วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2559

นักบุญโยเซฟอยู่ในเหตุการณ์ที่แม่พระเสด็จเยี่ยมนักบุญเอลีซาเบธด้วยหรือไม่?

บทความนี้นำมาจาก Catholic Exchange

รูปภาพแม่พระเสด็จเยี่ยมนักบุญอลิซาเบท

ผมเคยถามเพื่อนๆว่า  เมื่อแม่พระเสด็จเยี่ยมนักบุญเอลีซาเบธ นั้น นักบุญโยเซฟอยู่ที่นั่นด้วยหรือไม่?  พวกเขาส่วนใหญ่ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย  ผมสงสัยในเรื่องนี้จึงได้พยายามศึกษาเพื่อตอบคำถามนี้  และผมก็พบคำตอบจากแหล่งข้อมูล 3 แห่งคือ  จาก พระคัมภีร์  จากการเผยแสดงของพระเป็นเจ้าแก่บุคคลบางคน  และจากงานศิลป์  ผมจึงอยากจะแบ่งปันให้กับพวกคุณสักหน่อย

จากพระคัมภีร์

ผมเคยมีจินตนาการเกี่ยวกับหญิงสาวมารีย์ชาวนาซาแร็ธ  ผู้ที่กำลังจากบ้านของครอบครัวเดินทางไปกับกองคาราวานที่มุ่งหน้าไปกรุงเยรูซาเล็ม  เพื่อที่จะไปหาญาติของเธอซึ่งอยู่ที่ เออินคาเรม( Ein Karem) อันเป็นหมู่บ้านซึ่งเอลีซาเบธ และเซคาริยาห์ อาศัยอยู่  ผมไม่เคยมีความคิดว่าโยเซฟได้ติดตามไปกับเธอด้วย  แต่ถ้าจะให้ผมเดาละก็  ผมก็คงเดาเหมือนกับคนอื่นๆว่า  โยเซฟไม่ได้ไปด้วย  เพราะพระคัมภีร์ไม่ได้กล่าวไว้

พระวรสารนักบุญลูกา 1:39 เขียนว่า “หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบยูดาห์”  พระคัมภีร์ไม่ได้เขียนว่า “หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์และโยเซฟทรงรีบออกเดินทาง”  ผมจำได้เกี่ยวกับบางอย่างที่ น.เบอร์นาร์ดได้เขียนไว้ในหนังสือ Missus Est, ซึ่งบอกว่า น.ลูกามักจะละเว้นรายละเอียดบางอย่างเอาไว้  อย่างเช่นในเรื่องการแจ้งสารของพระนางมารีย์  น.เบอร์นาร์ดชี้ให้เห็นความจริงบางอย่าง นั่นคือ - น.ลูกาได้เขียนอธิบายอย่างคร่าวๆว่า “เมื่อนางเอลีซาเบธตั้งครรภ์ได้ 6 เดือนแล้ว  พระเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์กาเบรียลมายังเมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลีชื่อเมืองนาซาเร็ธ  มาพบหญิงพรหมจรรย์คนหนึ่งซึ่งหมั้นอยู่กับชายชื่อโยเซฟ หญิงนั้นชื่อมารีย์”  และในการเสด็จเยี่ยมเอลีซาเบธของพระนางมารีย์  น.ลูกาก็เขียนว่า “พระนางมารีย์ประทับอยู่กับนางเอลีซาเบธประมาณสามเดือนจึงเสด็จกลับ”  น.ลูกาต้องการมุ่งไปในประเด็นที่ว่า  พระนางมารีย์ได้เห็นการกำเนิดของยอห์น บัพติส  และนี่จึงเป็นสาเหตุที่ น.ลูกาไม่ได้เล่าถึงการที่ น.โยเซฟได้มาพร้อมกับพระนางมารีย์ด้วยใช่ไหม?

ประการที่สอง  พระวรสารน.มัทธิว ได้เขียนว่า โยเซฟตัดสินใจที่จะหย่ากับพระนางมารีย์อย่างเงียบๆ (มท. 1:19) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อยู่ระหว่างการแจ้งสาร, การเสด็จเยี่ยมเอลีซาเบธ และการเสด็จกลับนาซาเร็ธของพระนางมารีย์  เมื่อพิจารณาดูแล้วการตัดสินใจของโยเซฟที่จะหย่ากับพระนางมารีย์นั้นเนื่องจากสังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดสังเกตในรูปร่างของพระนางมารีย์เมื่อกลับจากการเยี่ยมเอลีซาเบธ  ถ้าโยเซฟเดินทางไปกับพระนางมารีย์  ท่านจะไม่รู้หรือได้เห็นหรือว่าครรภ์ของพระนางมารีย์เปลี่ยนแปลงไปบ้าง?  จากมุมมองที่ได้จากพระคัมภีร์  เหมือนจะสนับสนุนความคิดในตอนแรกของผม  ทำให้ผมคิดว่า  พระนางมารีย์เสด็จไปเยี่ยมเอลีซาเบธตามลำพังทั้งๆที่อายุไม่มาก  และได้กลับนาซาเร็ธด้วยตนเอง

การเปิดเผยของพระเจ้าต่อบุคคลบางคน

ผมได้ศึกษาค้นคว้าต่อไปเพื่อดูซิว่าจะมีคำตอบอื่นบ้างไหมที่แสดงให้เห็นว่า  โยเซฟเดินทางไปกับพระนางมารีย์เพื่อเยี่ยมเอลีซาเบธและเซคาริยาห์ด้วย  ในขั้นที่สองนี้ ผมได้ค้นหาในหนังสือของผู้ได้รับการเผยแสดงจากพระเจ้าบางคน  ได้แก่ บุญราศีมารีย์แห่งอกรีดา  และบุญราศี อันนา คัทริน อัมเมอริก 

บุญราศีมารีย์แห่งอกริดา  ได้เห็นนิมิตเรื่องราวของพระนางมารีย์ และท่านได้เขียนบันทึกในหนังสือ The Mystical City of God ซึ่งผมใช้อ้างอิงจาก ฉบับย่อที่พิมพ์โดย TAN (1978). และหลายท่านก็คงเคยได้ยินชื่อของ บุญราศี อันนา คัทริน อัมเมอริก มาบ้าง  เมล  กิบสัน ได้สร้างภาพยนตร์เรื่อง พระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า  โดยใช้ข้อมูลจากหนังสือ The Dolorous Passion of Our Lord Jesus Christ ที่ บุญราศี คัทริน อัมเมอริกได้เขียนบันทึกจากนิมิตที่เธอเห็น  และคัทริน  อัมเมอริกยังเห็นนิมิตเรื่องราวของพระนางมารีย์ด้วยเช่นกัน  ซึ่งเธอบันทึกไว้ในหนังสือ The Life of the Blessed Virgin Mary (Tan Books, 1970).

ในการอ้างอิงจากการเผยแสดงส่วนบุคคลนี้  ผมไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะยกระดับความสำคัญหนังสือของท่านเหล่านั้นให้เท่ากับคำสอนของพระศาสนจักรหรือการเผยแสดงของพระเจ้าเป็นส่วนรวม  ผมคิดว่าข้อมูลจากแหล่งนี้ทำให้ผมเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นในความจริงที่ยังไม่กระจ่างชัดของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ได้เขียนไว้ในพระคัมภีร์  หนังสือเหล่านี้ช่วยแก้ความกระหายใคร่รู้ที่ยังค้างคาอยู่ในจิตใจของผม

ทั้งสองท่านคือ มารีย์แห่งอกริดา และ อันนา คัทริน  อัมเมอริก เขียนไว้ตรงกันว่า น.โยเซฟ ได้อยู่ในเหตุการณ์การเสด็จเยี่ยมเอลีซาเบธ ของพระนางมารีย์ด้วย 

มารีย์แห่งอกริดา เขียนไว้ว่า “หลังจากออกเดินทางไปด้วยกันเป็นเวลาสี่วัน  พระนางมารีย์และคู่หมั้นของพระนางก็มาถึงเมืองหนึ่งในแคว้นยูดา  ที่ซึ่งเซคาริยาห์และเอลีซาเบธอาศัยอยู่” (180)

อันนา  คัทริน  อัมเมอริก ให้รายละเอียดมากกว่าของมารีย์แห่งอกริดา  บันทีกของเธอเขียนว่า “ตอนนั้น ใกล้เวลาที่โยเซฟต้องการจะไปที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อร่วมในพิธีสมโภชปาสกา  พระนางมารีย์ตัดสินใจที่จะเดินทางไปพร้อมกับโยเซฟเพื่อไปช่วยดูแลเอลีซาเบธที่กำลังตั้งครรภ์  ดังนั้นโยเซฟพร้อมด้วยพระนางมารีย์จึงเริ่มออกเดินทางไปยังจัทตา”(148)  และบุญราศีทั้งสองท่านก็ยังระบุด้วยว่า โยเซฟทราบเรื่องที่พระนางมารีย์ตั้งครรภ์แล้ว  แต่โยเซฟไม่ทราบถึงสิทธิพิเศษของพระนางมารีย์ที่พระเป็นเจ้าทรงประทานให้แก่พระนาง คือการเป็นมารดาของพระผู้ไถ่   (Agreda, 185.  Emmerich, 148). นอกจากนี้ บุญราศีทั้งสองท่านยังเล่าตรงกันว่า  โยเซฟได้เดินทางกลับมาหาพระนางมารีย์หลังจากขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็มแล้ว  และโยเซฟเดินทางกลับนาซาเร็ธพร้อมกับพระนางมารีย์  แต่บุญราศีทั้งสองท่านให้รายละเอียดที่แตกต่างกัน  โดยมารีย์แห่งอกริดา เล่าว่า โยเซฟกลับมาที่บ้านของเซคาริยาห์และเอลีซาเบธ (cf. p 191)  ส่วน อันนา คัทริน อัมเมอริก เล่าว่า  โยเซฟไปพบกับพระนางมารีย์ที่กลางทาง(cf. p 166).   บุญราศีทั้งสองเขียนตรงกันว่า  ระหว่างที่เดินทางกลับนาซาเร็ธ  โยเซฟสังเกตเห็นว่าพระนางมารีย์ตั้งครรภ์และเวลานั้นเองที่โยเซฟตัดสินใจที่จะแยกทางจากพระนางอย่างเงียบๆ

ข้อมูลจากการเผยแสดงส่วนบุคคล  ให้คำตอบอีกแบบหนึ่งแก่ผมซึ่งแตกต่างจากความคิดของผมที่ได้จากพระคัมภีร์  และต่อไปนี้ก็เป็นขั้นที่สามในการศึกษาค้นคว้าของผม – จากงานศิลป์

งานศิลป์

สิ่งที่บันทึกในพระคัมภีร์  ในความเชื่อตามธรรมประเพณี และในนิมิตของผู้ได้รับการเผยแสดงบางคน  เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินและจิตรกรสร้างสรรค์ผลงานของพวกเขา  ผมไม่ได้พูดถึงแต่จิตรกรนักวาดภาพเท่านั้น  แต่รวมถึงภาพยนตร์ด้วยซึ่งเราจะร่วมกันพิจารณาไตร่ตรองในเรื่องนี้

ภาพยนตร์

ในปี 2006 มีภาพยนตร์เรื่อง The Nativity Story ซึ่งเล่าเรื่องของพระนางมารีย์ในวัยสาวไปจนถึงวันประสูติของพระคริสต์ในวันคริสต์มาส  หลังจากพระนางมารีย์ได้รับการแจ้งสาส์นจากทูตสวรรค์  มารีย์ได้บอกบิดามารดาว่าจะไปเยี่ยมเอลีซาเบธและเซคาริยาห์  เพราะเอลีซาเบธตั้งครรภ์  แต่บิดามารดาไม่เชื่อและได้ห้ามเธอ  มารีย์บอกบิดามารดาว่า จาคอบผู้เป็นญาติและครอบครัวของเขากำลังจะเดินทางไปทางใต้และเธอสัญญากับซาราห์ภรรยาของจาคอบว่าจะช่วยดูแลลูกๆของพวกเขาระหว่างเดินทาง  บิดามารดาจึงบอกกับมารีย์ว่า “ให้ลูกแน่ใจว่าเซคาริยาห์จะหาครอบครัวที่ดีที่เธอจะเดินทางกลับมาพร้อมกับพวกเขาได้”  หลังจากมารีย์ไปที่เออิน คาเร็ม และกลับมาที่นาซาเร็ธ ครรภ์ของเธอก็เปลี่ยนจนสังเกตเห็นได้  และโยเซฟก็รู้ว่าเขามีปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไข

จากภาพยนตร์ของ Ignatius Press Film ปี 2014 เรื่อง Mary of Nazareth มีเนื้อหาที่แตกต่างจากเรื่อง The Nativity Story หลังจากได้รับการแจ้งสาส์น  มารีย์ได้บอกเล่าแก่บิดามารดาเรื่องเอลีซาเบธตั้งครรภ์และเธอตั้งใจจะไปเยี่ยม  มารีย์บอกบิดามารดาว่าเธอจะเดินทางไปกับกองคาราวานซึ่งเดินทางไปที่พระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม  บิดามารดาวิตกกังวลในเรื่องที่เธอจะเดินทางไปเพราะใกล้ถึงวันแต่งงานของเธอกับโยเซฟแล้ว  ในเรื่องนี้มารีย์ได้ไปปรึกษากับโยเซฟ  และโยเซฟอาสาที่จะเดินทางไปพร้อมกับเธอ  แต่มารีย์ปฏิเสธโดยบอกว่า  เธอไม่ต้องการทำให้โยเซฟเสียเวลาในการทำงานเพื่อสร้างบ้านของเขา  มารีย์เดินทางไปกับกองคาราวานและอยู่กับเอลีซาเบธ  แล้วจึงกลับนาซาเร็ธ  เวลานั้นคนทั้งหมู่บ้านสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในครรภ์ของมารีย์ซึ่งโตขึ้น  โยเซฟบอกมารีย์ว่าเขาจะจากเธอไปอย่างเงียบๆเพื่อที่เธอจะไม่ได้ถูกประชาทัณฑ์จนเสียชีวิต   และโยเซฟได้ทำลายบ้านที่เขาสร้างขึ้นมา   ต่อมาโยเซฟก็ได้รับสาส์นจากสวรรค์ในความฝัน  เขาจึงยอมรับพระนางมารีย์เป็นภรรยา

จากภาพยนตร์จะไม่เห็นตอนใดเลยที่โยเซฟมีส่วนร่วมในการเสด็จเยี่ยมของพระนางมารีย์

ในภาพวาด

ขณะที่ในภาพยนตร์จะไม่เห็นตอนใดที่โยเซฟมีส่วนร่วมในการเสด็จเยี่ยมของพระนางมารีย์เลย  แต่ในภาพวาดหลายรูปแสดงให้เห็นพระนางมารีย์และเอลีซาเบธกำลังโอบกอดกัน  และโยเซฟยืนอยู่ข้างๆ  ดังในภาพที่นำมาให้ดูต่อไปนี้



 
บทสรุป
            คาทอลิกที่สวดสายประคำในภาคชื่นชมยินดีก็คงจะได้พิจารณาพระธรรมล้ำลึกการเสด็จเยี่ยมของพระนางมารีย์ไปด้วย  แต่คงมีหลายคนเหมือนกับผมที่ไม่เคยพิจารณาไตร่ตรองในเรื่องที่ว่า น.โยเซฟปรากฏตัวอยู่ในการเสด็จเยี่ยมเอลีซาเบธของพระนางมารีย์ด้วย  บทความจากการค้นคว้าของผมดังกล่าวนั้น  อาจจะเป็นประโยชน์ทำให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นระหว่างที่สวดสายประคำในภาคนี้  ผมได้รับคำตอบจาก 3 แหล่งคือ จากพระคัมภีร์ , จากการไขแสดงต่อบุคคลบางคน และจากงานศิลป์  ถึงแม้เราจะได้รับคำตอบที่ไม่ตรงกัน  เราก็อาจสรุปได้ว่า  ไม่ว่าพระนางมารีย์จะไปที่เออิน คาเรม โดยพระนางเองหรือไปพร้อมกับ น.โยเซฟ  สิ่งเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละคนที่จะเชื่อในการไขแสดงของพระเป็นเจ้าแก่บุคคลบางคนหรือไม่  และเราควรเปิดใจของเราให้กับความเป็นไปได้ที่มีอยู่ในความล้ำลึกของพระบิดา  พระผู้ทรงสร้างสรรค์สรรพสิ่งและทรงจัดการทุกสิ่งให้มันเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น