วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2558

บทเทศน์วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์



บางอย่างที่แปลกประหลาดได้บังเกิดขึ้น – บังเกิดความเงียบอย่างยิ่งบนโลกในวันนั้น  ความเงียบและความสงบนิ่งอันยิ่งใหญ่   โลกทั้งมวลเงียบสงบเพราะพระมหากษัตริย์กำลังบรรทม  โลกต้องสั่นสะท้านและสงบนิ่งเพราะพระเป็นเจ้าทรงหลับไหลในพระกายของพระองค์และพระองค์ทรงไปรับวิญญาณของผู้หลับไหลไปก่อนหน้านี้ตั้งแต่กำเนิดโลก  พระเป็นเจ้าทรงสิ้นพระชนม์ในพระกายที่เป็นเนื้อหนังและนรกต้องสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

พระองค์เสด็จไปค้นหาบิดามารดาคู่แรกของพวกเราซึ่งเป็นดั่งแกะที่สูญหายไป  ด้วยพระทัยปรารถนาจะเยี่ยมบรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในความมืดและในเงาแห่งความตาย  พระองค์เสด็จไปเพื่อปลดปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระจากความโศกเศร้าที่ครอบคลุมอาดัมและเอวา  พระองค์ผู้ทรงเป็นทั้งพระเป็นเจ้าและบุตรของมนุษย์  พระคริสตเจ้าทรงไปใกล้พวกเขาพร้อมทรงแบกกางเขนซึ่งเป็นอาวุธที่พระองค์ใช้และทำให้พระองค์ได้รับชัยชนะ  เมื่อมองเห็นพระองค์  อาดัม,มนุษย์คนแรกที่พระองค์ทรงสร้าง, ทุบอกของตนด้วยความตระหนกตกใจและร้องเสียงดังจนทุกคนได้ยิน “พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงมาอยู่กับเราทุกคนแล้ว”  พระคริสต์ตรัสกับอาดัมว่า “และอยู่กับจิตใจของท่านด้วย”  พระองค์กุมมือของอาดัมและดึงเขาให้ยืนขึ้น พลางตรัสว่า

 “จงตื่นเถิด ผู้หลับใหล  และกลับฟื้นจากความตาย  แล้วพระคริสตเจ้าจะประทานแสงสว่างแก่ท่าน”

“เราคือพระเจ้าของท่าน  เพื่อเห็นแก่ท่านเราได้ยอมมาเป็นบุตรของท่าน  ด้วยความรักต่อท่านและต่อลูกหลานของท่าน  บัดนี้ด้วยอำนาจของเรา, เราสั่งให้ทุกคนที่อยู่ในสภาพทาสจงลุกขึ้น ทุกคนที่อยู่ในความมืดจงฉายแสงเถิด  ทุกคนที่หลับใหลจงตื่น”

“เราสั่งพวกท่าน  ผู้หลับใหล  จงตื่นและลุกขึ้น  เราไม่ได้สร้างพวกท่านเพื่อให้เป็นนักโทษในนรก  จงฟื้นขึ้นมาจากความตาย  เพราะเราคือชีวิตของความตาย  จงฟื้นขึ้นมาเถิด,ผลงานแห่งฝีพระหัตถ์ของเรา, ท่านซึ่งถูกสร้างให้เป็นภาพลักษณ์ของเรา  ฟื้นขึ้นมาและออกไปจากสถานที่นี้ด้วยกัน  เพราะท่านอยู่ในเราและเราอยู่ในท่าน  เรารวมเป็นหนึ่งเดียวและจะไม่แยกจากกันอีกต่อไป  เพื่อเห็นแก่พวกท่าน  เราผู้เป็นพระเจ้า  ได้กลับกลายมาเป็นบุตรของท่าน  เราผู้เป็นเจ้านายสูงสุด  ได้มารับในสภาพทาส  เราผู้อยู่ในสวรรค์ได้ลงมายังโลกและใต้พื้นแผ่นดินโลก

 “เพื่อเห็นแก่พวกท่าน  เพื่อเห็นแก่มนุษย์  เราได้กลายมาเป็นมนุษย์และกลับฟื้นคืนชีพจากความตายโดยไม่อาศัยความช่วยเหลือจากใครเลย  เพื่อเห็นแก่พวกท่านซึ่งได้ออกจากสวนสวรรค์มา  เรายอมถูกทรยศจากชาวยิวในสวนเก็ธเซเมนี  และเราถูกตรึงกางเขนที่ทำจากต้นไม้จากในสวน

“จงมองดูใบหน้าของเราเถิด  น้ำลายที่ถ่มบนใบหน้าเรานั้นก็เพื่อทำให้พวกท่านมีชีวิต  ชีวิตซึ่งเราได้ระบายลมหายใจของเราในท่าน จงดูรอยบาดแผลบนร่างกายของเราซึ่งเรายอมรับเพื่อทำให้ท่านผู้เป็นภาพลักษณ์ของเรากลับมีความงดงามดังเดิม  จงดูรอยถูกเฆี่ยนตีบนหลังของเรา  เราทนรับมันเพื่อกำจัดภาระอันหนักหน่วงของบาปที่อยู่บนหลังของพวกท่าน  จงดูมือของเรา  ที่ถูกตอกตรึงกับต้นไม้  สิ่งนี้เพื่อชดเชยการที่ท่านได้ยื่นมือไปที่ต้นไม้เพื่อเด็ดผลของมัน

“เราหลับไหลไปบนกางเขนและถูกหอกทิ่มแทงที่สีข้างเพื่อท่านผู้ถูกทำให้หลับไปในสวนสวรรค์  และจากสีข้างของท่าน- เอวาได้ออกมา  สีข้างของเราได้รักษาความเจ็บปวดที่สีข้างของท่าน  การหลับของเราจะปลุกท่านให้ตื่นขึ้นและออกมาจากนรก  หอกที่ทิ่มแทงเราจะปกป้องท่านจากหอกดาบที่หันมาที่ท่าน

 “จงลุกขึ้น และออกไปจากสถานที่นี้ด้วยกัน  ศัตรูได้นำท่านออกมาจากสวรรค์บนโลก  เราจะไม่ให้ท่านอยู่ในสวรรค์นั้นอีก  แต่เราจะนำท่านไปยังสรวงสวรรค์เบื้องบน  เราเคยห้ามท่านไม่ให้ไปยังต้นไม้ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของชีวิต  แต่ดูเถิด, เราผู้เป็นชีวิตด้วยตัวของเราเอง  บัดนี้มาอยู่กับท่าน  เราแต่งตั้งเครูบิมให้ปกป้องท่าน  เหมือนทาสที่ได้รับการคุ้มครอง  แต่บัดนี้เราได้ให้เครูบิมเหล่านั้นเคารพท่านเหมือนเป็นดั่งพระเจ้า

 “บัลลังก์ซึ่งสร้างโดยบรรดาเครูบิม  กำลังรอท่านอยู่แล้วด้วยความกระตือรืนร้น  ห้องของเจ้าสาวได้รับการตกแต่งแล้ว  ช่อดอกไม้ก็พร้อมแล้ว  ที่พำนักนิรันดรได้เตรียมไว้แล้ว  เคหะอันมั่งคั่งแห่งคุณงามความดีทั้งหลายเปิดรับอยู่แล้ว  อาณาจักรสวรรค์ถูกเตรียมไว้ให้ท่านสำหรับชีวิตนิรันดร”









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น