วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

พระศาสนจักรโรมันคาทอลิก

             พระเยซูเจ้าทรงตั้งพระศาสนจักรของพระองค์ขึ้นบนโลก  พระศาสนจักรนั้นมีชื่อว่า “พระศาสนจักรโรมันคาทอลิก”  คำว่า “คาทอลิก” แปลว่า “สากล”  นั่นคือเป็นศาสนาของทุกคนบนโลก  แต่ทำไมจึงมีคำว่า “โรมัน” ด้วย  มีเหตุผลอะไรในเรื่องนี้หรือไม่?
คุณทราบหรือไม่ว่า “พระศาสนจักรโรมันคาทอลิก” ซึ่งเป็นพระศาสนจักรในพระธรรมใหม่นั้น  ได้ถูกทำนายไว้แล้วในพระคัมภีร์พระธรรมเก่าว่าจะเกิดขึ้น?  ถ้าเราเข้าใจในคำทำนายของชาวยิว  เราก็จะเข้าใจว่าเหตุใดพระศาสนจักรของพระเยซูเจ้าจึงมีคำว่า “โรมัน” กำกับอยู่ด้วย

           จากบทที่สองของพระคัมภีร์ดาเนียล  ได้เล่าถึงความฝันของกษัตริย์ เนบูคัดนัสเซอร์เกี่ยวกับ  รูปปั้นใหญ่มหึมาทำด้วยวัตถุที่แตกต่างกันสี่อย่างคือ   1.ศีรษะเป็นทองคำ    2.หน้าอกและแขนเป็นเงิน   3. ท้องและต้นขาเป็นบรอนซ์     4.ขาและเท้าเป็นเหล็กและดินผสมกัน  และในความฝัน  กษัตริย์เนบูคัดนัสเซอร์เห็นก้อนหินเล็กๆก้อนหนึ่งถูกตัดหลุดออกมาจากภูเขาโดยไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์  มันหล่นลงมาที่รูปปั้นนั้น ก้อนหินเล็กๆกลิ้งลงมากระแทกที่ขาของรูปปั้นทำให้รูปปั้นที่ทำด้วยเหล็กและดินล้มและพังทลายลงไป  แล้วก้อนหินก้อนนั้นก็โตขึ้นจนกลายเป็นภูเขาใหญ่ปกคลุมโลกทั้งโลก

 
ดาเนียลได้อธิบายความฝันให้กษัตริย์ฟังว่า  ศีรษะที่เป็นทองคำหมายถึงกษัตริย์เนบูคัดนัสเซอร์และอาณาจักรบาบิโลน  และจะมีอาณาจักรอื่นตามมาต่อจากบาบิโลนซึ่งจะความยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งน้อยกว่า  เพราะเงินมีค่าด้อยกว่าทอง  อาณาจักรที่สามก็จะด้อยกว่าอาณาจักรที่สองเพราะทำด้วยบรอนซ์ซึ่งมีค่าด้อยกว่าเงิน  สุดท้ายอาณาจักรที่สี่ก็จะตามมาและแตกต่างจากอาณาจักรเดิมทั้งสาม  เพราะทำด้วยเหล็กและดินผสมกัน  ซึ่งหมายถึงจะมีหลายชนชาติอยู่ในอาณาจักรนี้จึงทำให้ไม่มีความเป็นหนึ่งเดียวกันและแข็งแรงเท่ากับอาณาจักรอื่น

 
ส่วนก้อนหินที่ถูกตัดและหล่นลงมาจากสวรรค์นั้น  ดาเนียลอธิบายว่า  ในสมัยของกษัตริย์เหล่านั้น  พระเป็นเจ้าแห่งสวรรค์จะทรงสถาปนาอาณาจักรหนึ่งซึ่งไม่มีใครสามารถทำลายลงได้  อาณาจักรที่ผ่านมาทั้งหมดจะสูญสิ้นไป  แต่อาณาจักรที่พระเป็นเจ้าทรงสถาปนาขึ้นจะดำรงอยู่ตลอดไป”  ดังที่พระองค์ทรงเห็นแล้วว่า  ก้อนหินนั้นถูกตัดออกจากภูเขาโดยไม่ใช่ฝีมือมนุษย์  และได้ตกลงมาทำให้รูปปั้นที่เป็นเหล็กและดิน, บรอนซ์,เงิน และทอง  แตกกระจายเป็นชิ้นๆ  พระเป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพทรงแสดงให้พระองค์ทราบถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  ความฝันนั้นเป็นความจริงและคำอธิบายก็ถูกต้อง”(ดน. 2: 44-45)
ก้อนหินที่ลงมาจากสวรรค์ในสมัยของอาณาจักรที่สี่หมายถึง “พระเป็นเจ้าแห่งสวรรค์จะทรงสถาปนาอาณาจักรที่ไม่สามารถทำลายได้”
ดังนั้นเมื่อดูในประวัติศาสตร์  มีอาณาจักรใหญ่เกิดขึ้นดังนี้
อาณาจักรบาบิโลน (587-539 ก่อนคริสตกาล)

อาณาจักรเปอร์เซีย (539-331 ก่อนคริสตกาล)

อาณาจักรกรีก (331-168 ก่อนคริสตกาล)

อาณาจักรโรมัน (63 ก่อนคริสตกาล – 70 ในคริสตกาล)

ในสมัยของอาณาจักรที่สี่ ซึ่งก็คืออาณาจักรโรมัน  พระเป็นเจ้าได้ทรงสถาปนาอาณาจักรของพระองค์ – อาณาจักรขององค์พระผู้ไถ่
“ในสมัยนั้น  จักรพรรดิซีซาร์  ออกุสตุส ได้ประกาศราชกฤษฏีกาให้สำรวจสำมโนประชากรทั่วราชอาณาจักร...และโยเซฟได้เดินทางออกจากกาลีลีไปยังเมืองที่ชื่อนาซาเร็ธ  อยู่ในยูเดีย เพื่อไปที่เมืองของกษัตริย์ดาวิดที่เรียกว่า เบ็ทเลเฮ็ม  เพราะท่านสืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์ดาวิด  ท่านนำพระนามารีย์ที่กำลังตั้งครรภ์ไปด้วย” (ลก. 2:1-6)
พระเยซูเจ้าทรงถูกตรึงกางเขนและสิ้นพระชนม์ในสมัยที่ปอนติอัส ปิลาต ชาวโรมันผู้กำลังปกครองยูเดีย  ก้อนหินแห่งยุคสมัยที่ดาเนียลทำนายไว้ก็ได้ตกลงใส่อาณาจักรโรมัน  แล้วอาณาจักรของพระคริสต์ก็เริ่มต้นขึ้นในสมัยของอาณาจักรที่สี่ – อาณาจักรโรมัน
มีข้อสังเกตที่สำคัญคือ  อาณาจักรที่สี่ของชนต่างชาติมีส่วนเกี่ยวข้องกับพระเมสสิยาห์ด้วย  ประกาศกเอเซเคียลและดาเนียลเรียกกษัตริย์เนบูคัดนัสเซอร์แห่งบาบิโลนว่า “กษัตริย์แห่งกษัตริย์ทั้งหลาย” (อค. 26:7;ดน. 2:37)  อันเป็นสมญานามของพระเยซูเจ้า  และอิสยาห์เรียกกษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซียว่า “เมสสิยาห์” (อส. 45:1)  เป็นเรื่องประหลาดที่ท่านเรียกกษัตริย์ต่างชาติเช่นนั้น!   พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งกรีกผู้ได้เชื่อมโลกเมดิเตอร์เรเนียนเข้าด้วยกัน  ก็เรียกตัวเองว่า “บุตรของพระเจ้า” และพระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อพระชนมายุ 33 พรรษา  กษัตริย์อันติโอคุสที่ 4 ผู้มีเชื้อสายกรีก-ซีเรีย ได้ปกครองดินแดนแห่งพันธสัญญาและเป็นผู้สั่งให้ทำลายพระวิหารลง  พระองค์กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมสสียาห์เท็จเทียม หรือ แอนติ้เมสสิยาห์  อาณาจักรโรมันเป็นอาณาจักรสุดท้าย และถูกครอบครองโดยพระคริสต์และนักบุญของพระองค์
ในดาเนียล 2 กล่าวไว้ว่า “(โรมัน) จะถูกทิ้งไว้ให้แก่ผู้อื่นเข้าครอบครองแทน” และสิ่งนี้เกิดขึ้นจากการตกลงมาของก้อนหินหรือศิลา – นักบุญเปโตร (Petros or Peter = ศิลา  เปโตรแปลว่า ศิลา )

พระเยซูเจ้าตรัสแก่เปโตรว่า  “เปโตรท่านคือศิลา และบนศิลานี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา  ประตูนรก จะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้   เราจะมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ให้   ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกบนแผ่นดินนี้ จะผูกไว้ในสวรรค์ด้วย   ทุกสิ่งที่ท่านจะแก้ในแผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย (มัทธิว 16:13-20)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น