การประจักษ์ของอัครเทวดาสามองค์ - 21 ม.ค. 1610
วันที่ 21 ม.ค.
1610 เวลา 1.00 น. ตอนเช้า ในการประจักษ์ของแม่พระแห่งผลสำเร็จที่ดีต่อคุณแม่มาเรียนา จะเริ่มต้นด้วยการมาของเหล่าทูตสวรรค์ที่ร้องบรรเลงเพลงแห่งสวรรค์และหมู่นิกรเทวดามากมายที่สวยงาม และในท่ามกลางนิกรเทวดามากมายนี้ คุณแม่มาเรียนาได้เห็น อัครเทวดาสามองค์ คือ น.อัครเทวดามีคาแอล น.อัครเทวดากาเบรียล และน. อัครเทวดาราฟาแอล พร้อมด้วยเทวดานับไม่ถ้วนอยู่เบื้องหลังของท่าน
ทูตสวรรค์ของพระวจนาตถ์
น.อัครเทวดากาเบียล ได้มาใกล้คุณแม่มาเรียนาและพูดกับท่านว่า
“เจ้าสาวแห่งองค์พระวจนาตถ์ผู้ได้รับสิทธิพิเศษ ลูกสาวผู้ถูกเลือกจากดวงพระทับอันอ่อนโยนของพระนางมารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ราชินีของข้าพเจ้าทั้งหลาย และเธอผู้เป็นซิสเตอร์สุดที่รักของพวกเรา เรามาเพื่อมอบสาส์นแห่งสวรรค์ เพื่อบอกกับเธอว่า ในไม่ช้า
เธอจะได้สนทนากับพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเธอ องค์ราชินีสูงสุดของเรา เรามาเพื่อเตรียมเธอให้พร้อมสำหรับการนี้
เรามาส่องสว่างสติปัญญาของเธอเพื่อที่เธอจะรู้ความจริงของเหตุการณ์นี้และการประจักษ์ในครั้งต่อๆไป จงอย่าสงสัยเลย เพราะจะเกิดการอกตัญญูครั้งยิ่งใหญ่ต่อพระเป็นเจ้า”
ทันใดนั้น
ใจของคุณแม่มาเรียนาก็สั่นระรัวด้วยความยินดี
ท่านรุกร้อนด้วยไฟแห่งความรักและความปรารถนาในสวรรค์และต้องการรับความทุกข์มากกว่าที่เป็นอยู่แล้วเพื่อเลียนแบบพระเยซูเจ้า พระเป็นเจ้าของท่าน
อัครเทวดาได้กระจายรังสีความสว่างแทรกเข้าไปในจิตใจของท่านซึ่งสลายความกลัวและความสงสัย เหมือนแสงจากดวงอาทิตย์ที่สลายความมืดออกไป
แล้ว น.อัครเทวดามีคาแอลพูดว่า
“สิ่งสร้างที่ได้รับโชคสูงสุดและสุดที่รักของพระตรีเอกภาพศักดิ์สิทธิ์สูงสุด องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราและของท่าน”
“เราถูกส่งมาจากสวรรค์เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งแก่หัวใจอ่อนแอของเธอ
ในเวลาเดียวกันก็เพิ่มพูนกำลังเพื่อที่จะสามารถรับพระหรรษทานที่จะประทานให้แก่เธอเมื่อเธอสนทนากับพระมารดาและองค์ราชินีของเรา ความถ่อมตนของเธอจะทำให้จิตสกปรกที่เย่อหยิ่งทะนงสับสน มันไม่เชื่อฟังและล่วงหล่นจากสวรรค์ลงสู่ขุมนรกที่ลึก มันจะไม่สามารถทำอันตรายใดๆแก่เธอได้”
อัครเทวดามีคาแอล
สาดส่องรังสีเข้าสู่หัวใจของคุณแม่มาเรียนา ก่อให้เกิดไฟรุกร้อนเหนือธรรมชาติ ทำให้ท่านมีความรักอันยิ่งใหญ่ต่อพระเป็นเจ้าและพระมารดา
ขณะเดียวกันก็ตระหนักถึงความไร้ค่าของตนเอง และตระหนักถึงความรักของพระเป็นเจ้าที่มีต่อท่าน ที่ได้ทรงเลือกท่านและสนทนากับท่าน
สุดท้าย น. อัครเทวดาราฟาแอล พูดกับท่านว่า
“สิ่งสร้างที่โชคดี ผู้ที่พระเจ้าผู้ทรงพระกรุณาทรงพอพระทัยประทับอยู่เหมือนผู้ศักดิ์สิทธิ์ขณะที่ยังคงเป็นมนุษย์
องค์พระผู้ไถ่ทรงให้เธอเป็นเจ้าสาวสุดที่รักของพระองค์ ทรงประทานกางเขนและความทุกข์แก่เธอ เพื่อที่เธอจะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ จงเตรียมเธอให้พร้อมในวิถีทางนี้เพื่อจะได้สนทนาอย่างสนิทสนมกับพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ องค์ราชินีของเรา และพรหมจารีย์แห่งพรหมจารีย์ทั้งหลาย
ผู้ทรงปฏิสนธินิรมล”
“องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้มอบภารกิจให้เธอจัดทำพระรูปของพระมารดา
– ซึ่งจะได้รับการเคารพตลอดศตวรรษหน้าในอนาคต –
รูปแกะสลักซึ่งจะเป็นไปตามคำแนะนำของเธอ”
“เราถูกส่งมาเพื่อรักษาความตาบอดแห่งจิตใจของเธอ
เพื่อที่เธอจะเชื่อในความจริงของการประจักษ์เหล่านี้ ที่เธอกำลังสงสัยอยู่มาจนบัดนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอจะได้เห็นความจริงอย่างชัดแจ้ง เพราะความสงสัยเหล่านั้น ซึ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อพระเป็นเจ้าอย่างยิ่ง
จะสูญสลายไป”
อัครเทวดาได้ส่องรังสีมายังจิตใจและหัวใจของท่าน
ท่านเห็นชีวิตทั้งหมดของท่านอย่างชัดเจนและพระหรรษทานทุกประการที่พระเป็นเจ้าและพระมารดาทรงประทานให้แก่ท่าน
ท่านยังได้เห็นความจริงทุกประการของการประจักษ์
และวิญญาณของท่านจะต้องทนทุกข์อย่างไรจนกว่าชีวิตของท่านจะหาไม่
เพราะความทุกข์ทรมานเหล่านั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวิญญาณอื่นๆทุกดวงที่พระเยซูเจ้าทรงเรียกให้มาสู่วิถีทางอันพิเศษนี้
ด้วยความท่วมท้นกตัญญูต่อพระเป็นเจ้าและพระมารดา คุณแม่มาเรียนาตอบอัครเทวดาทั้งสามว่า
“เจ้าชายผู้ศักดิ์สิทธิ์และผู้แจ้งสาส์นที่ซื่อสัตย์แห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าสูงสุด
ดิฉันขอขอบคุณท่านสำหรับแสงสว่างที่ท่านส่องสว่างมายังความเข้าใจของดิฉันและนำความเข้มแข็งมาสู่หัวใจของดิฉัน
สลายความมืดบอดของผู้ต่ำต้อยที่สุดในบรรดาสิ่งสร้างทั้งหลายบนโลกนี้ ดิฉันขอสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับสิ่งมหัศจรรย์นี้ที่ทรงกระทำในตัวของดิฉัน ผู้ซึ่งไม่สมควรได้รับสิ่งใดเลย”
“โปรดกลับไปสู่สวรรค์และแจ้งต่อองค์ราชินีผู้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยว่า
ทาสผู้น่าสงสารแห่งองค์พระมหากษัตริย์ผู้นี้ หมอบกราบบนพื้นดิน รอคอยพระองค์
ให้ทรงกระทำตามพอพระทัย
เพราะดวงใจและทุกสิ่งที่เป็นอยู่ของดิฉันเป็นของพระองค์ เหมือนดังหยดน้ำค้างเล็กๆ ดิฉันขอถวายตนเองแด่พระองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง”
ทูตสวรรค์ทั้งหมดได้จากไปปรากฏอยู่เบื้องเฉพาะพระพักตร์พระเป็นเจ้าผู้ทรงส่งพวกท่านมา ท่านมอบคำภาวนาด้วยความถ่อมตนของวิญญาณทุกดวงที่อยู่ในอารามนี้แด่พระเป็นเจ้า และมีความยินดีที่ได้รับภารกิจนี้
ส่วนคุณแม่มาเรียนายังคงหมอบกราบอยู่บนพื้น แขนของท่านกางออกในรูปไม้กางเขน
เพ่งพิจารณาถึงความยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้าและความจริงแห่งความรักของพระองค์ ท่านอยู่ในท่านี้จนถึงเวลา 2.00 น.
แล้วแม่พระก็ทรงประจักษ์มา
______________________________
______________________________
การบันทึกเรื่องราวของคุณแม่มาเรียนา
คุณแม่มาเรียนาได้เขียนบันทึกเรื่องทั้งหมดที่ท่านได้เห็นและได้ยินตามคำสั่งของผู้ใหญ่ บันทึกของท่านได้รับการรับรองจากพระสังฆราช Most Reverend Pedro de
Oviedo พระสังฆราชองค์ที่ 10 ของควิโต ซึ่งเป็นผู้ให้คำแนะนำแก่คุณแม่มาเรียนา ท่านเขียนบันทึกประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์จากความทรงจำ ไม่เฉพาะเรื่องราวของท่านเท่านั้น
แต่ยังรวมประวัติของเพื่อนผู้ร่วมงานของท่านอีก 8 คนด้วย
พระสงฆ์ฟรังซิสกันผู้เป็นวิญญาณารักษ์ของท่านเหล่านั้นได้เขียนประวัติของพวกเขาด้วย
ในปี 1650
สิบห้าปีหลังจากคุณแม่มาเรียนาเสียชีวิต
Diego Rodriguez Docampo ได้ตีพิมพ์เรื่องราวของคุณแม่มาเรียนา
ตามคำสั่งอย่างเป็นทางการของกษัตริย์แห่งสเปนและศาลสูงแห่งเมืองควิโต
ระหว่างปี
1760 – 1770 Fr. Bartholomew Ochoa de Alacano, O.F.M., พระสงฆ์ชาวสเปนที่อาศัยอยู่ในควิโต ได้สืบสาวเรื่องราวและพบความจริงใหม่และเอกสารอีกมากมาย
ท่านได้พิมพ์เรื่องราวของคุณแม่มาเรียนาออกมาเป็นชุดๆ จนได้เป็นหนังสือเล่มใหญ่ ผลงานชิ้นนี้ได้แพร่หลายไปตามอารามฟรังซิสกันในสเปนและโปรตุเกส ทำให้เกิดความสนใจกันมาก ในหนังสือได้เล่าเรื่องประวัติของคอนแวนต์และคำเทศน์ของพระสังฆราชในพิธีฝังศพของคุณแม่มาเรียนาไว้ด้วย
ในปี 1790 Fr. Manuel Souza Pereira, O.F.M.
ได้พิมพ์หนังสือประวัติอย่างเข้มข้นโดยอ้างอิงตามเอกสารเริ่มแรก Father Souza Pereira ชาวโปรตุเกส ในวัยหนุ่มได้เป็นทหาร และท่านได้อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับคุณแม่มาเรียนา
ทำให้ท่านแน่ใจว่าท่านได้รับกระแสเรียกให้เป็นพระสงฆ์ฟรังซิสกัน
ต่อมาท่านถูกส่งไปที่ควิโตและได้ทำงานกับพระสังฆราชแห่งควิโต ท่านศึกษาเรื่องราวของคุณแม่มาเรียนาและสาบานว่าจะไม่หยุดพักจนกว่าจะทำงานเขียนประวัติของคุณแม่มาเรียนาซึ่งมีชื่อว่า
“The Admirable Life of Mother Mariana of Jesus” จนสำเร็จสมบูรณ์
ท่านได้ทำหนังสือสำเร็จเป็นหนังสือเล่มใหญ่ทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น