แม่พระแห่งพระหรรษทานทุกประการ
หนังสือรับรองจากพระสังฆราชแห่งลิปา
เรื่องย่อ
แม่พระประจักษ์แก่เทเรซิตา
โนวิสผู้หนึ่งในคอนแวนต์คาร์เมลซึ่งอยู่ที่เมืองลิปาในฟิลิปปินส์ เทเรซิตาเล่าว่า แม่พระทรงย้ำเตือนในเรื่อง ความถ่อมตน การชดเชยใช้โทษบาป
การสวดภาวนาเพื่อพระสงฆ์และพระสันตปาปา
และการสวดสายประคำ เทเรซิตายังบอกด้วยว่าแม่พระทรงประทานสาส์นลับแก่เธอ
1 ข้อ , สาส์นลับเกี่ยวกับคอนแวนต์คาร์เมลในลิปา 1 ข้อ ,
สาส์นลับเกี่ยวกับประเทศจีน 1 ข้อ
และสาส์นลับเกี่ยวกับโลก 1 ข้อ
แม่พระทรงประจักษ์มาในฐานะ “คนกลางแห่งพระหรรษทานทั้งมวล” แต่ทางวาติกันได้พิจารณาการประจักษ์ครั้งนี้ในปี
1951 และประกาศในปี 2010 ว่า “ไม่ได้เป็นสิ่งเหนือธรรมชาติ”
ระยะเวลา
ระยะเวลา
12 ก.ย. 1948
|
ขณะที่เทเรซิตากำลังสวดภาวนาในสวนของคอนแวนต์
ทันใดนั้นต้นองุ่นก็สั่นไหว
มีเสียงแม่พระตรัส (ยังไม่ได้ประจักษ์) แก่เธอ ขอให้เธอจูบพื้นดินและกลับมาสถานที่แห่งนี้อีกเป็นเวลา
15 วัน
เมื่อแม่พระปรากฏพระองค์แก่เธอ
พระนางอยู่บนก้อนเมฆ ทรงอาภรณ์สีขาว
กุมพระหัตถ์
มีสายประคำสีทองห้อยอยู่บนพระหัตถ์ขวา
และมีสายรัดเล็กๆที่เอว
|
16 ก.ย. 1948
|
แม่พระทรงขอให้มีการเสกอวยพรสวนและต้นองุ่น และให้มีพระรูปของแม่พระมาตั้งไว้
ณ.สถานที่ประจักษ์
พระนางยังทรงขอให้ประกอบพิธีมิสซาในวันที่ 12 ของทุกเดือน
|
12
พ.ย. 1948
|
ก่อนที่แม่พระจะทรงจากไป พระนางตรัสว่า พระนางว่าเป็น
“คนกลางแห่งพระหรรษทานทั้งมวล”
|
1948
|
พระศาสนจักรได้สอบสวนกรณีนี้และผลออกมาในทางลบ
(คณะพระสังฆราชที่ได้ปฏิเสธความจริงในเรื่องนี้หลายท่านได้สารภาพก่อนที่จะเสียชีวิตว่า
ที่ปฏิเสธเพราะถูกบังคับและกลัวจะถูกคว่ำบาตรจากทางวาติกัน)
พระสังฆราชแห่งลิบปาและคุณแม่อธิการของคอนแวนต์ถูกย้าย
และมีคำสั่งให้ทำลายวัตถุทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการประจักษ์ สมุดบันทึกของเทเรซิตาและของคุณแม่อธิการถูกเผา พระรูปแม่พระถูกสั่งให้ทำลาย แต่บรรดาซิสเตอร์ได้นำไปซ่อนไว้ คอนแวนต์ถูกปิด
และบรรดาซิสเตอร์ถูกสั่งห้ามไม่ให้พูดเรื่องการประจักษ์แก่บุคคลภายนอก
|
1950
|
เทเรซิตาออกจากคอนแวนต์.
|
11
เม.ย. 1951
|
พระสังฆราช
Alfredo
Verzosa y Florentin อนุญาตให้ใช้พระนาม
“แม่พระแห่งพระหรรษทานทั้งมวล” ได้
แต่ทางพระคาร์ดินัลของฟิลิปปินส์ยังคงประกาศว่า
“ไม่พบว่ามีสิ่งเหนือธรรมชาติ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ผิดปกติที่เกิดขึ้น อันได้แก่กลีบกุหลาบที่ตกลงมาในลิบปา” แต่ในประกาศยังมีข้อความว่า
“จนกว่าทางสันตสำนักจะได้ตัดสินในขั้นสุดท้าย”
|
1951
|
พระสังฆราช
Rufino
Santos ที่มารับงานต่อจากพระสังฆราช Verzosa
ได้ออกคำสั่งว่า 1)
ไม่ให้คณะซิสเตอร์ของคาร์เมลไลท์มอบกลีบกุหลาบแก่ผู้ใด และ 2) พระรูปของแม่พระจะต้องนำออกไปให้พ้นจากสายตาของผู้คน
|
ก.พ. 1990
|
มีรายงานปรากฏการณ์ใหม่เกิดขึ้นใน
อำเภอกรานจา ของเมืองลิบปา
มีผู้เห็นแสงสว่างซึ่งมีลักษณะของสตรีกำลังสวดภาวนาอยู่บนยอดของต้นมะพร้าว
ปรากฏในเวลากลางคืน
|
21
พ.ค. 1990
|
ซิสเตอร์
Aphonse ได้ขอร้องในเวลาใกล้เสียชีวิตว่า
ขอให้นำพระรูปแม่ออกมาตั้งไว้ในโบสถ์น้อยของคอนแวนต์คาร์เมล (เป็นครั้งแรกในรอบ
40 ปี) และคำขอร้องของเธอได้รับอนุมัติ
|
24
ม.ค. 1991
|
กลีบกุหลาบตกลงมาจากท้องฟ้าที่คอนแวนต์คาร์เมลในเมืองลิบปา และสองสามวันต่อมา เด็ก 6 คนที่กำลังสวดภาวนาในสวนของคอนแวนต์พูดว่าพระรูปแม่พระกลับมีชีวิต
|
1992
|
Msgr.
Mariano Gaviola อัครสังฆราชแห่งลิบปา ได้ยกเลิกคำสั่งห้ามเมื่อ
50ปีก่อนของพระสังฆราช Rufino Santos
และอนุญาตให้นำพระรูปแม่พระออกมาตั้งแสดงได้
(อ่านประกาศปี 1992)
|
1993
|
Msgr.
Mariano Gaviola ประกาศว่าโดยส่วนตัวของท่าน
ท่านเห็นว่าการประจักษ์ที่ลิบปามีค่าสมควรที่จะเชื่อถือได้
|
12
ก.ย. 2005
|
Most
Reverend Ramon C. Arguelles, D.D อัครสังฆราชแห่งลิบปา
ได้ฟื้นฟูความศรัทธาอย่างเป็นทางการเพื่อให้มีกิจกรรมและความศรัทธามากขึ้นต่อแม่พระแห่งพระหรรษทานทั้งมวล
ท่านสั่งให้ตั้งแสดงพระรูปแม่พระนี้ใรทุกสังฆมณฑล
|
12
ก.ย. 2006
|
มีการจัดแสวงบุญแห่งชาติและการสวดภาวนาต่อแม่พระแห่งพระหรรษทานทั้งมวลในคอนแวนต์คาร์เมลแห่งลิบปาทุกวันที่
12 ก.ย. เพื่อฉลองการประจักษ์ครั้งแรกของแม่พระแก่ซิสเตอร์เทเรซิตา คาสติลโลในปี 1948
|
ก.ย. 2008
|
ก่อนมีการประชุมเกี่ยวกับแม่พระที่ลูรดส์
(ฝรั่งเศส) พระสังฆราช Arguelles กล่าวว่า “ใช่แล้ว
แม่พระแห่งพระหรรษทานทั้งมวลประจักษ์มาที่ลิบปาจริง)
|
12
พ.ย. 2009
|
พระอัครสังฆราช Arguelles ได้ยกเลิกคำสั่งในปี 1951
ที่ห้ามการเคารพต่อแม่พระแห่งพระหรรษทานทั้งมวล
|
12
พ.ย. 2009
|
พระอัครสังฆราช
Arguelles ได้จัดตั้งคณะทำงานรื้อฟื้นเรื่องราวการประจักษ์
|
พ.ย.
2009
|
พ.ย.
2009 หนังสือพิมพ์ “Ulat
Batangan,” ของสังฆมณฑลลิบปา พระสังฆราช Arguelles ได้เขียนในบทความว่า
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากมายกับข้าพเจ้าซึ่งดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับโบสถ์ท้องถิ่นในลิบปาตลอดร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าจะเป็นการเสด็จมาของแม่พระในปี
1948 ปฏิเสธไม่ได้ว่าแม่พระทรงทำกิจการของพระนางในหลายทศวรรษนี้ ถ้าหากพระนางทรงปรากฏมาและประทานสาส์นในหลายสถานที่ทั่วโลกและในทวีปเอเชียด้วย
การประจักษ์ของแม่พระย่อมเป็นการแทรกแซงช่วยเหลือของพระนางมิใช่หรือ”
|
28
ก.ย. 2010
|
ทางสันตสำนักประกาศว่าการประจักษ์ที่ลิบปาไม่ใช่สิ่งเหนือธรรมชาติ
|
ธ.ค. 2010
|
พระอัครสังฆราช
Arguelles
ออกจดหมายประกาศของทางวาติกันและการตัดสินขั้นสุดท้ายและความคิดเห็นของท่าน
|
4
มิ.ย. 2015
|
ในการเทศน์ของพระอัครสังฆราช
Arguelles ที่อาสนวิหาร San Sebastian Cathedral
ท่านกล่าวว่า “พ่อของประกาศวันนี้ถึงสิ่งที่อยู่ในหัวใจของพ่อตลอดมา นั่นคือ แม่พระแห่งพระหรรษทานทั้งมวล
มีคุณค่าสมควรต่อความเชื่อถือ”
|
12
ก.ย. 2015
|
ในการฉลองในลิปา
พระอัครสังฆราช Arguelles ได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการว่า “เหตุการณ์การประจักษ์ในปี 1948
และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันมาแสดงให้เห็นว่าเป็นสิ่งที่เหนือธรรมชาติและมีค่าที่จะเชื่อถือได้”
นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประกาศของพระสังฆราชขัดแย้งกับการตัดสินของวาติกัน
|
อัศจรรย์ที่เกิดขึ้น
 |
มีนกสีน้ำเงินจำนวนหนึ่งปรากฏอยู่ที่ต้นองุ่นที่แม่พระประจักษ์ และยังเกิดเหตุการณ์ดวงอาทิตย์หมุน มีกลิ่นหอมอบอวลของดอกกุหลาบ และฝนดอกกุหลาบตกลงมาจากท้องฟ้า บนกลีบกุหลาบมีรูปภาพของพระคริสต์ แม่พระและบุคคลศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ และมีรายงานว่ามีอัศจรรย์การรักษาอันเนื่องมาจากกลีบกุหลาบนี้ด้วย
มีรายงานว่า
เทเรซิตาได้รับศีลมหาสนิทจากทูตสวรรค์ในเวลาที่เธอไม่สามารถไปร่วมพิธีมิสซาเพราะเธอป่วยและต้องนอนบนเตียงผู้ป่วย เทเรซิตายังได้เห็นภาพนิมิตอย่างเช่น ดวงหทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า ,
ปวงเทวามากมาย น. เซซีเลีย , น.เทเรซาแห่งลิซิเออร์
และนักบุญอื่นๆอีกมากมาย
เทเรซิตายังมีประสบการณ์ความทุกข์ทรมานของพระเยซูเจ้าบนกางเขน โดยมีคุณแม่อธิการและพระสังฆราช Obviar, และบรรดาซิสเตอร์อื่นๆในคอนแวนต์เป็นพยานรู้เห็นด้วย
|
คำแปล
ดังนั้นโดยอาศัยพระหรรษทานจากพระเป็นเจ้าและด้วยอำนาจของสันตสำนัก ข้าพเจ้าผู้เป็นพระสังฆราชองค์ที่ 7
ของสังฆมณฑลลิปา และอัครสังฆราชองค์ที่ 5 ของศาสนจักรในประเทศฟิลิปปินส์ ขอประกาศข้อความต่อไปนี้ ด้วยจิตสำนึกและความตั้งใจและความหวัง โดยปฏิบัติตามกฏของสันตสำนักเพิ่อพระเกียรติของพระเป็นเจ้าและเพื่อความรักต่อพระมารดาของพระศาสนจักรเสมอ
เหตุการณ์การประจักษ์ในปี 1948
อันเป็นที่รู้จักว่าเป็นปรากฏการณ์ของพระนางมารีย์ในลิปารวมทั้งเหตุการณ์อื่นๆที่ตามมานั้น
เป็นเหตุการณ์เหนือธรรมชาติและมีคุณค่าแก่การเชื่อถือ
ข้าพเจ้าจึงขอส่งเสริมสนับสนุนให้มีความศรัทธาต่อพระมารดามารีย์ภายใต้พระนามว่า คนกลางแห่งพระหรรษทานทุกประการ
ให้ไว้ ณ. วันที่
12 กันยายน
วันฉลองพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระนางมารีย์ ซึ่งทางสังฆมณฑลลิปาได้เฉลิมฉลองพระนางมารีย์ ผู้เป็นคนกลางแห่งพระหรรษทานทุกประการ ปีคริสตศักราช 2015
ลงชื่อ พระสังฆราช รามอน
คาเบรรา อาร์เกลลิส ดีดี
ปัจจุบันเทเรซิตาไม่ได้เป็นคาร์เมลไลท์ เธอกลับไปอยู่ที่บ้านเดิมของเธอและเธอได้รับความทุกข์ทางจิตใจตามที่แม่พระได้บอกเธอล่วงหน้าแล้ว เพราะพระสังฆราชบางท่านและทางสันตสำนักไม่เชื่อเธอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น