วันที่ 26 ธันวาคม 1957 คุณพ่อออกุสติน ฟูเอนเตส (Augustine
Fuentes) ได้สัมภาษณ์ซิสเตอร์ลูซีอา ที่อารามในโคอิมบรา ,โปรตุเกส ท่านได้บันทึกคำพูดของซิสเตอร์ลูซีอา
ไว้ดังนี้
“คุณพ่อคะ พระนางพรหมจารีย์ทรงเศร้าพระทัยยิ่งนัก เพราะไม่มีใครสนใจสาส์นของพระนางเลย ไม่ว่าคนดีหรือคนชั่ว คนดียังคงดำเนินชีวิตไปตามทางของตนโดยไม่เห็นความสำคัญในสาส์นของพระนาง ส่วนคนชั่ว มองไม่เห็นโทษทัณฑ์ที่พระเป็นเจ้ากำลังส่งมาลงโทษพวกเขา พวกเขายังคงดำเนินชีวิตในบาปของพวกเขาต่อไปและไม่ใส่ใจในสาส์นของพระนางเลย
พระเป็นเจ้าจะทรงลงทัณฑ์โลกนี้และนี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวยิ่งนัก การลงโทษจากสวรรค์จะหนักหนาสาหัสอย่างยิ่ง คุณพ่อคะ
เหลือเวลาอีกเท่าไรก่อนจะถึงปี 1960 ?
มันจะเป็นเรื่องน่าเศร้าสลดสำหรับทุกคน จะไม่มีความยินดีเหลืออยู่ในใจของมนุษย์แม้แต่คนเดียว ถ้าหากโลกไม่สวดภาวนา สำนึกผิดกลับใจและใช้โทษบาปก่อนที่มันจะมาถึง
ดิฉันไม่สามารถบอกรายละเอียดในเรื่องนี้ให้ชัดเจนได้ เพราะมันยังคงเป็นความลับ
นี่เป็นส่วนหนึ่งในสาส์นของแม่พระซึ่งจะยังคงเป็นความลับจนกว่าจะถึงปี 1960
คุณพ่อคะ ช่วยบอกพวกเขาด้วย
แม่พระตรัสหลายครั้งกับ ฟรังซิสโก และ ยาชินทา รวมทั้งดิฉันว่า หลายๆประเทศจะสาปสูญ หายไปจากแผนที่โลก พระนางตรัสว่า รัสเซียเป็นเครื่องมือลงทัณฑ์ที่ถูกเลือกจากสวรรค์ให้ลงโทษโลกทั้งมวล ถ้าหากประเทศเหล่านั้นยังคงไม่กลับใจ
คุณพ่อคะ นั่นเป็นสาเหตุที่ภารกิจของดิฉันยังไม่เป็นที่รับรู้ในโลก
การลงโทษที่เป็นรูปธรรมจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าหากพวกเขาไม่สวดภาวนาและกลับใจเสียก่อน ภารกิจของดิฉันคือการทำให้ทุกคนรับรู้ถึงหายนะภัยร้ายแรงอันยิ่งใหญ่ของวิญญาณที่จะต้องสูญเสียไปชั่วนิรันดร
ถ้าหากเรายังคงอยู่ในบาปหนัก
คุณพ่อคะ แม่พระไม่ได้บอกดิฉันว่า นี่จะเป็นวาระสุดท้ายของโลก
แต่พระนางทรงทำให้ดิฉันมีความเข้าใจสามประการคือ
ประการแรก แม่พระบอกดิฉันว่า ปีศาจกำลังโกรธเกรี้ยวอย่างหนัก และมันตัดสินใจจะทำสงครามขั้นเด็ดขาดกับพระนาง และสงครามครั้งนี้จะเป็นสงครามครั้งสุดท้าย อันจะทำให้มีฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ชนะและอีกฝ่ายหนึ่งต้องพ่ายแพ้ไปตลอดกาล เพราะฉะนั้น
เราต้องเลือกข้างว่าจะอยู่ข้างใด
จะอยู่กับพระเป็นเจ้าหรือจะอยู่กับปีศาจ
ประการที่สอง แม่พระทรงบอกฟรังซิสโก ยาชินทา และดิฉันว่า พระเป็นเจ้าจะทรงประทานความช่วยเหลือสองอย่างให้แก่โลก นั่นคือ
สายประคำ และ ความศรัทธาต่อดวงหทัยนิรมลของแม่พระ นี่จะเป็นความช่วยเหลือสุดท้ายสองอย่าง
ประการที่สาม ในแผนการแห่งพระญาณเอื้ออาทรของพระเป็นเจ้า ก่อนที่พระองค์จะทรงลงทัณฑ์โลก พระองค์จะทรงส่งความช่วยเหลือมาให้เป็นการล่วงหน้าเสมอ
ในเวลานี้
พระเป็นเจ้าทรงเห็นว่าโลกไม่สนใจเลยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น และพูดอย่างไม่ค่อยดีนัก พระเป็นเจ้าทรงเสนอแก่เราด้วย “พระทัยหวาดหวั่น”
ทรงเสนอหนทางสุดท้ายที่จะช่วยให้รอดพ้น
นั่นคือ “พระมารดาของพระองค์เอง”
พระองค์ทรงเสนอด้วย “พระทัยหวาดหวั่น”
เพราะถ้าหากเราเกลียดชังไม่ยอมรับและผลักไสหนทางนี้แล้ว เราจะไม่ได้รับการให้อภัยจากสวรรค์อีกต่อไป เพราะเรากำลังทำบาปหนักซึ่งพระวรสารเรียกว่า “บาปผิดต่อพระจิต” บาปนี้คือการปฏิเสธความรอดของพระเป็นเจ้าอย่างเปิดเผย โดยรู้ตัวและเต็มใจ
ขอให้พวกเราจงระลึกไว้เสมอว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นบุตรที่ดียิ่งของแม่พระ พระองค์จะไม่ยอมให้ใครมาเกลียดชังและเป็นปฏิปักษ์ต่อพระมารดาสุดที่รักของพระองค์เป็นอันขาด
เราได้เห็นมาแล้วว่า ในประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรที่มีบันทึกไว้ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา
มีเหตุการณ์ที่เป็นหลักฐานของการลงทัณฑ์อย่างสาหัสต่อผู้ที่เป็นปฏิปักษ์และโจมตีทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ พระเยซูเจ้าทรงปกป้องพระมารดาของพระองค์เสมอ
คุณพ่อคะ ช่วยบอกพวกเขาด้วยว่า ฟรังซิสโก และยาชินทา ได้ถวายชีวิตของพวกเขาแด่พระเป็นเจ้า ก็เพราะทุกครั้งที่แม่พระทรงประจักษ์มา พวกเขาเห็นพระนางมีพระพักตร์ที่เศร้าเสมอ พระนางไม่เคยทรงยิ้มให้แก่พวกเราเลย
ความเศร้าของพระนางที่พวกเราสังเกตเห็นนี้แทรกทะลุจิตวิญญาณของพวกเรา
ความเศร้านี้มีสาเหตุมาจากการเป็นปฏิปักษ์ต่อพระเป็นเจ้า และโทษทัณฑ์ที่จะต้องตกแก่คนบาป ดังนั้น พวกเราซึ่งเป็นเพียงเด็กเล็กๆ
ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเป็นการปลอบบรรเทาพระทัยของพระนางได้ เราทำได้แต่เพียงสวดภาวนาและทำพลีกรรมมากๆเท่านั้น
คุณพ่อคะ เราไม่ควรรอให้ทางพระศาสนจักรหรือพระสันตะปาปาเรียกร้องหรือสั่งให้ทุกคนในโลกทำกิจใช้โทษบาป
หรือรอคำสั่งจากทางพระสังฆราชในสังฆมณฑลของตน
หรือจากทางคณะนักบวชต่างๆ
ไม่จำเป็นเลย พระเยซูเจ้าทรงเคยใช้วิธีการนี้บ่อยๆมานานแล้ว และพวกเราก็ไม่สนใจ
นี่เป็นเหตุผลที่ในเวลานี้ เราแต่ละคนจำเป็นต้องเริ่มต้นปฏิรูปจิตวิญญาณของตนเอง แต่ละคนต้องไม่เพียงช่วยวิญญาณของตนเองเท่านั้น แต่ต้องช่วยเหลือวิญญาณของทุกๆคนที่พระเป็นเจ้าทรงมอบให้แก่เราด้วย
ปีศาจใช้อำนาจของมันทุกอย่างเพื่อหันเหเรา ทำให้เราหมดความรักในการสวดภาวนา เราอาจรอดพ้นไปด้วยกัน หรืออาจถูกสาปแช่งไปพร้อมกันก็ได้ นั่นขึ้นกับว่าเราอยู่ฝ่ายเดียวกันกับพระเป็นเจ้า
หรืออยู่ฝ่ายเดียวกันกับปีศาจ
ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
พระเป็นเจ้าทรงประทานความช่วยเหลือสองอย่างให้แก่โลก นั่นคือ
สายประคำ และ
ความศรัทธาต่อดวงหทัยนิรมลของพระนางพรหมจารีย์มารีย์
นี่คือความช่วยเหลือสุดท้ายสองอย่าง...พระนางพรหมจารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ในยุคสุดท้าย ซึ่งเป็นเวลาที่เรากำลังมีชีวิตอยู่นี้ ได้ทรงประทานบทสวดสายประคำอันทรงประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถแก้ไขหรือบรรเทาได้ไม่ว่าจะเป็นปัญหาใด ไม่ว่าจะเป็นความยุ่งยากสักเพียงไหน จะเป็นชีวิตของบุคคลหรือคนทั้งชาติก็ตาม เราสามารถแก้ไขได้ด้วยสายประคำศักดิ์สิทธิ์นี้
ด้วยสายประคำศักดิ์สิทธิ์ เราสามารถช่วยตนเองให้รอด ทำให้ตนเองศักดิ์สิทธิ์
เราจะปลอบบรรเทาพระทัยพระเยซูเจ้าและช่วยให้วิญญาณมากมายได้รอด
สุดท้ายนี้
ความศรัทธาต่อดวงหทัยนิรมลของพระนางพรหมจารีย์มารีย์ พระมารดาของชาวเรา
ทำได้ด้วยการระลึกว่าพระนางคือที่ประทับของพระเมตตา ที่ประทับของความดี และ การให้อภัย
และพระนางเป็นประตูอันแน่นอนที่จะพาเราเข้าสู่สวรรค์
สายประคำที่ว่านี่ คือสายประคำอื่นด้วยเช่น สายประคำพระบิดา, สายประคำพระเมตตา หรือหมายถึงสายประคำแม่พระเพียงอย่างเดียวครับ?
ตอบลบลูซีอาคงหมายถึงสายประคำของแม่พระอย่างเดียวครับ เพราะในยุคนั้น สายประคำพระเมตตา และสายประคำอย่างอื่นยังไม่แพร่หลายเหมือนในยุคนี้ครับ
ลบขอบคุณครับ ที่ถามเช่นนั้นเพราะว่า....
ลบเพราะผมสะดวกสวดสายประคำพระเมตตามากกว่าเพราะใช้เวลาสั้นกว่าครับ แต่ก็มีการสวดสายประคำแม่พระไปด้วยถ้าอยู่บ้าน และมีเวลามากพอ และอีกสาเหตุหนึ่งที่ไม่ค่อยสวดสายประคำแม่พระเพราะจำข้อรำพึงไม่ค่อยจะได้ บวกกับไม่ได้พกพาคู่มือข้อรำพึงและคู่มือก็เก่ามากแล้ว เวลานั่งรถโดยสารผมมักจะหลับตาสบายๆสวดสายประคำพระเมตตาไปด้วย อยากจะสวดสายประคำแม่พระเหมือนกันครับ แต่ก็อย่างว่าไว้....จำข้อรำพึงไม่ได้และคงสวดไม่จบก็ถึงที่ทำงานพอดี......
แต่ขอถามความเห็นส่วนตัวของท่านหน่อยนะครับ ถ้าเราสวดสายประคำอื่นๆเช่น สายประคำพระเมตตา จะได้รับความคุ้มครองเช่นเดียวกับการสวดสายประคำแม่พระด้วยใช่ไหมครับ