วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ผู้รับพระพรพิเศษแห่งซีเรีย


จาก SpiritDaily.com
            เมื่อไม่นานมานี้ เราได้มีโอกาสพูดกับ มีรนา นาสซูร์ (Myrna Nazzour) หญิงชาวซีเรียที่ได้รับพระพรพิเศษ(รอยแผลศักดิ์สิทธิ์)  ปัจจุบันเธออายุ 52 ปี ตั้งแต่ปี 1982 มีเหตุการณ์พิเศษเกิดกับเธอ มีน้ำมันไหลออกมาจากรูปไอคอนในบ้านของเธอและต่อมาก็ไหลออกมาจากมือของเธอเอง  ยังความประหลาดใจแก่ชาวคาทอลิก  กรีกออร์โธดอกซ์ และชาวมุสลิม

มีรนามาจากครอบครัวที่เป็นทั้งคาทอลิก (ทางบิดา) และออร์โธดอกซ์ (ทางมารดา)  เป็นที่น่าสังเกตว่า  พระพรพิเศษที่เธอได้รับ (รอยแผลศักดิ์สิทธิ์,การประจักษ์ น้ำมัน ฯลฯ) ได้รับการรับรองจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายโรมันคาทอลิก(the papal nuncio at the time, Bishop Luigi Accogli)  ได้รับการรับรองจากพระสังฆราชของเมลไคท์คาทอลิก และจากทางพระอัยกาของออร์โธดอกซ์ด้วย

           สาส์นที่มีรนาได้รับจากแม่พระมีใจความสำคัญอยู่ที่ความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตชน (ออร์โธดอกซ์และคาทอลิก)  และบางครั้งปรากฏการณ์พิเศษที่เกิดกับมีรนานั้นจะเกิดในวันหยุดสำคัญที่เหมือนกันของทางฝ่ายออร์โธดอกซ์และทางคาทอลิก (เช่นวันอิสเตอร์และวันคริสต์มาส  ซึ่งใช้ปฏิทินที่ไม่เหมือนกันทำให้เหลื่อมเวลากันหลายวันหรือหลายสัปดาห์)

เหตุการณ์เริ่มต้นวันที่ 27 พ.ย. 1982 เมื่อเริ่มมีน้ำมัน(มะกอก)ไหลออกมาจากรูปไอคอนในบ้านของเธอเป็นเวลาหลายวัน  และตามมาด้วยการประจักษ์มาของแม่พระแก่มีรนา  นิโคลาส, สามีของมีรนาพูดกับเราว่า “ใช่ครับ พระนางยังคงประจักษ์มา”  นิโคลาสพูดแทนมีรนา  เพราะเธอพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้  นิโคลาสบอกให้เรารู้ว่า เวลานี้มีรนาเห็นการประจักษ์ในลักษณะของภาพภายในจิตใจของเธอ(locution)  ซึ่งไม่เหมือนการประจักษ์ในระยะแรก  เธอได้รับภารกิจในการประกาศพระวาจาและมีการเยียวยารักษาโรคด้วย

ครั้งสุดท้ายที่น้ำมันได้ไหลออกมาจากมือของเธอนั้นคือปี 2007 (นิโคลาสแปลคำพูดของภรรยา) เวลานี้พวกเขาทั้งสองอยู่ที่ดามัสกัส  มีรนาเพิ่งกลับไปที่ดามัสกัสหลังจากการเดินทางมาที่สหรัฐครั้งที่ 17 และเธอใช้เวลาในการปราศรัยในโบสถ์ 20 แห่งที่สหรัฐและแคนาดาด้วย  ในการเดินทางของเธอมีพระสงฆ์ร่วมเดินทางไปด้วย  เธอได้รับอนุญาตจากพระสังฆราชนิกายเมลไคท์ในภารกิจเหล่านี้ (เป็นนิกายหนึ่งที่รวมอยู่ในพระศาสนจักรคาทอลิก)

รูปซ้ายได้มาจาก the Polish newspaper ตอนที่เธอไปที่ประเทศโปแลนด์  ส่วนรูปด้านขวา เป็นเวลาที่เธอยังวัยสาวและเริ่มมีประสบการณ์พิเศษ

ปรากฏการณ์บางอย่างที่เกิดกับเธอบางครั้งก็ดูน่ากลัว เช่น มีเลือดไหลจาก”รอยแผล”ที่หน้าผาก  ทำให้เธอเจ็บปวดมาก  เราขอให้คุณพิจารณาเรื่องเหล่านี้อย่างรอบคอบ ทางด้านพระสงฆ์และพระสังฆราชมีท่าทีในทางบวกต่อกรณีของเธอ (แม่พระทรงประจักษ์ในพระนามว่า “แม่พระแห่งโซฟาเนห์  "Our Lady of Soufanieh.")

ถึงแม้มีรนาจะมีประสบการณ์ดังกล่าวซึ่งเป็นเรื่องที่ร้ายแรง  แต่นิสัยของเธอเป็นคนร่าเริง ไม่โอ้อวด  เธออาศัยอยู่ในดามัสกัส ห่างจากสถานที่ซึ่ง น.เปาโลหลบหนีไม่มากนักและใกล้กับสถานที่อันนาเนียสประกอบพิธีล้างบาปให้แก่ เซาโล (ชื่อเดิมของเปาโล)


เราได้รับการบอกเล่าว่า เธอมีประสบการณ์อยู่ในภวังค์ 37 ครั้ง  ห้าครั้งได้รับการประจักษ์  และห้าครั้งได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์

ถึงแม้ระยะเวลาที่รับรอยแผลกินเวลาไม่มากนัก แต่เธอก็รู้สึกเจ็บปวดมากที่รอยแผลนั้น

นิโคลาสเป็นออร์โธดอกซ์และแต่งงานกับมีรนา (ชื่อเต็มคือ Mary Kourbet Al-Akhras แต่เรียกสั้นๆว่า มีรนา)  เขาแต่งงานกับเธอหกเดือนก่อนที่เธอจะมีประสบการณ์ตามที่เล่ามาแล้ว  พวกเขามีลูกสองคน  เขามีฐานะดีในดามัสกัส  แต่กลุ่มก่อการร้าย ISIS ได้เข้ามาทำลายทุกสิ่ง  ร้านขายอัญมณีของเขาต้องปิดตัวลง

            “บริเวณที่อยู่โดยรอบพวกเรานั้นเลวร้ายมาก  แต่ไม่ใช่ที่ดามัสกัน” นิโคลาสเล่าว่า  เมื่อไม่นานมานี้เขาเพิ่งส่งสาส์นที่ภรรยาของเขาได้รับมาให้พวกเรา  ซึ่งเราจะแจ้งให้ทราบเมื่อได้รับการแปลเรียบร้อยแล้ว

มีรนาเล่าว่า พระนางมารีย์ เสด็จมาภายในแสงสว่างซึ่งเหมือนกับแสงสะท้อนของเพชร

ในสาส์นแรกของแม่พระ พระนางตรัสกับมีรนาว่า “ลูกรัก จงระลึกถึงพระเจ้าเสมอเถิด  ลูกรู้ในหลายสิ่ง  แต่ลูกก็ยังไม่รู้อะไรเลย  ความรู้ของลูกไม่สมบูรณ์  วันเวลาจะมาถึงเมื่อลูกจะรู้ทุกสิ่งเหมือนดังเช่นที่พระเป็นเจ้าทรงรู้จักแม่  จงปฏิบัติต่อผู้ที่ทำผิดต่อลูกด้วยความเมตตากรุณาเถิด  อย่าปฏิบัติไม่ดีต่อผู้ใดเลย  แม่ได้ให้น้ำมันแก่ลูกมากกว่าที่ลูกขอ  แม่จะประทานบางอย่างแก่ลูกที่ทรงพลังกว่าน้ำมัน  จงสำนึกผิดกลับใจและจงเชื่อเถิด  จงระลึกถึงแม่ในความร่าเริงยินดีของลูก”

            ตามความเข้าใจของเรา  ความหมายหลักของสาส์นคือการเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคริสตศาสนิกชนต่างนิกาย (คาทอลิก และ ออร์โธดอกซ์) สิ่งที่เราเห็นในปีที่ผ่านมาคือสงครามความวุ่นวายและการสังหารอย่างเหี้ยมโหดในประเทศตะวันออกกลางรวมทั้งในซีเรียด้วย  ทำให้มีความจำเป็นที่ต้องหาทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นอีก  ความปรารถนาของแม่พระซึ่งเกี่ยวกับวันฉลองอิสเตอร์สำหรับคริสตศาสนิกชนนั้นอาจเป็นวิธีการหนึ่งในการป้องกัน  มีรนาได้ร่วมในพิธีฉลองอิสเตอร์สำหรับคริสตศาสนิกชนคาทอลิกและออร์โธดอกซ์ (รวมทั้งมุสลิมด้วย) ซึ่งจัดขึ้นในปี 1984, 1987, 1990, 2001, 2004
               
--------------------------------------




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น