลี่ยนมาเป็นคริสตชนและพระสงฆ์ด้วย  จึงมีการโจมตีและล้างแค้นจากชาวพื้นเมืองเหล่านั้นในบางครั้ง

        พระสงฆ์ฟรังซิสกันได้สร้างโบสถ์แห่งแรกขึ้นใน Tlatelolco คือ โบสถ์เซนต์เจมส์ ตั้งอยู่บนปิรามิดที่ถูกทำลายไป  และได้สร้างโรงเรียน The school of holy church  ชาวสเปนได้เรียนรู้จากชนพื้นเมืองด้วยเช่นกัน  พระสังฆราชซูมาร์รากา ซึ่งเป็นฟรังซิสกันถูกส่งมาจากสเปนเพื่อดูแลและปกครองสังฆมณฑลที่โบสถ์แห่งนี้  (แม่พระทรงประจักษ์มาที่สังฆมณฑลนี้)   ท่านพระสังฆราชซูมาร์รากามาจากอารามฟรังซิสกันที่อยู่ในเมือง EXTREMADURA ของสเปน  ที่เมืองนี้มีพระรูปแม่พระฉวีดำอยู่รูปหนึ่งชื่อว่า แม่พระแห่งกัวดาลูเป  คำว่ากัวดาลูเป เป็นภาษาอาหรับ แปลว่า แม่น้ำแห่งแสงสว่างของความรัก  (ดังนั้นอย่าสับสนกับแม่พระแห่งกัวดาลูเปที่เม็กซิโก


              การที่ท่านสังฆราชอาสามาอยู่ที่เม็กซิโกนี้ ท่านทราบดีว่าไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยนักสำหรับท่าน  ท่านต้องเสี่ยงต่อการที่อาจถูกชนพื้นเมืองที่โกรธแค้นลอบทำร้าย  ท่านรู้ว่าไม่สามารถควบคุมสถานการณ์อะไรได้  เพราะท่านไม่มีกำลังทหารจากสเปนคอยช่วยเหลือ  ดังนั้นท่านจึงสวดภาวนาวอนขอความช่วยเหลือจากพระเป็นเจ้า
แม่พระประจักษ์

วันหนึ่งในกลางเดือนธันวาคม ค.ศ. 1531 ชายชาวพื้นเมืองของเม็กซิโกที่กลับใจเป็นคาทอลิกได้ไม่นานชื่อ ฮวน  ดิเอโก  กำลังเดินทางจากบ้านเพื่อไปร่วมมิสซาที่โบสถ์เซนต์เจมส์ ตามปกติที่เคยทำมาด้วยความศรัทธาอย่างซื่อๆของเขา
       จากแผนที่แสดงเส้นทางที่ ฮวน ดิเอโก ต้องเดินทางจากบ้านของเขาที่ Tlocopan  มายังโบสถ์เพื่อมาร่วมพิธีมิสซา ใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ฮวน ดิเอโก เป็นคริสตชนใหม่ที่มีความศรัทธาและปฏิบัติศาสนกิจอย่างดี  เมื่อเขามาถึงเนินเขา เทปายัค  เขาเห็นแสงสว่างเจิดจ้าส่องมาจากยอดเนินเขา  นกเริ่มส่งเสียงร้อง  ดอกไม้เบ่งบานมีชีวิตชีวา  ทุกอย่างเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี ทุกอย่างสวยงาม  เขาคิดว่าที่นี่คือสวรรค์บนโลก  เป็นสวรรค์ที่บรรพชนบอกไว้  ทันใดนั้นนกหยุดส่งสียง  เขาได้ยินเสียงเรียกชื่อของเขา  “ฮวน ดิเอโก  ฮวน ดิเอโก”
 เขาจึงขึ้นไปบนเนินเขา  และที่นั่นเขาเห็นสุภาพสตรีอายุราว 15-16 ปี  สตรีนั้นพูดกับเขาว่า “เราคือพระนางพรหมจารีย์มารีย์  มารดาของพระเป็นเจ้าเที่ยงแท้เพียงพระองค์เดียว พระเจ้าของมนุษย์ทั้งหลาย   เราต้องการให้สร้างโบสถ์บนสถานที่นี้  จากสถานที่แห่งนี้เราจะประทานความช่วยเหลือและมอบความรักความเมตตาของเราแก่บรรดาลูกๆของเราซึ่งจะมายังสถานที่แห่งนี้”  นี่เป็นคำพูดสั้นๆที่สวยงามเหลือเกิน  แม่พระตรัสต่อไปว่า “ลูกจงไปพบพระสังฆราช  และเล่าทุกสิ่งที่ลูกเห็นและได้ยินบนเนินเขานี้แก่พระสังฆราช”  ฮวน ดิเอโก พูดว่า “ผมจะทำตามที่ท่านสั่ง  ผมเป็นผู้รับใช้ของท่าน”  แล้วเขาก็เดินทางไปพบพระสังฆราช   เขาเข้าพบพระสังฆราชและเล่าให้ท่านฟังถึงสิ่งที่เขาเห็น  มีแสงสว่างที่สวยงามบนเนินเขาเทปายัค  นกร้องเพลง  มีสุภาพสตรีที่สวยงาม  ทุกอย่างสวยงามเหมือนสวรรค์บนแผ่นดิน  พระสังฆราชมองเขาด้วยความสงสัย พูดกับเขาว่า “เรื่องที่ลูกเล่านั้นสวยงามมาก  จงกลับไปที่นั้นและค่อยมาหาเราอีกทีเพื่อเล่าสิ่งสวยงามที่ลูกได้เห็นให้เราฟังใหม่ก็แล้วกันนะ”  พระสังฆราชไม่เชื่อคำพูดของเขาเลย  ฮวน ดิเอโก กลับไปหาแม่พระและรายงานให้แม่พระทราบว่าพระสังฆราชไม่เชื่อคำพูดของเขา   เขาขอร้องให้แม่พระส่งคนอื่นที่มีฐานะสูงส่งหรือมีเกียรติมากกว่าเขาไปทำงานแทนเขา  เพราะตัวเขาเป็นแต่เพียงคนยากจนที่ต่ำต้อยไม่มีเกียรติอะไรเลย  เขาเป็นคนที่อยู่ระดับต่ำที่สุด  แต่แม่พระตรัสว่า “ไม่ได้หรอก  ต้องเป็นลูกเท่านั้น  แม่ต้องการให้ลูกช่วย  ลูกเป็นเอกอัครราชทูตของแม่”  ด้วยคำว่าเอกอัครราชทูตนี้  เท่ากับเป็นการบอกว่า  พระเป็นเจ้าทรงประทานศักดิ์ศรีที่ถูกชาวสเปนแย่งชิงไปให้กลับคืนมาสู่ชนพื้นเมืองอีกครั้ง  พระองค์ทรงยกระดับธรรมชาติของชนพื้นเมืองเหล่านั้นให้อยู่ในระดับเดียวกับชาวสเปน  นั้นคือเป็นบุตรชายหญิงของพระเป็นเจ้า  การเป็นเอกอัครราชทูตนั้น  ผู้เป็นทูตไม่ได้พูดด้วยคำพูดของตนเอง  แต่พูดตามที่ได้รับมา  ดังนั้น ฮวน ดิเอโก  จึงพูดตามคำพูดของแม่พระ - คำพูดของพระเป็นเจ้า  ฮวน ดิเอโก  กลับบ้านและวันรุ่งขึ้นเขาไปพบพระสังฆราชและเล่าทุกสิ่งที่เขาเห็นและได้ยินให้ท่านฟังอีกครั้ง  ครั้งนี้พระสังฆราชเริ่มลังเล  เพราะสิ่งที่ฮวน ดิเอโกพูดนั้น มีเหตุมีผลตามหลักเทววิทยา  และฮวน ดิเอโก เพิ่งกลับใจและรับศีลล้างบาป  เขาแต่งงานกับหญิงที่เป็นแม่ม่าย  เขาเป็นคนดีที่ต้องดูแลลุงที่ชรา   
ในอดีตที่เนินเขาเทปายัคเคยมีปิรามิตที่สร้างให้แก่เทพเจ้าสตรีที่เป็นมารดาชื่อ TONANTZINT  พระสังฆราชจึงคิดว่า  ใช่แล้วอาจมีคนต้องการให้สร้างโบสถ์คริสต์ที่นั่นเพื่อบูชาเทพเจ้าองค์นี้ก็ได้  พระสังฆราชจึงบอก ฮวน ดิเอโก ว่า  “จงนำบางสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าคำพูดของลูกเป็นความจริงมาให้เรา  แล้วเราจะสร้างโบสถ์ที่นั่น”
พระสังฆราชต้องการทดสอบคำพูดของเขา  ฮวน ดิเอโกรับคำของพระสังฆราชแล้วเดินออกไป  พระสังฆราชสั่งยามสองคนของท่านให้ดิตตาม ฮวน ดิเอโก ไปห่างๆและสังเกตดู   ถ้าเขาหยุดและพูดกับใคร  ก็ให้นำพวกเขากลับมาที่นี่  ฮวน ดิเอโก  เดินไปโดยไม่หยุดพูดคุยกับใครเลย  และเมื่อมาใกล้เนินเขาเทปายัค  ที่สะพานข้ามลำธารแห่งหนึ่ง  ยามสองคนที่ติดตามไปก็พบว่า ฮวน ดิเอโก ได้หายตัวไปแล้ว  พวกเขาคิดว่า ฮวน ดิเอโก อาจไปหลบซ่อน จึงเที่ยวค้นหาจนทั่วแต่ก็ไม่พบ  สถานที่นั้นไม่มีถ้ำ ไม่มีที่ที่จะหลบซ่อนได้เลย  ยามทั้งสองจึงกลับไปรายงานพระสังฆราช และแนะนำพระสังฆราชว่าอย่าไปเชื่อ ฮวน ดิเอโก เพราะเขาต้องเป็นพ่อมดหมอผี  มีสิ่งแปลกๆเกิดกับเขา  เขาเป็นคนโกหก  ดังนั้นอย่าไปเชื่อคำพูดของเขา 
ในขณะเดียวกัน ฮวน ดิเอโก ไปพบกับแม่พระและแจ้งต่อพระนางว่าพระสังฆราขต้องการข้อพิสูจน์  แม่พระตรัสว่า “ดีแล้ว  ลูกจงกลับบ้านไปพักผ่อน แล้วพรุ่งนี้ให้กลับมาที่นี่เพื่อเอาสิ่งที่จะพิสูจน์ไห้แก่พระสังฆราช”  ฮวน ดิเอโก เดินทางไปยังบ้านของเขา และได้พบว่าลุงของเขาเจ็บหนักใกล้จะเสียชีวิตด้วยพิษไข้  เขาจึงไปหาหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อขอยาสมุนไพร  แต่ถึงแม้พยายามช่วยเต็มที่แล้วก็ไม่สามารถเยียวยาได้  ลุงของเขา (ชื่อว่า ฮวน เบอร์นาดิโน) พูดกับ ฮวน ดิเอโกว่า “ลุงไม่อยากตายแบบคนนอกศาสนา  ช่วยพาพระสงฆ์ที่อยู่ใกล้ที่สุดมาโปรดบาปให้ลุงด้วย”  ฮวน ดิเอโก จึงเดินทางไปตามพระสงฆ์ที่โบสถ์ทันที  เมื่อเขามาถึงเชิงเขาเทปายัคเป็นเวลาก่อนรุ่งสาง  เขาคิดถึงเรื่องเมื่อวานและคำสั่งของแม่พระ  แต่ลุงของเขาใกล้ตาย  เขาคิดว่าจำเป็นต้องไปตามพระสงฆ์ก่อนแล้วค่อยมาหาแม่พระทีหลัง  เขาตัดสินใจเดินอ้อมเนินเขาไปอีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นด้านทิศตะวันออกของเนินเขา  เพื่อเลี่ยงไม่ต้องพบกับแม่พระ  เมื่อมาถึงด้านหลังของเนินเขา ฮวน ดิเอโกมองขึ้นไปบนเนินเขา  และเขาก็เห็นแม่พระทรงเดินลงมาจากเนินเขาตรงมาที่เขา  พระนางทรงเรียกชื่อของเขา  ฮวน ดิเอโกพยายามวิ่งหนี  แต่พระนางทรงหยุดยืนอยู่ที่เชิงเขาเบื้องหน้าของฮฺวน ดิเอโก เขาคุกเข่าลงทันทีและอธิบายให้พระนางฟังเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของลุงของเขา  เขารู้ตัวว่าได้ทำสิ่งที่ผิดและรู้สึกกลัวมาก  แม่พระตรัสแก่ ฮวน ดิเอโก ว่า “แม่ไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกหรือ  แม่ไม่ได้เป็นแม่ของลูกหรอกหรือ  ลูกอยู่ภายใต้เสื้อคลุมของแม่ และภายใต้เงาแห่งการปกป้องของแม่” 
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง  แม่พระทรงประจักษ์แก่ลุงของ ฮวน ดิเอโก  ที่วานาเลโนและทรงรักษาเขาให้หาย  พระนางตรัสกับ ฮวน เบอร์นาดิโน ผู้เป็นลุงว่า “แม่คือแม่พระแห่งกัวดาลูเป  จงไปหาพระสังฆราชและเล่าให้ท่านฟังทุกสิ่งที่ลูกเห็นและได้ยิน” 
กลับมาที่ ฮวน ดิเอโก อีกครั้ง แม่พระตรัสกับเขาว่า “จงอย่ากลัวความเจ็บไข้  อย่ากลัวความตาย   จงอย่ากลัว  เวลานี้ลุงของลูกได้รับการรักษาแล้ว  เวลานี้ลูกจงไปที่ยอดเนินเขานี้และที่นั่นลูกจะเห็นดอกไม้  จงนำมาให้แม่ที่นี่” ฮวน ดิเอโกมีความเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมและไม่ลังเลใจอีกต่อไป  เขาขึ้นไปบนเนินเขา     ที่นั่นเขาเห็นดอกกุหลาบสวยงามบานอยู่มากมาย  ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อนในทวีปนี้ (..แต่เป็นดอกกุหลาบที่มีอยู่ทางตอนใต้ของสเปนชื่อ    Castilian Rose   และพระสังฆราชก็มาจากทางตอนใต้ของสเปน..  )         ฮวน ดิเอโก  รวบรวมดอกกุหลาบไว้ในเสื้อคลุมของเขาและนำมาให้แม่พระ  แม่พระทรงจัดเรียงดอกกุหลาบและตรัสกับ ฮวน ดิเอโก ว่า “จงมอบดอกไม้นี้ให้พระสังฆราช  พระสังฆราชคนเดียวเท่านั้น” 
เมื่อ ฮวน ดิเอโก มาถึงบ้านของพระสังฆราช       ยามสองคนได้หยุดเขาไว้ถามเขาว่าต้องการอะไร  ฮวน ดิเอโก บอกว่าต้องการพบพระสังฆราช  ยามจึงให้เขาไปนั่งรอที่เก้าอี้  ฮวน ดิเอโก นั่งรอเป็นเวลาถึง 4 ชั่วโมง โดยไม่ขยับเขยื้อนเลย     ยามมองดูเขาด้วยความรำคาญและถามว่าในเสื้อคลุมมีอะไร    ฮวน ดิเอโก ตอบว่า   “ไม่มีอะไร  ไม่มีอะไรสำหรับพวกคุณ”    ยามจึงพยายามค้นในผ้าทิลมาของ ฮวน  ดิเอโก  ถึงสามครั้ง      แต่ก็ไม่สามารถแตะต้องเสื้อคลุมหรือดอกกุหลาบได้เลย  (..เหมือนกับเราแตะต้องภาพสามมิติที่เป็นภาพโฮโลแกรม)

ยามแน่ใจว่า ฮวน ดิเอโก เป็นพ่อมดหมอผีแน่นอน พวกเขาเกิดความกลัวและร้องออกมาด้วยความกลัว  พลางวิ่งไปที่ห้องของพระสังฆราช  พระสังฆราชได้ยินเสียงร้องของยามจึงเปิดประตูออกมาดู  ยามพูดกับพระสังฆราชว่า “เขากลับมาแล้ว  ท่านไปหาเขาเถิด มีบางสิ่งประหลาดเกิดขึ้น  ไปหาเขาเดี๋ยวนี้เถิด”  ในตอนนั้นเอง  ฮวน ดิเอโก ได้เดินเข้ามาในห้องของพระสังฆราช  และบอกท่านว่าเขาได้นำสิ่งที่เป็นข้อพิสูจน์ที่ท่านต้องการจากสุภาพสตรีมาให้ท่านแล้ว  พระสังฆราชตอบว่า “ดีแล้ว จงแสดงมาให้ดูเถอะ”
               
ฮวน ดิเอโก เปิดเสื้อคลุมของเขาออก     ทันใดนั้นดอกกุหลาบก็ร่วงหล่นกระจายลงที่พื้นห้อง  รูปภาพของแม่พระบนผ้าคลุมของ ฮวน ดิเอโก ก็ปรากฏออกมาให้เห็นต่อหน้าต่อตาผู้คนที่อยู่ที่นั้นประมาณ 20 คน    ทุกคนได้เห็นและต่างประหลาดใจอย่างที่สุด        บัดนี้พระสังฆราชปราศจากข้อสงสัยอย่างสิ้นเชิง  ท่านถึงกับคุกเข่าลง     เบื้องหน้าพระรูปที่ปรากฏบนเสื้อคลุมของ ฮวน  ดิเอโก      ด้วยความตื้นตันใจจนสุดบรรยาย  ฮวน ดิเอโก ก็ประหลาดใจด้วยเช่นกันที่เห็นพระสังฆราชคุกเข่าลงเบื้องหน้าเขา  อัศจรรย์นี้เป็นข้อพิสูจน์ที่แน่นอนให้แก่พระศาสนจักร 
ฮวน ดิเอโก ได้ใช้ชีวิต 17 ปีต่อมาในการเล่าประสบการณ์ของเขาแก่ทุกคนที่มาหาเขา  มีการเริ่มต้นสร้างโบสถ์ขึ้นที่เนินเขาเทปายัค      เป็นโบสถ์ที่จุคนได้ราวหนึ่งพันคน  ฮวน ดิเอโก ขอร้องพระสังฆราชให้เขาเป็นผู้ปัดกวาดทำความสะอาดโบสถ์       แสดงให้เห็นว่าฮวน ดิเอโก มีความถ่อมตนเป็นอย่างมาก      เขาเสียชีวิตในปี 1548 และประชาชนต่างถือว่าเขาเป็นนักบุญ 


อาสนวิหารแม่พระแห่งกัวดาลูเป หลังแรกที่สร้างขึ้น

อาสนวิหารแม่พระแห่งกัวดาลูเป หลังปัจจุบัน
 
วันฉลองอาสนวิหารแม่พระแห่งกัวดาลูเป ผู้คนมากมาย



-------------------------------------------------------------------------------------------------
จบตอนที่ 2


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น