พระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า
ความลึกลับของดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า
เป็น"สมบัติล้ำค่า"ซึ่งได้ถูกปกปิดไว้เพื่อที่จะได้นำมาเปิดเผยในเวลาที่ทรงกำหนด.
แต่ดูเหมือนว่าพระปรีชาญาณของพระเป็นเจ้าทรงประสงค์ร่นเวลาให้เร็วขึ้น
และทรงปรารถนาจะเปิดเผยดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์แก่โลก
ดังนั้นพระองค์จึงทรงประจักษ์แก่นักบุญเยอร์ทรูดและทรงแสดงให้นักบุญเห็นถึงความรักแห่งดวงพระหฤทัยของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์.
พระองค์ทรงมอบหมายให้นักบุญเยอร์ทรูดเป็นผู้เผยแพร่ความศรัทธานี้ซึ่งถูกปกปิดไว้ต่อโลกเป็นเวลานานถึง
400 ปี พระองค์ทรงแสดงพระหฤทัยของพระองค์ให้ท่านนักบุญเห็นเป็นเหมือนทรัพย์สมบัติอันมากมายเหลือคณานับ.
อีกครั้งหนึ่งพระองค์ทรงแสดงดวงพระหฤทัยเป็นเหมือนพิณขององค์พระจิตเจ้า ซึ่งได้ถูกบรรเลงเป็นเพลงอันไพเราะจับใจไปทั่วทั้งสวรรค์
และอีกครั้งหนึ่งทรงแสดงให้เห็นเป็นน้ำพุที่มีน้ำไหลอย่างอุดมบริบูรณ์ประดังความสดชื่นให้แก่วิญญาณในไฟชำระ,
ดำรงความยุติธรรมในโลกให้ยั่งยืน, และเติมเต็มพระพรให้เกิดความยินดีในสวรรค์
อีกครั้งหนึ่ง, นักบุญได้เห็นดวงพระหฤทัยเป็นกระถางธูปทองคำที่ส่งกระจายความหอมนานาชนิดให้แก่พระยุติธรรมขององค์พระตรีเอกภาพเหมือนเช่นที่โลกมีมนุษย์หลายชาติพันธ์
อีกวันหนึ่ง
พระองค์ทรงเผยแสดงดวงพระหฤทัยให้เห็นเป็นเหมือน
"พระแท่นศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยบรรดาผู้ซื่อสัตย์, ผู้เลือกสรรที่กำลังกราบกรานและเหล่าทูตสวรรค์ซึ่งกำลังนมัสการพระผู้สร้าง
และสุดท้ายคือพระเยซูเจ้า,สงฆ์นิรันดร, ที่ทรงมอบถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาแด่พระเป็นเจ้า"
ต่อมา
ในวันฉลองนักบุญยอห์น อัครสาวก.
ขณะที่นักบุญเยอร์ทรูดเพลิดเพลินกับเสียงขับขานของนกในยามเช้า
ท่านบังเกิดความซาบซึ้งในนักบุญยอห์น อัครสาวก
ศิษย์ที่พระเยซูเจ้าทรงรัก เวลานั้นเองพระเยซูเจ้าได้ทรงประจักษ์มาพร้อมด้วยนักบุญยอห์น
ท่านนักบุญยอห์นได้เจิมน้ำมันให้แก่เธอและกล่าวว่าท่านจะเป็นผู้พิทักษ์ปกป้องเธอ
ท่านยังได้บอกความลับแก่เยอร์ทรูดหลายเรื่องอันเป็นการเตรียมให้เธอได้รับพระหรรษทานพิเศษ
นักบุญยอห์นยืนอยู่ด้านซ้าย
และเยอร์ทรูดยืนอยู่ด้านขวาของพระเยซูเจ้า. และขณะที่ทั้งสองพักพิงอยู่ในดวงพระหฤทัยของพระองค์นั้น
ก็ได้มีการสนทนากันดังนี้
น.เกอร์ทรูดถาม น.ยอห์นซึ่งประจักษ์แก่เธอ
"ผู้เป็นที่รักของพระเป็นเจ้า, เสียงเต้นหัวใจอันไพเราะของพระอาจารย์เจ้าซึ่งเคยทำให้เรามีความยินดีในระหว่างอาหารค่ำมื้อสุดท้ายนี้ เป็นความยินดีของเธอ เมื่อเธอได้พักพิงแนบพระอุระขององค์พระผู้ไถ่ด้วยใช่ไหม?"
"ใช่ค่ะ, ดิฉันได้ยินเสียงเต้นนั้น
และจิตวิญญาณของดิฉันรู้สึกถึงความอ่อนหวานซึ่งแทรกซึมลึกไปถึงใจกลางดวงใจ"
"ถ้าเช่นนั้น
ทำไมเธอจึงพูดถึงความลับล้ำลึกแห่งพระทัยรักของดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์แต่เพียงเล็กน้อยเล่า?"
"ภารกิจของดิฉันคือการจดบันทึกพระวาจานิรันดร. .แต่การบรรยายถึงความสุขที่ได้รับจากการพักพิงในดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้านั้นมีไว้สำหรับเวลาในอนาคต
ซึ่งเป็นเวลาที่จะต้องเตือนโลก
เมื่อโลกเย็นชาในความรักต่อพระเป็นเจ้า โลกจะเร่าร้อนขึ้นเมื่อได้ยินความลับนี้"
ในวันฉลองเดียวกันนี้เอง
แต่ในอีกสี่ศตวรรษต่อมาคือในปี 1673 พระเยซูเจ้าได้ทรงประจักษ์แก่นักบุญมากาเร็ต มารี อาลาก๊อก พระองค์ทรงแสดงให้เธอได้เห็นดวงพระหฤทัยที่ถูกเผาด้วยไฟแห่งความรัก พระองค์ตรัสว่า
"ดวงใจของเราเต็มไปด้วยความรักต่อมนุษยชาติจนไม่อาจเก็บกักไฟที่กำลังแผดเผาด้วยความรักนี้เอาไว้ได้.
เราจำเป็นต้องบอกให้มนุษย์ได้รู้ถึงสมบัติล้ำค่าแห่งดวงพระหฤทัยของเราและข่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากหายนะในนรก"
ครั้งหนึ่ง, ขณะที่นักบุญเยอร์ทรูดกำลังสวดภาวนา
เธอรู้สึกเจ็บปวดมากขณะร้องเพลงและเขียนบันทึกด้วยความศรัทธา
เธอมีความอ่อนแอตามประสามนุษย์และคิดอย่างเศร้าใจว่า
"อา, ถ้าหากฉันอ่อนแอเช่นนี้ มีจิตใจไม่มั่นคงแล้วละก็
ฉันจะได้รับสิ่งใดตอบแทนเล่า?" แล้วนั้นพระเยซูเจ้าทรงประจักษ์มาหาเธอพร้อมแสดงให้เธอเห็นดวงพระหฤทัยของพระองค์
ทรงตรัสว่า "จงมองดูเถิด, เราได้ให้ลูกได้เห็นดวงพระทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของเราแล้ว
ดวงพระทัยนี้จะเป็นเครื่องมือซึ่งพอพระทัยของพระตรีเอกภาพเป็นที่สุด
เราขอมอบให้แก่ลูก,ผู้รับใช้ที่สัตย์ซื่อและกระตือรือร้นของเรา.
ดวงพระทัยนี้จะเยียวยารักษาความบกพร่องและการละเลยต่างๆ.......จงใช้ดวงพระทัยนี้และผลงานของลูกจะเป็นที่ดึงดูดสายพระเนตรและพระกรรณขององค์ความศักดิ์สิทธิ์"
เยอร์ทรูดรู้สึกงงงวยต่อพระทัยกรุณาหาที่สุดมิได้ของเจ้าบ่าวสวรรค์ของเธอ
เพราะเธอคิดว่าดวงพระทัยศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนี้ช่างถ่อมพระองค์ยิ่งนักที่ทรงเมตตาต่อความบกพร่องของเธอ
พระเยซูเจ้าทรงปลอบประโลมและให้กำลังใจแก่เธอด้วยความรักยิ่งใหญ่จับใจ.
"ถ้าลูกกระทำดีต่อผู้อื่น
พูดจาอ่อนหวานกับเขา แต่เขากลับพูดจาไม่ดีกับลูก
ต่อว่าลูกอย่างเสียหาย ลูกจะไม่รู้สึกขุ่นเคืองใจบ้างเลยหรือ? แม้กระนั้น,
ดวงพระทัยศักดิ์สิทธิ์ของเราเข้าใจในความอ่อนแอของมนุษย์
เราปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้มนุษย์เชื้อเชิญเรา, จะด้วยวาจาหรือเครื่องหมายอย่างใดก็ได้, ขอให้เราทำงานแก้ไขข้อบกพร่องในตัวของเขาซึ่งเขาไม่สามารถทำให้สำเร็จด้วยตัวเองได้
ฤทธานุภาพอันไม่มีที่สิ้นสุดแห่งดวงพระทัยของเราสามารถทำได้โดยไม่ยากลำบาก.
ปรีชาญาณอันไม่อาจหยั่งถึงได้ของเราสามารถทำทุกสิ่งให้สำเร็จได้.
และความรักความเมตตากรุณาของเราปรารถนาให้สิ่งนี้สำเร็จไปจนถึงวาระสุดท้าย"
นักบุญเยอร์ทรูดพยายามใช้ประโยชน์จากการเผยแสดงนี้ให้มากที่สุด.
เธอมอบถวายการกระทำทุกอย่างเข้าร่วมเป็นหนึ่งเดียวในดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าทุกๆวัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่เธอรู้สึกว่าไม่สามารถขอบพระคุณพระเป็นเจ้าได้อย่างเหมาะสมสำหรับพระคุณบางประการ.
ในเวลานี้เธอจะขอร้องให้ดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าให้ช่วยถวายคำสรรเสริญที่มีค่าเพียงพอและขอบพระคุณพระเป็นเจ้าแทนเธอ.
และพระอาจารย์เจ้าก็ได้ทรงแสดงให้เธอได้เห็นความรักแห่งดวงพระทัยของพระองค์ซึ่งกำลังขอบพระคุณองค์พระตรีเอกภาพในนามของมนุษยชาติทั้งมวล.
นักบุญเยอร์ทรูดเป็นเครื่องมือของดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อกระจายพระหรรษทานอันเหลือคณานับไปให้แก่ผู้อื่น.
พระเยซูเจ้าตรัสแก่เธอว่า
"ทุกคนจงมารับพระหรรษทานที่พวกเขาต้องการ
จากดวงพระทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของเราเถิด"
จากดวงพระทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของเราเถิด"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น