พระสันตปาปาฟรังซิสเพิ่งออกสมณสาส์นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมีชื่อว่า Laudato Si
อันเป็นสมณสาส์นฉบับแรกที่ให้ความเอาใจใส่ต่อสิ่งแวดล้อม
เป็นพัฒนาการที่สำคัญของพระศาสนจักรในคำสอนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ชื่อ Laudato
Si ของสมณสาส์นฉบับนี้มาจากคำเต็มว่า “Laudato si, mi Signore!”
(“Be praised, my Lord! หรือจงสรรเสริญพระเป็นเจ้า”) คำนี้นำมาจากบทเพลงในศตวรรษที่
13 ชื่อ “Canticle of the Sun,”(บทภาวนาสรรเสริญของดวงอาทิตย์)
เป็นบทเพลงของนักบุญฟรังซิส อัสซีซี
ผู้ซึ่งชื่อของท่านเป็นชื่อที่พระสันตปาปาฟรังซิสทรงเลือกให้เป็นพระนามของพระองค์
นักบุญฟรังซิสเป็นผู้ที่ชอบธรรมชาติมาก ท่านมีความคิดว่า
ธรรมชาติก็เหมือนกับตัวท่านเอง นั่นคือถูกสร้างโดยพระเป็นเจ้าเพื่อพระเกียรติของพระองค์ เมื่อท่านมองสิ่งรอบตัวในธรรมชาติ
ท่านมองเห็นตัวท่านเองเป็นส่วนหนึ่งของระเบียบแบบแผนในธรรมชาติซึ่งพระเป็นเจ้าทรงจัดวางไว้อย่างดี ความงดงามทั้งหลายของธรรมชาติประกาศถึงพระฤทธานุภาพอันน่ามหัศจรรย์ของพระเป็นเจ้า
ดังนั้นประมาณสองปีก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต
และภายหลังจากที่ท่านฟื้นตัวจากความเจ็บป่วยแล้ว นักบุญฟรังซิสได้ประพันธ์บทเพลง “Canticle of the Sun,” ซึ่งมีเนื้อร้องว่าสิ่งต่างๆที่ถูกสร้างขึ้นมานั้นเป็นเสมือนพี่น้องชายหญิงของท่าน
ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ได้ประกาศสรรเสริญพระเป็นเจ้า
ในขณะนั้นนักบุญฟรังซิสได้รับความทุกข์จากการตาบอด ท่านจึงได้ให้บางคนที่ใกล้ชิดกับท่านเขียนบทเพลงนี้ตามคำพูดของท่าน
นักบุญฟรังซิสคงได้รับแรงบันดาลใจจากบทสดุดี 19:1-4 ซึ่งกล่าวว่า
“ฟ้าสวรรค์ประกาศพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเป็นเจ้า และภาคพื้นนภาประกาศพระหัตถกิจของพระองค์ วันแล้ววันเล่าสรรพสิ่งป่าวร้องสรรเสริญพระเดชานุภาพ คืนแล้วคืนเล่าสรรพสิ่งประกาศพระปรีชาญาณ มันไม่ส่งเสียงเป็นคำพูด ไม่มีเสียงที่เปล่งออกมาให้ได้ยิน แต่เสียงสรรเสริญนั้นก็ดังไปทั่วพิภพ และคำพูดนั้นก็กระจายไปจนสุดแผ่นดินโลก”
นักบุญฟรังซิสยังอาจจะได้รับแรงบันดาลใจจากบท “Canticle of the Three Children” (บทภาวนาของเด็กสามคน) ที่ปรากฏอยู่ใน ดาเนียล 3:
51-90 เป็นบทเพลงของ Shadrach, Meshach, และ Abednego
ร้องสรรเสริญพระเป็นเจ้าเมื่อพวกเขาได้รับการปกป้องอย่างอัศจรรย์จากพระเป็นเจ้าขณะที่อยู่ในเตาเผาของกษัตริย์เนบูคัดเนสซา และมีบางตอนในบทเพลงที่เป็นรายการของสรรพสิ่งหลายอย่างสรรเสริญพระเป็นเจ้า
บทเพลง “Canticle
of the Sun” ของนักบุญฟรังซิสเป็นการแสดงออกของจิตใจกตัญญูต่อพระเป็นเจ้าได้อย่างสวยงาม และข้างล่างนี้ก็คือบทเพลง
องค์พระผู้เป็นเจ้า พระผู้สูงสุด
ทรงพระทัยดี ทรงฤทธานุภาพทุกประการ
คำสรรเสริญ พระสิริรุ่งโรจน์ พระเกียรติและพระพรทุกประการเป็นของพระองค์
สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเป็นของพระองค์แต่เพียงพระองค์เดียว
ริมฝีปากของมนุษย์ไม่มีค่าควรที่จะเอ่ยพระนามของพระองค์
ขอพระองค์จงได้รับการสรรเสริญโดยสิ่งสร้างของพระองค์เถิด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โดยพี่ชายดวงอาทิตย์ของข้าพระองค์
ซึ่งเป็นผู้นำวันมา และพระองค์ทรงประทานแสงสว่างโดยอาศัยเขา
เขาจึงสวยงามและส่องรัศมีในความโชติช่วงชัชวาล
เขาจึงละม้ายคล้ายกับพระองค์ผู้ทรงสูงสุด
ขอพระองค์จงได้รับการสรรเสริญจากพี่สาวดวงจันทร์และดวงดารา
ที่อยู่ในสรวงสวรรค์ พระองค์ทรงสร้างพวกเขาให้เจิดจ้า มีคุณค่าและสวยงาม
ขอพระองค์จงได้รับการสรรเสริญจากพี่สายลมและอากาศ
จากเมฆและพายุและบรรยากาศทั้งปวงเถิด
โดยอาศัยพวกเขาพระองค์ประทานการค้ำจุนให้แก่ชีวิตทั้งหลาย
ขอพระองค์จงได้รับการสรรเสริญจากพี่สาวน้ำ
เธอมีประโยชน์มากมาย เธอถ่อมตน มีคุณค่าและบริสุทธิ์
ขอพระองค์จงได้รับการสรรเสริญจากพี่ชายไฟ
ซึ่งโดยอาศัยเขาพระองค์ทรงทำให้กลางคืนสว่างไสว
เขาช่างสวยงาม
ร่าเริง ทรงอำนาจและเข้มแข็ง
ขอพระองค์จงได้รับการสรรเสริญจากพี่สาวมาตุภูมิของพวกเรา
ผู้ซึ่งให้อาหารเลี้ยงดูและคุ้มครองพวกเรา
และให้ผลไม้หลากหลายชนิด ให้บุบผาชาติหลากสีและสมุนไพรต่างๆ
ขอพระองค์จงได้รับการสรรเสริญจากคนเหล่านั้นที่ให้อภัยแก่ผู้อื่นเพราะความรักต่อพระองค์
ขอพระองค์ได้รับการสรรเสริญจากคนที่ยอมรับความเจ็บป่วยและการทดลอง
ขอให้พวกเขามีความสุขที่ยอมรับทนด้วยใจสงบ
เพราะพวกเขาจะได้รับสวมมงกุฏจากองค์พระผู้สูงสุด
ขอพระองค์จงได้รับการสรรเสริญจากพี่สาวความตายของร่างกาย
ผู้ซึ่งไม่มีใครหนีรอดไปจากอ้อมกอดของเธอได้
วิบัติแก่ผู้ที่ตายไปในบาปหนัก
ความสุขแก่ผู้ที่เธอพบว่าเขาทำตามน้ำพระทัยของพระองค์
ความตายครั้งที่สองไม่สามารถทำอันตรายเขาได้
จงสรรเสริญและอวยพรพระเป็นเจ้าเถิด
และขอบพระคุณพระองค์
และรับใช้พระองค์ด้วยความถ่อมตนที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น