สตรีชาวคัลเดียน-อิรัก
ผู้หนึ่งที่อาศัยอยู่ในมิชิแกนตั้งแต่ปี 2008 เธออพยพมาจากอิรัก Dr. Basil N. Najar
เป็นผู้ที่ศึกษาเรื่องของเธอ (ท่านเคยอาศัยอยู่ที่แบกแดดในอิรัก
แต่ปัจจุบันมาอยู่ที่ West Bloomfield และท่านเป็นผู้ส่งเรื่องนี้มาให้เราทางเมล์) ได้เล่าว่า ในบ้านของเธอมีรูปภาพและศาสนภัณฑ์มากมาย
และมีน้ำมันหลั่งออกมาจากศาสนภัณฑ์เหล่านี้
มีรายงานการรักษาทั้งทางด้านจิตใจและร่างกายเมื่อประชาชนเจิมน้ำมันนี้
น้ำมันมีกลิ่นหอมและระเหยไปในอากาศโดยไม่ทิ้งร่องรอยเหลืออยู่เลย
น้ำมันยังได้หลั่งออกมาจากมือของสตรีผู้นี้ด้วยในเวลาที่เธอสวดภาวนา
สตรีชาวคัลเดียน-อิรัก
ผู้นี้(ซึ่งไม่ต้องการเปิดเผยตนเอง) ยังได้เห็นแม่พระประจักษ์มาและมอบสาส์นแก่เธอด้วย
สาส์นล่าสุดคือวันอาทิตย์ที่
10 ก.ค.2014 เป็นสาส์นที่ 174 ขณะที่เธอกำลังสวดบทภาวนาพระเมตตาอยู่ใกล้พระรูปแม่พระแห่งเคป ได้มีแสงสว่างจ้าและแม่พระทรงประจักษ์มา พระนางประทับยืนเหนือพื้นประมาณ 2 ฟุต สวมอาภรณ์สีขาว พระนางตรัสว่า “ลูกสาวของแม่
แม่จะพูดอะไรดี
ในเมื่อประชาชนไม่ตอบสนองสิ่งที่แม่ขอร้องแก่พวกเขา? ดวงใจของแม่รู้สึกเจ็บปวดสักเพียงไร
เมื่อแม่เห็นความทุกข์ทรมานและความกังวลขององค์พระบุตรของแม่ ซึ่งยิ่งใหญ่กว่าพระมหาทรมานที่พระองค์ทรงทนรับบนกางเขนของพระองค์
ดวงพระทัยของพระองค์กำลังหลั่งพระโลหิตเพื่อความรอดของโลกจาก
(ความชั่วร้ายซึ่งกำลังรุกรานโลก)
พอเสียทีที่ลูกพูดกันว่า
พระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์และฤทธิ์อำนาจของพระนางอยู่ที่ไหน
และองค์พระบุตรของพระนางและอัศจรรย์ของพระองค์ล่ะ? แม่ไม่ได้บอกหรอกหรือว่า ทุกสิ่งมาจากพระประสงค์ของพระบิดา? แม้แต่ใบไม้สักใบก็จะไม่ตกจากต้นถ้าพระองค์ไม่ทรงประสงค์
แม่ขอวิงวอนและเรียกร้องต่อประชาชนเหล่านี้ ให้กลับมา
กลับมา กลับมาหาองค์พระบุตรของแม่
แม่ขอร้องและวิงวอนพวกลูก ให้สวดภาวนาและกลับมา ให้ความรักดำรงอยู่ในโลกนี้
เพื่อทำให้องค์พระบุตรของแม่สามารถช่วยเหลือพวกลูกได้
แม่ไม่ได้บอกหรอกหรือว่าจะมีความยากลำบากและทุกขเวทนาบังเกิดขึ้นซึ่งใหญ่กว่าที่พวกลูกเคยเห็น?
วันเวลากำลังมาถึงเมื่อประชาชนและประชาชาติจะลุกขึ้นต่อสู้กัน
วันและเวลานั้นได้มาถึงแล้ว และมันเป็นเหมือนขโมย พวกลูกไม่รู้ถึงวันและเวลานั้นเลย จงกลับมา
กลับมา กลับมา”
แสงสว่างค่อยๆมืดลง
และแม่พระทรงหายไป
(เรารายงาน การพิจารณาเป็นของท่าน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น