วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558

ความสงบเงียบของแม่พระและนักบุญโยเซฟ


เราได้เห็นเหล่านายชุมพาบาลรวมกันอยู่ในทุ่งหญ้า พวกเขาพากันสรรเสริญพระเป็นเจ้าและเดินทางไปยังเบ็ธเลเฮ็ม เมืองของกษัตริย์ดาวิด อันเป็นสถานที่ซึ่งเทวดาได้มาแจ้งข่าวให้พวกเขาทราบว่าเป็นสถานที่บังเกิดขององค์พระผู้ไถ่ พวกเขาเข้าไปยังถ้ำเลี้ยงสัตว์และนมัสการพระกุมารน้อย ที่ประทับนอนอยู่ในรางหญ้าอันต่ำต้อย พระนางมารีย์ทรงทอดพระเนตรเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่ทรงครุ่นคิดและเก็บเรื่องทุกอย่างไว้ในพระทัย

ในวันที่พระเยซูเจ้าทรงอายุครบ 12 พรรษา บิดาและมารดาของพระองค์ทรงนำพระองค์ไปกรุงเยรูซาเล็มเหมือนดังเช่นทุกปี และที่นั่น บิดาและมารดารู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินเรื่องราวของพระองค์ในพระวิหาร” (ลก. 2:19,33)

น่าจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับพวกเรา ถ้าหากเราจะร่วมอยู่ในความสงบเงียบของพระนางมารีย์ ดีกว่าที่จะพยายามหาเหตุผลและอธิบายทุกสิ่งเกี่ยวกับท่าทีของพระนาง สิ่งอัศจรรย์ยิ่งใหญ่บังเกิดขึ้นกับพระนางมารีย์ นับตั้งแต่ที่อัครเทวดาคาเบรียลได้มาแจ้งให้พระนางทราบว่าพระนางจะเป็นผู้ให้กำเนิดองค์พระผู้ไถ่ การอยู่ในความสงบเงียบของพระนางมารีย์ย่อมเป็นการดีกว่าที่จะตรัสเล่าให้ทุกคนรู้แล้วพระนางต้องฟังสิ่งที่พวกเขาจะวิพากษ์วิจารณ์กันมิใช่หรือ? พระนางทรงรับองค์พระบุตร พระเป็นเจ้าผู้สูงสุด ไว้ในครรภ์ของพระนาง พระนางได้เห็นพระองค์ประสูติออกมาด้วยแสงสว่างดุจดังดวงอาทิตย์ที่ส่องลอดออกมาจากกลุ่มเมฆ เปี่ยมด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง และพระนางรู้สึกอย่างไรในการปรากฏมาขององค์พระบุตร? นักบุญยอห์น บัพติส ขณะอยู่ในครรภ์ของนางอลิซาเบ็ธ เพียงได้อยู่ใกล้ๆก็โลดเต้นยินดีในครรภ์ของมารดา แล้วพระนางมารีย์ พระมารดาเล่า เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับองค์พระบุตรถึงเพียงนี้ เมื่อองค์พระจิตทรงกระทำให้องค์พระบุตรถือกำเนิดในพระครรภ์ของพระนาง พระนางยิ่งจะชื่นชมยินดีมากสักเพียงไร

ความสงบสันติสุขและความชื่นชมยินดีมากมายสักเพียงไรที่พระนางจะทรงรู้สึก? พระนางจะตรัสอะไรกับพระบุตรของพระนางหรือ? เปล่าเลย พระนางปล่อยให้ทุกคนเข้ามานมัสการสรรเสริญพระบุตรสุดที่รักของพระนาง และคอยฟังสิ่งที่นายชุมพาบาลเหล่านั้นพูดกันถึงพระองค์ พระนางไม่ตรัสแม้แต่คำเดียวต่อบรรดานักปราชญ์จากบูรพาทิศที่เดินทางมาเพื่อนมัสการพระผู้ไถ่ของโลก พระนางคอยฟังสิ่งที่ท่านซีเมออนกล่าวทำนายถึงพระบุตรและพระนางเองด้วย พระนางตรัสแก่เพียงผู้เดียว คือนักบุญอลิซาเบ็ธ ซึ่งได้สรรเสริญพระนางเมื่อเสด็จมาเยี่ยมเธอ นักบุญโยเซฟ ได้กระทำเช่นเดียวกับพระนางมารีย์ คืออยู่ในความสงบเงียบและรักษาความลับของพระนางมารีย์ เมื่อท่านได้รับทราบจากเทวดาที่มาแจ้งในความฝันเกี่ยวกับพระนางมารีย์และยังได้รู้เห็นเหตุการณ์การบังเกิดที่อัศจรรย์ยิ่งใหญ่ขององค์พระผู้เป็นเจ้าในค่ำคืนนั้น ทั้งสองท่านไม่ได้พูดอะไรเลยเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เห็นอยู่ทุกๆวันและไม่ได้หาผลประโยชน์อย่างใดจากเรื่องราวอัศจรรย์ทั้งหลายที่บังเกิดขึ้นนี้

ด้วยความสุภาพถ่อมตนยิ่งนัก พระนางมารีย์ทรงปล่อยให้คนอื่นคิดว่า พระนางเป็นแต่มารดาธรรมดาคนหนึ่งเหมือนสตรีทั่วไปและองค์พระบุตรของพระนางเป็นเพียงบุตรที่เกิดขึ้นจากการแต่งงานธรรมดาเหมือนสามัญชนทั่วไป

ผลงานอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้าที่ทรงกระทำในบรรดาสิ่งสร้างทั้งหลายของพระองค์ก็บังเกิดขึ้นและดำเนินไปในความสงบเงียบเช่นนี้ พระกิจการของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าคำพูดใดที่จะพรรณนาได้ แล้วพระนางมารีย์จะทรงตรัสอะไรได้เล่าให้เหมาะสมกับสิ่งที่พระนางทรงรู้สึก? ดังนั้น ความลับของพระเป็นเจ้าจึงถูกปิดผนึกไว้ และจะถูกเปิดเผยก็โดยทางพระวาจาขององค์พระบุตรเท่านั้น มนุษย์จะไม่ได้รับประโยชน์แต่อย่างไดถ้าพวกเขายังไม่รู้ความจริงและถ้าโลกยังควบคุมพวกเขาอยู่ อย่างไรก็ตาม สิ่งสร้างของพระเป็นเจ้าก็ปรารถนาที่จะมีส่วนร่วมในพระผู้เป็นเจ้าด้วย มนุษย์เอ๋ย เจ้าเป็นอะไรเล่า ความเย่อหยิ่งของเจ้าเป็นเพียงความโง่เขลาและทำให้เจ้ากระทำสิ่งต่างๆอย่างไร้ประโยชน์ ความสำเร็จที่ได้ก็เป็นเพียงสิ่งไร้สาระ

โอ มนุษย์เอ๋ย อีกนานเท่าไรที่เจ้ายังคงนิยมในคำพูดที่ไร้สาระ และแสวงหาแต่ความโกหก?” (ภ.ษ. 4:2) สิ่งที่คนเราพูดโอ้อวดนั้นเป็นแต่สิ่งไร้สาระ ความคิดเห็นของเขาที่เขาคิดว่ามีคุณค่านั้น หาใช่ความดีที่แท้จริงไม่ แต่ผู้ที่อยู่ในความสงบเงียบในพระเจ้าจะลิ้มรสความหวานชื่น “ จงสงบเงียบเถิด และจงรู้ว่าเราคือพระเจ้า (ภ.ษ. 46:10)“จงลิ้มชิมและดูว่าพระเจ้านั้นประเสริฐ (ภ.ษ. 33:8) ความรักนั้นสงบและนิ่งเงียบ มันพยายามอยู่ห่างไกลจากการสนทนาที่ไร้สาระของโลก จงปิดปากไว้เถิด แต่เปิดใจไว้ เพื่อฟังพระวาจาของพระเป็นเจ้า จงหยุดรบกวนและทำให้ใจของตนไขว้เขว ผู้นิพนธ์สุภาษิต กล่าวว่า "จงสงบเงียบเถิด และจงรู้ว่าเราคือพระเจ้า” (ภ.ษ. 46:10) และกล่าวอีกว่า "จงลิ้มชิมและดูว่าพระเจ้านั้นประเสริฐ” จงลิ้มชิมและดูสิ่งที่พระเป็นเจ้าจะตรัสในใจของท่านเถิด Gustate et videte, quoniam suavis est Dominus

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น