วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

พระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า-3


พระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า

ความลึกลับของดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า เป็น"สมบัติล้ำค่า"ซึ่งได้ถูกปกปิดไว้เพื่อที่จะได้นำมาเปิดเผยในเวลาที่ทรงกำหนด.    แต่ดูเหมือนว่าพระปรีชาญาณของพระเป็นเจ้าทรงประสงค์ร่นเวลาให้เร็วขึ้น    และทรงปรารถนาจะเปิดเผยดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์แก่โลก    ดังนั้นพระองค์จึงทรงประจักษ์แก่นักบุญเยอร์ทรูดและทรงแสดงให้นักบุญเห็นถึงความรักแห่งดวงพระหฤทัยของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์.

 
พระองค์ทรงมอบหมายให้นักบุญเยอร์ทรูดเป็นผู้เผยแพร่ความศรัทธานี้ซึ่งถูกปกปิดไว้ต่อโลกเป็นเวลานานถึง 400 ปี   พระองค์ทรงแสดงพระหฤทัยของพระองค์ให้ท่านนักบุญเห็นเป็นเหมือนทรัพย์สมบัติอันมากมายเหลือคณานับ.    อีกครั้งหนึ่งพระองค์ทรงแสดงดวงพระหฤทัยเป็นเหมือนพิณขององค์พระจิตเจ้า   ซึ่งได้ถูกบรรเลงเป็นเพลงอันไพเราะจับใจไปทั่วทั้งสวรรค์    และอีกครั้งหนึ่งทรงแสดงให้เห็นเป็นน้ำพุที่มีน้ำไหลอย่างอุดมบริบูรณ์ประดังความสดชื่นให้แก่วิญญาณในไฟชำระ, ดำรงความยุติธรรมในโลกให้ยั่งยืน, และเติมเต็มพระพรให้เกิดความยินดีในสวรรค์    อีกครั้งหนึ่ง, นักบุญได้เห็นดวงพระหฤทัยเป็นกระถางธูปทองคำที่ส่งกระจายความหอมนานาชนิดให้แก่พระยุติธรรมขององค์พระตรีเอกภาพเหมือนเช่นที่โลกมีมนุษย์หลายชาติพันธ์

อีกวันหนึ่ง พระองค์ทรงเผยแสดงดวงพระหฤทัยให้เห็นเป็นเหมือน "พระแท่นศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยบรรดาผู้ซื่อสัตย์, ผู้เลือกสรรที่กำลังกราบกรานและเหล่าทูตสวรรค์ซึ่งกำลังนมัสการพระผู้สร้าง และสุดท้ายคือพระเยซูเจ้า,สงฆ์นิรันดร, ที่ทรงมอบถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาแด่พระเป็นเจ้า"

ต่อมา ในวันฉลองนักบุญยอห์น อัครสาวก.    ขณะที่นักบุญเยอร์ทรูดเพลิดเพลินกับเสียงขับขานของนกในยามเช้า    ท่านบังเกิดความซาบซึ้งในนักบุญยอห์น อัครสาวก ศิษย์ที่พระเยซูเจ้าทรงรัก    เวลานั้นเองพระเยซูเจ้าได้ทรงประจักษ์มาพร้อมด้วยนักบุญยอห์น    ท่านนักบุญยอห์นได้เจิมน้ำมันให้แก่เธอและกล่าวว่าท่านจะเป็นผู้พิทักษ์ปกป้องเธอ    ท่านยังได้บอกความลับแก่เยอร์ทรูดหลายเรื่องอันเป็นการเตรียมให้เธอได้รับพระหรรษทานพิเศษ   นักบุญยอห์นยืนอยู่ด้านซ้าย และเยอร์ทรูดยืนอยู่ด้านขวาของพระเยซูเจ้า.    และขณะที่ทั้งสองพักพิงอยู่ในดวงพระหฤทัยของพระองค์นั้น ก็ได้มีการสนทนากันดังนี้

น.เกอร์ทรูดถาม น.ยอห์นซึ่งประจักษ์แก่เธอ
"ผู้เป็นที่รักของพระเป็นเจ้า, เสียงเต้นหัวใจอันไพเราะของพระอาจารย์เจ้าซึ่งเคยทำให้เรามีความยินดีในระหว่างอาหารค่ำมื้อสุดท้ายนี้  เป็นความยินดีของเธอ   เมื่อเธอได้พักพิงแนบพระอุระขององค์พระผู้ไถ่ด้วยใช่ไหม?"

"ใช่ค่ะ, ดิฉันได้ยินเสียงเต้นนั้น    และจิตวิญญาณของดิฉันรู้สึกถึงความอ่อนหวานซึ่งแทรกซึมลึกไปถึงใจกลางดวงใจ"

"ถ้าเช่นนั้น ทำไมเธอจึงพูดถึงความลับล้ำลึกแห่งพระทัยรักของดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์แต่เพียงเล็กน้อยเล่า?"

"ภารกิจของดิฉันคือการจดบันทึกพระวาจานิรันดร.  .แต่การบรรยายถึงความสุขที่ได้รับจากการพักพิงในดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้านั้นมีไว้สำหรับเวลาในอนาคต    ซึ่งเป็นเวลาที่จะต้องเตือนโลก    เมื่อโลกเย็นชาในความรักต่อพระเป็นเจ้า    โลกจะเร่าร้อนขึ้นเมื่อได้ยินความลับนี้"

ในวันฉลองเดียวกันนี้เอง แต่ในอีกสี่ศตวรรษต่อมาคือในปี 1673   พระเยซูเจ้าได้ทรงประจักษ์แก่นักบุญมากาเร็ต มารี อาลาก๊อก   พระองค์ทรงแสดงให้เธอได้เห็นดวงพระหฤทัยที่ถูกเผาด้วยไฟแห่งความรัก   พระองค์ตรัสว่า "ดวงใจของเราเต็มไปด้วยความรักต่อมนุษยชาติจนไม่อาจเก็บกักไฟที่กำลังแผดเผาด้วยความรักนี้เอาไว้ได้. เราจำเป็นต้องบอกให้มนุษย์ได้รู้ถึงสมบัติล้ำค่าแห่งดวงพระหฤทัยของเราและข่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากหายนะในนรก"

ครั้งหนึ่ง, ขณะที่นักบุญเยอร์ทรูดกำลังสวดภาวนา    เธอรู้สึกเจ็บปวดมากขณะร้องเพลงและเขียนบันทึกด้วยความศรัทธา    เธอมีความอ่อนแอตามประสามนุษย์และคิดอย่างเศร้าใจว่า "อา, ถ้าหากฉันอ่อนแอเช่นนี้ มีจิตใจไม่มั่นคงแล้วละก็ ฉันจะได้รับสิ่งใดตอบแทนเล่า?"    แล้วนั้นพระเยซูเจ้าทรงประจักษ์มาหาเธอพร้อมแสดงให้เธอเห็นดวงพระหฤทัยของพระองค์   ทรงตรัสว่า "จงมองดูเถิด, เราได้ให้ลูกได้เห็นดวงพระทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของเราแล้ว    ดวงพระทัยนี้จะเป็นเครื่องมือซึ่งพอพระทัยของพระตรีเอกภาพเป็นที่สุด   เราขอมอบให้แก่ลูก,ผู้รับใช้ที่สัตย์ซื่อและกระตือรือร้นของเรา.    ดวงพระทัยนี้จะเยียวยารักษาความบกพร่องและการละเลยต่างๆ.......จงใช้ดวงพระทัยนี้และผลงานของลูกจะเป็นที่ดึงดูดสายพระเนตรและพระกรรณขององค์ความศักดิ์สิทธิ์"

เยอร์ทรูดรู้สึกงงงวยต่อพระทัยกรุณาหาที่สุดมิได้ของเจ้าบ่าวสวรรค์ของเธอ    เพราะเธอคิดว่าดวงพระทัยศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนี้ช่างถ่อมพระองค์ยิ่งนักที่ทรงเมตตาต่อความบกพร่องของเธอ    พระเยซูเจ้าทรงปลอบประโลมและให้กำลังใจแก่เธอด้วยความรักยิ่งใหญ่จับใจ.

"ถ้าลูกกระทำดีต่อผู้อื่น    พูดจาอ่อนหวานกับเขา    แต่เขากลับพูดจาไม่ดีกับลูก   ต่อว่าลูกอย่างเสียหาย   ลูกจะไม่รู้สึกขุ่นเคืองใจบ้างเลยหรือ?  แม้กระนั้น, ดวงพระทัยศักดิ์สิทธิ์ของเราเข้าใจในความอ่อนแอของมนุษย์    เราปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้มนุษย์เชื้อเชิญเรา, จะด้วยวาจาหรือเครื่องหมายอย่างใดก็ได้, ขอให้เราทำงานแก้ไขข้อบกพร่องในตัวของเขาซึ่งเขาไม่สามารถทำให้สำเร็จด้วยตัวเองได้    ฤทธานุภาพอันไม่มีที่สิ้นสุดแห่งดวงพระทัยของเราสามารถทำได้โดยไม่ยากลำบาก.    ปรีชาญาณอันไม่อาจหยั่งถึงได้ของเราสามารถทำทุกสิ่งให้สำเร็จได้.    และความรักความเมตตากรุณาของเราปรารถนาให้สิ่งนี้สำเร็จไปจนถึงวาระสุดท้าย"

นักบุญเยอร์ทรูดพยายามใช้ประโยชน์จากการเผยแสดงนี้ให้มากที่สุด.    เธอมอบถวายการกระทำทุกอย่างเข้าร่วมเป็นหนึ่งเดียวในดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าทุกๆวัน    โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่เธอรู้สึกว่าไม่สามารถขอบพระคุณพระเป็นเจ้าได้อย่างเหมาะสมสำหรับพระคุณบางประการ.   ในเวลานี้เธอจะขอร้องให้ดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าให้ช่วยถวายคำสรรเสริญที่มีค่าเพียงพอและขอบพระคุณพระเป็นเจ้าแทนเธอ.    และพระอาจารย์เจ้าก็ได้ทรงแสดงให้เธอได้เห็นความรักแห่งดวงพระทัยของพระองค์ซึ่งกำลังขอบพระคุณองค์พระตรีเอกภาพในนามของมนุษยชาติทั้งมวล.

นักบุญเยอร์ทรูดเป็นเครื่องมือของดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อกระจายพระหรรษทานอันเหลือคณานับไปให้แก่ผู้อื่น. พระเยซูเจ้าตรัสแก่เธอว่า
"ทุกคนจงมารับพระหรรษทานที่พวกเขาต้องการ
จากดวงพระทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของเราเถิด"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น