วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ทำไมยูดาสจึงทรยศพระเยซูเจ้า


จากพระวรสารนักบุญมัทธิวบทที่ 26:14-25 ได้เล่าเรื่องการทรยศของยูดาสไว้ดังนี้

คนหนึ่งในบรรดาอัครสาวกสิบสองคน ชื่อ ยูดาส อิสคาริโอท ไปพบบรรดาหัวหน้าสมณะ ถามว่า ถ้าข้าพเจ้ามอบเขาให้ท่าน ท่านจะให้อะไรแก่ข้าพเจ้าบรรดาหัวหน้าสมณะจ่ายเงินสามสิบเหรียญ ให้แก่ยูดาส ตั้งแต่นั้นมา ยูดาสก็หาโอกาสที่จะมอบพระองค์วันแรกของเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ บรรดาศิษย์เข้ามาทูลถามพระเยซูเจ้าว่า พระองค์มีพระประสงค์ให้เราจัดเตรียมการเลี้ยงปัสกาที่ไหน

พระองค์ตรัสว่า จงเข้าไปในกรุง ไปพบชายคนหนึ่ง บอกเขาว่า พระอาจารย์บอกว่าเวลากำหนดของเราใกล้เข้ามาแล้ว เราจะกินปัสกากับศิษย์ของเราที่บ้านของท่านบรรดาศิษย์ก็กระทำตามที่พระเยซูเจ้าทรงบัญชา และจัดเตรียมปัสกา ครั้นถึงเวลาค่ำ พระองค์ประทับร่วมโต๊ะกับศิษย์ทั้งสิบสองคน ขณะที่ทุกคนกำลังกินอาหารพร้อมกับพระเยซูเจ้าอยู่นั้น พระองค์ตรัสว่า เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนหนึ่งในที่นี้จะทรยศต่อเราบรรดาอัครสาวกรู้สึกสลดใจและทูลถามพระองค์ทีละคนว่า เป็นข้าพเจ้าหรือ พระเจ้าข้าพระองค์ตรัสตอบว่า คนที่จิ้มอาหารในชามเดียวกันกับเรานี่แหละ จะทรยศต่อเรา บุตรแห่งมนุษย์จะจากไปตามที่มีเขียนเกี่ยวกับพระองค์ในพระคัมภีร์ วิบัติจงเกิดแก่คนที่ทรยศต่อบุตรแห่งมนุษย์ ถ้าเขาไม่ได้เกิดมาก็จะดีกว่ายูดาสผู้ทรยศต่อพระองค์ ทูลถามว่า เป็นข้าพเจ้าหรือ พระอาจารย์พระองค์ตรัสตอบว่า ใช่แล้ว

----------*********------------

            ทำไมยูดาสจึงทรยศพระเยซูเจ้า  เพราะเขาเป็นคนโลภกระนั้นหรือ?  เรารู้จากพระคัมภีร์ว่า เมื่อหญิงคนหนึ่งใช้น้ำหอมราคาแพงมาชโลมล้างพระบาทของพระเยซูเจ้า  ยูดาสพูดในทำนองว่าทำไมนำน้ำหอมราคาแพงมาทำเช่นนั้น  น่าจะนำไปขายและแจกเงินให้คนจนจะดีกว่า  แต่ที่เขาพูดเช่นนี้เพราะเขาโลภอยากได้เงิน  และเขาเป็นคนถือถุงเงินนั่นเอง

            แน่นอนว่ายูดาสเป็นคนโลภและฉ้อโกง  แต่นี่ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ยูดาสทรยศพระเยซูเจ้า   เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น  ยูดาสจะเอาเงินไปขว้างทิ้งในพระวิหารทำไม? 

และเงินสามสิบเหรียญถือว่าน้อยเกินไปสำหรับค่าตัวของพระเยซูเจ้า ยูดาสไม่ได้ต้องการเงินสามสิบเหรียญ  เพียงแต่ต้องการให้บรรดาสมณะจัดการและจับกุมพระเยซูเจ้าเท่านั้น  จุดประสงค์ของยูดาสคืออะไรกันแน่?

ยูดาสไม่ได้หันหลังและคิดจะละทิ้งพระเยซูเจ้าด้วย  ยูดาสและอัครสาวกคนอื่นซึ่งอยู่กับพระเยซูเจ้าตลอดเวลา  ต่างมีใจตรงกันในเรื่องหนึ่งคือ  พวกเขาแน่ใจว่าพระเยซูเจ้าคือพระเมสสิยาห์ที่เสด็จมาเพื่อกอบกู้ประชากรอิสราแอลให้พ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของโรมัน  ยูดาสและบรรดาศิษย์ได้เห็นพระเยซูเจ้าทรงทำอัศจรรย์หลายครั้ง  เช่นทรงทวีขนมปังเลี้ยงประชาชนห้าพันคน  ทำให้คนตายกลับฟื้นคืนชีพ  รักษาคนตาบอดหูหนวก  คนพิการและอื่นๆอีกมากมาย   ยูดาสและบรรดาศิษย์จึงมีความเชื่อมั่นในพระเยซูเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม และได้ติดตามพระองค์มาตลอด

จุดประสงค์ของยูดาสก็คือ  เขาต้องการให้พระเยซูเจ้าแสดงพระฤทธานุภาพ 

ยูดาสคิดแทนพระเยซูเจ้าว่า  ถ้าหากพระองค์อยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน  พระองค์จะต้องทำอัศจรรย์เพื่อเอาตัวรอด  และนั่นจะเป็นการเรียกร้องความสนใจจากประชาชน  เพราะแม้แต่ทหารและสมณะก็ไม่สามารถทำอะไรพระเยซูเจ้าได้  ประชาชนจะยกพระเยซูเจ้าขึ้นเป็นกษัตริย์  เป็นผู้นำการปลดปล่อยชาติอิสราแอลจากการปกครองของโรมัน  และทำให้ชาติอิสราแอลรุ่งเรืองขึ้นอีกครั้ง  และเวลานั้นเป็นจังหวะที่เหมาะสมที่สุด  เพราะประชาชนกำลังนิยมชมชอบพระเยซูเจ้ามาก  จะเห็นได้จากเวลาที่พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่า  ประชาชนพากันออกมาต้อนรับ  และโห่ร้องว่า "โฮซานนาแด่โอรสของกษัตริย์ดาวิด  โฮซานนาแด่ผู้เสด็จมาในพระนามของพระเจ้า"

ยูดาสทำผิดที่คิดแทนพระเยซูเจ้า  เขาคิดว่าแผนการของเขาดีต่อพระเยซูเจ้า  และดีต่อชาติอิสราแอล  ทุกอย่างเป็นการเมืองสำหรับยูดาส ก่อนหน้านี้ พระเยซูเจ้าไม่เคยแสดงท่าทีเลยว่าต้องการเป็นกษัตริย์ของชาติอิสราแอล  ยูดาสจึงหาทางให้พระเยซูเจ้าเป็นกษัตริย์ให้ได้  
 
เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนหนึ่งในที่นี้จะทรยศต่อเรา

พระเยซูเจ้าทรงเตือนให้ยูดาสรู้ว่า  พระองค์ทรงทราบว่าเขากำลังจะทรยศต่อพระองค์  นี่เป็นการเตือนครั้งแรก  พระวรสารนักบุญยอห์นยังได้เล่าอย่างชัดเจน พระเยซูเจ้าตรัสว่าผู้ที่พระองค์ทรงยื่นอาหารให้นั่นแหละคือผู้ที่ทรยศต่อพระองค์  แล้วพระเยซูเจ้าทรงหยิบอาหารจิ้มในชามและยื่นให้กับยูดาส  นี่ป็นการเตือนครั้งที่สองแก่ยูดาส  แต่จิตใจของยูดาสไม่เปลี่ยนแปลง  เขายังต้องการทำตามแผนการของเขาอยู่ดี

เราลองดูพระวรสารมาระโก จะเห็นประโยคที่ประยุกต์ได้กับทุกคนเช่นกัน พระเยซูเจ้าตรัส.. 1. คนหนึ่งในที่นี้จะทรยศต่อเรา2. คนทรยศกำลังกินอาหารกับเรา3. เป็นคนหนึ่งในสิบสองคนนี้4.คือคนที่กำลังจิ้มอาหารในชามเดียวกันกับเรา

พระเยซูเจ้าตรัสอย่างชัดเจนว่ายูดาสจะทรยศต่อพระองค์  บรรดาอัครสาวกคนอื่นๆก็ได้ยินและรับรู้  แต่ทำไมจึงไม่มีใครสักคนจัดการกับยูดาส  เพื่อไม่ให้เขากระทำการเช่นนั้น  บรรดาอัครสาวกสามารถห้ามปรามยูดาสหรือจับเขาไว้ไม่ให้เขาออกไปข้างนอก  แต่ก็ไม่มีใครทำเลย   เป็นเพราะอะไรหรือ?....อย่าลืมว่าพระเยซูเจ้าตรัสว่ายูดาสจะทรยศต่อพระองค์  แต่พระองค์ไม่ได้บอกว่าจะทรยศเรื่องอะไร  แน่นอนว่าพระเยซูเจ้ารู้ว่ายูดาสจะทรยศโดยขายพระองค์ให้กับพวกสมณะ  แต่อัครสาวกคนอื่นไม่รู้เหมือนที่พระเยซูเจ้าทรงรู้  พวกเขาอาจคิดแต่เพียงว่ายูดาสคงจะขโมยเงิน  เพราะเขาเป็นคนถือถุงเงินและเป็นคนฉ้อโกงอยู่แล้ว  แต่คงไม่กล้าที่จะคิดถึงขนาดว่าจะทรยศขายพระเยซูเจ้าแน่  ดังนั้นอัครสาวกคนอื่นจึงทำเฉยเสีย  เพราะไม่อยากยุ่งนั่นเองเพราะคิดว่าพระเยซูเจ้าเองก็ได้เตือนยูดาสไปแล้ว

พระวรสารนักบุญมัทธิวเล่าว่า เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสว่าจะมีคนทรยศต่อพระองค์  ทำให้อัครสาวกสลดหดหู่ใจ  พากันถามว่าเป็นเขาใช่ไหมและยูดาสก็ถามด้วย  

25ยูดาสผู้ทรยศต่อพระองค์ ทูลถามว่า เป็นข้าพเจ้าหรือ พระอาจารย์พระองค์ตรัสตอบว่า ใช่แล้ว

พระเยซูเจ้าตรัสตอบยูดาสว่าเป็นเขาเองที่จะทรยศต่อพระองค์  พระองค์ตรัสอย่างชัดเจนเช่นนี้  เพื่อเตือนยูดาสอย่างตรงๆเลย  แต่เราก็เห็นแล้วว่ายูดาสก็ยังไม่ยอมกลับใจ 

ยูดาสนำทหารของสมณะมาจับกุมพระเยซูเจ้าด้วยตัวเอง  และยังจูบแก้มพระเยซูเจ้าด้วย  เหมือนกับเขากำลังจะพูดกับพระเยซูเจ้าว่า  “ผมทำอย่างนี้เป็นสิ่งที่ดีต่อพระองค์นะ  ผมรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเมสสิยาห์  พระองค์มีฤทธิอำนาจ  ทหารพวกนี้ทำอะไรพระองค์ไม่ได้หรอก  พระองค์จะได้กลายเป็นกษัตริย์และผู้นำชาวอิสราแอลในครั้งนี้แหละ”

แต่ยูดาสคาดการณ์ผิด  เพราะพระเยซูเจ้าทรงยอมให้ทหารจับกุม   พระองค์ทรงเลือกที่จะยอมรับความทรมานและความตาย

ยูดาสสมควรจะได้รับคำตำหนิจากพระเยซูเจ้า  เหมือนที่เปโตรถูกตำหนิ  พระองค์ตำหนิเปโตรว่า  “เจ้าคิดอย่างมนุษย์  ไม่ได้คิดอย่างพระเจ้า”

เมื่อยูดาสเห็นว่า  พระเยซูเจ้าไม่ได้ทำอัศจรรย์และยอมถูกจับกุมเช่นนี้   เขารู้สึกตัวว่าได้ทำความผิดอย่างร้ายแรงจนให้อภัยไม่ได้   เขาได้ทำให้พระอาจารย์ผู้บริสุทธิ์ถูกจับกุมได้รับความทรมานและความตาย  เป็นความผิดของเขาเอง  เขาไม่อาจให้อภัยตัวเองได้  น่าเสียดายที่ยูดาสอยู่กับพระเยซูเจ้ามาหลายปี  ได้เห็นพระเมตตาของพระองค์ที่ทรงมีต่อคนเจ็บป่วย  คนยากจน  และคนบาป  เห็นพระองค์ทรงให้อภัยบาปแก่คนมากมาย  ยูดาสไม่ได้เรียนรู้ถึงพระเมตตาของพระเยซูเจ้าเลย  ถ้าเพียงแต่ยูดาสจะกลับมาหาพระเยซูเจ้าและขอโทษพระองค์  แน่นอนว่าพระเยซูเจ้าต้องประทานอภัยแก่เขา  จะทรงโอบกอดเขาด้วยความรัก  และเขาจะมีจิตใจที่สงบดังเดิม  แต่ยูดาสไม่ได้ทำเช่นนั้น  เขากลับไปผูกคอตาย.....น่าเศร้าใจจริงๆ....


(อ้างอิงจากบทเทศน์ของคุณพ่อชัยยะ  กิจสวัสดิ์)

-------------------

เราหลายคนก็เคยทำแบบเดียวกับยูดาส  เราดื้อดึงในความคิดเห็นของเรา  เราไม่ฟังคำเตือนของพ่อแม่  ครูอาจารย์ พระสงฆ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระวาจาของพระเจ้าที่ตรัสกับเราผ่านทางพระคัมภีร์  เราเชื่อว่าความคิดของเราดีกว่า  ถ้ายูดาสจะฉุกคิดไตร่ตรองพิจารณาสักนิด  เขาก็อาจจะไม่ทำผิดร้ายแรงเช่นนี้  ยูดาสไม่ฟังคำเตือนของพระอาจารย์  แต่กลับฟังคำยุแหย่แนะนำของปีศาจ....อย่าลืมว่า  ความชั่วร้ายทุกอย่างมีปีศาจอยู่เบื้องหลังเสมอ  ในพระคัมภีร์กล่าวว่า  เมื่อยูดาสรับอาหารจากพระเยซูเจ้าแล้ว  ปีศาจก็เข้าสิงในจิตใจของเขา  ปีศาจไม่ปรากฏตัวให้เห็นและไม่พูดกับยูดาสโดยตรงหรอก  แต่มันซุ่มอยู่เงียบๆคอยปลุกจิตใจให้ยูดาสเห็นดีเห็นชอบในความคิดของเขาเอง และเมื่อยูดาสทำผิดพลาดทรยศพระเยซูเจ้าไปแล้ว  ปีศาจก็ยังคงทำงานของมันต่อ  มันตำหนิยูดาสทำให้จิตใจของยูดาสเป็นทุกข์ , กลัวและสิ้นหวังที่จะพึ่งพระเมตตาของพระเยซูเจ้า  ยูดาสฟังและเชื่อปีศาจจนวินาทีสุดท้าย 
 
หลายคนที่คิดว่ายูดาสว่ามีส่วนที่ทำให้ความทรมาน ความตายของพระเจ้าสำเร็จไป และให้ความสำคัญกับยูดาส จนกระทั่งมีการสร้างสารคดีเรื่อง พระวารสารของยูดาสมีคนบอกว่าถ้าไม่มียูดาส การไถ่กู้ก็จะไม่สำเร็จ  เรื่องนี้อาจมองได้ด้วย 2  มุมมอง  

มุมมองแรกเป็นทางด้านของปีศาจ  ปีศาจมันมีอำนาจและเจ้าเล่ห์มาก  มันเป็นเจ้าแห่งการโกหกหลอกสวง  แต่มันหลอกลวงได้เฉพาะแต่คนที่ยอมฟังและเชื่อมันเท่านั้น เพราะมนุษย์มีจิตใจอิสระที่จะเลือกจะทำหรือไม่ทำก็ได้  ถ้าใครไม่ไปฟังและขับไล่มันไป ปีศาจก็ไม่สามารถทำอะไรได้  กรณีของยูดาส  ปีศาจสามารถหาใครก็ได้มาแทนยูดาส  ถ้าหากยูดาสเกิดกลับใจไม่ทรยศ  ยูดาสจึงไม่ใช่ส่วนสำคัญ  ถึงยูดาสไม่ทำปึศาจก็จะหาคนชั่วคนอื่นทำแทนได้

มุมมองที่สองเป็นทางด้านของพระเป็นเจ้า  ในการไถ่กู้มนุษยชาตินั้น  พระเป็นเจ้าทรงสามารถใช้วิธีการได้หลายวิธี  พระเยซูเจ้าทรงเลือกวิธีการที่ยากที่สุดด้วยการรับความทรมานและความตาย  เพื่อแสดงให้เห็นถึงความนบนอบเชื่อฟังพระบิดาสวรรค์อย่างที่สุด ทรงนบนอบเชื่อฟังจนยอมแม้กระทั่งรับการทรมานและความตายอย่างแสนสาหัส  และแผนการณ์ของพระเป็นเจ้าย่อมประสบผลสำเร็จเสมอ

-----------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น