ซิสเตอร์ลูซีอา (ผู้รับใช้ของพระเจ้า)
แนะวิธีที่จะไปสวรรค์ในหนังสือที่เธอเขียนดังนี้
"เมื่อเราเสียชีวิต",
ซิสเตอร์ลูซีอากล่าวไว้," เราจะได้เห็นแสงสว่างที่จะเผยถึงชีวิตของเรา,
เป็นแสงเดียวกับที่เหล่าฑูตสวรรค์เห็น" .
"ใช่แล้ว,
บรรดาผู้แสวงบุญที่รัก,ในสวรรค์, เหล่าฑูตสวรรค์เพ่งมองดูพระพักตร์ขององค์ความสว่างนิรันดร, และในแสงสว่างนั้น - (ซึ่งคล้ายกับกระจกใหญ่มหึมาที่ทุกคนได้ผ่านเข้ามาก่อนหน้านั้นแล้ว
) - สรรพสิ่งปรากฏอยู่ที่นั่น, สรรพสิ่งดำรงอยู่ราวกับมันไม่ได้เสื่อมสลายไป
: ทั้งอดีต, ปัจจุบัน, และอนาคต,"
ซิสเตอร์บันทึกไว้ ณ.ที่อารามในประเทศโปรตุเกส.
เมื่อเหล่าฑูตสวรรค์เพ่งดูยังกระจกแห่งแสงสว่าง, ซึ่งก็คือพระเป็นเจ้า,
พวกท่าน "แลเห็นทุกสิ่ง, รู้ทุกสิ่ง,
เข้าใจทุกสิ่ง โดยอาศัยความสนิทสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวอันสมบูณ์ของท่านกับพระเป็นเจ้าและการอยู่ในพระหรรษทานของพระองค์
."
ความลับในการที่จะได้ไปอยู่ณ.สถานที่นั้น, กล่าวคือการค้นพบสวรรค์,
และได้เห็นแสงสว่าง "คือความรัก" ซิสเตอร์ได้ย้ำหลายครั้งซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างจริงจัง . " ผู้ที่จะได้รับพระอาณาจักรสวรรค์เป็นรางวัลก็อผู้ที่ปฏิเสธตนเอง
, เข้มงวดต่อตนเองอย่างเคร่งครัดเพื่อจะสามารถชนะใจตนเองได้ ,
ชนะความโน้มเอียงทางชั่ว, ชนะการประจญล่อลวงของโลก,
ชนะปีศาจและเนื้อหนัง, ทำให้ชีวิตของตนเองดำเนินอยู่ในหนทางแห่งความยุติธรรม,
ความจริง, และความรัก," .
ซิสเตอร์ย้ำเตือนหลายครั้ง, "เราตกหลุมพรางของสิ่งที่เราคิดว่านำความสุขมาให้. เราแสวงหาความสะดวกสบาย.
เรามองแต่สิ่งที่เป็นปัจจุบันแทนที่จะมองเห็นสิ่งที่จะติดตามมาในภายหน้า"
.
"ดังนั้นมนุษยชาติส่วนใหญ่จึงเป็นเหยื่อของความเกียจคร้าน, แสวงหาความสุขชั่วครู่ชั่วคราว , และมีชีวิตที่จมอยู่ในห้วงลึกของความผิดหวังและความเศร้า
," ซิสเตอร์ลูซีอาอ้างถึงข้อความบางตอนจากพระคัมภีร์.
"ให้ลองพิจารณาดูโลกที่เราอาศัยสักหน่อย ! เรามองเห็นอะไรหรือ?
ภาพที่ปรากฏต่อสายตาเรานั้นคืออะไร? มันคือ สงคราม,
ความเกลียดชัง, ความทะยานอยาก, การลักพาตัว, การปล้นสดมภ์, การแก้แค้น,
การฉ้อฉล, การฆาตกรรม, ความไร้จิตสำนึก,
ฯลฯ. แล้วโทษฑัณฑ์สำหรับบาปเหล่านี้ได้แก่ : อุบัติเหตุต่างๆ,
ความเจ็บไข้, หายนะภัย, ทุพภิกขภัย,
ความเจ็บปวดและความทุกข์ยากลำบากทุกชนิดซึ่งมนุษยชาติต้องคร่ำครวญร่ำไห้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน."
จะได้รับความสุขได้อย่างไรเล่า? เราจะสัมผัสพระพรของพระเป็นเจ้าแม้ในขณะที่อยู่ในโลกนี้ได้อย่างไร
-- และหลีกหนีการประจญของปีศาจไปพร้อมกันด้วย ?
ซิสเตอร์ลูซีอาแนะนำดังนี้ "โดยการหลุดพ้นจากความรักตนเอง
โดยการหลุดพ้นจากความโลภ, ความเย่อหยิ่ง, และความพึงพอใจต่อการมีชื่อเสียง เราต้องอาศัยความเชื่อ, การสวดภาวนา,
ความสนิทสัมพันธ์กับองค์พระตรีเอกภาพ, การสวดสายประคำ,
การรับศีลมหาสนิท. เราต้องกระทำสิ่งเหล่านี้.
แต่เราก็ต้องอาศัยการสำนึกผิดกลับใจด้วย. เราต้องปรับเปลี่ยนตัวของเรา ณ.
"พระแท่นแห่งการเนรมิตสร้าง"
ซิสเตอร์กระตุ้นเตือน "
ปิดทีวีเสีย ปิดวิทยุ. และแทนที่ด้วยการสวดภาวนา และการชดเชยใช้โทษบาป."
เราทำสิ่งต่างๆดังกล่าวได้โดยควบคุมการกิน -- เลือกอาหารที่เราไม่ชอบ
-- หรือโดยการอดทนในสิ่งที่ไม่สะดวกสบายโดยไม่บ่น. "นี่อาจจะเป็นคำพูดที่กระด้าง
ซึ่งเราไม่ชอบ ไม่อาจยอมรับหรือไม่เห็นด้วย
," ซิสเตอร์กล่าวต่อ. "นั่นฟังแล้วอาจทำให้ขมขื่น,
ดูเสียเกียรติ, เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับจิตใจ.
แต่เราต้องรู้วิธีที่จะอดทนสิ่งต่างๆ, จงมอบการพลีกรรมของเราถวายแด่พระเป็นเจ้าและให้ทุกสิ่งผ่านเราไปเหมือนกับว่าเราตาบอด,
เป็นใบ้, หูหนวก, เพื่อที่เราจะได้มองเห็นได้ดียิ่งขึ้น,พูดได้ดีขึ้น, พูดด้วยความมั่นใจขึ้นและสามารถได้ยินพระสุรเสียงของพระเป็นเจ้า
."
เมื่อเราทำสิ่งเหล่านี้, และสวดภาวนา,
เราจะเรียนรู้ถึงภารกิจของเราในชีวิตปัจจุบันได้กระจ่างชัดมากขึ้น.
ไฟชำระเป็นอย่างไร? ซิสเตอร์อธิบาย -- ถ้าหากยังมีความสกปรกเล็กน้อยในวิญญาณของเรา
,ถึงแม้เราจะไปสารภาพบาปแล้ว, เรายังต้องได้รับการชำระล้าง.
ซิสเตอร์อ้างถึงพระคัมภีร์ 2 Maccabees 12:36-46. "ข้อความจากพระคัมภีร์นี้ช่วยให้เราเข้าใจความจริงในข้อความเชื่อเกี่ยวกับไฟชำระ
ที่นั่นเป็นสถานที่วิญญาณที่ตายในพระพรได้ถูกชำระให้บริสุทธิ์จากมลทินทั้งปวงของบาปก่อนที่เราจะได้รับความบรมสุขนิรันดรกับพระเป็นเจ้า
," นี่เป็นข้อเขียนที่มีชื่อเสียงอันหนึ่ง -- รอยมลทินเล็กน้อยนั้นอาจมาจากสิ่งที่เราละเลยไม่กระทำ,
และอยากขอเตือนว่ามีการกระทำหลายอย่างซึ่งถึงแม้จะไม่ถึงกับเป็นบาป
"แต่มันทำให้วิญญาณไม่ใสสะอาดอันเนื่องมาจากความสกปรกของโลก และมันกีดกั้นวิญญาณไม่ให้ลอยขึ้นสู่สิ่งเหนือธรรมชาติซึ่งอยู่เบื้องบน."
เหตุฉะนั้น, เราจึงต้องทำการ
"ฟื้นฟูจิตใจ" บ่อยๆ
เราสามารถทำได้บนโลกนี้ด้วยการฝึกฝนตนเองให้อยู่ในระเบียบวินัย. สวดภาวนาอย่างเพียงพอ
อุทิศตนต่อพระเป็นเจ้า. เราต้องทำให้น้ำใจของเราสะอาดใสบริสุทธิ์.
อันจะชักนำเราไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ . – จากข้อที่ 20 ของบันทึก"การเรียกร้อง"
ของซิสเตอร์ลูซีอา
และด้วยความศักดิ์สิทธิ์นี้จะทำให้เราใกล้ชิดพระเป็นเจ้า.
ชีวิตเป็นความท้าทายให้เราพยายามติดต่อใกล้ชิดพระเป็นเจ้า, และค้นหา
'ความลึกลับมหัศจรรย์ของพระเป็นเจ้าที่มีต่อชาวเรา' .
"เพราะพระวิหารของพระเป็นเจ้านั้นศักดิ์สิทธิ์" ,(
อ้างอิง 1 Corinthians 3:16-17), "และท่านจะอยู่ในพระวิหารนั้น."
"พระวิหารของโลกเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นด้วยมือของมนุษย์,
เรายังมีพระวิหารอื่นๆซึ่งยังมองไม่เห็น,เราต้องสวดภาวนาและมอบถวายการพลีกรรมของเราแด่พระเป็นเจ้า."
ซิสเตอร์บันทึก. "ฉันหมายถึงวิญญาณของเรา, หัวใจของเรา,
จิตใจของเรา. พระเป็นเจ้าทรงอยู่ที่นั่น! พระตรีเอกภาพศักดิ์สิทธิ์ทรงพำนักอยู่ที่นั่น!
ถ้าเราคงอยู่ในสถานะพระหรรษทาน, เรากำลังอยู่ในพระวิหารของพระเป็นเจ้า."
สำหรับพระสงฆ์ของเรา :
"เพราะฉะนั้น, เราควรฟังพระสงฆ์ด้วยความเชื่อเสมอ,
เพราะท่านเป็นแสงสว่างส่องหนทางของเรา, เป็นผู้นำทางชีวิตของเรา,
และเป็นแหล่งแห่งพละกำลังสำหรับความอ่อนแอของเรา ."
-------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น