วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เด็กชายที่ได้พบกับพระเยซูเจ้า “The Boy Who Met Jesus”



เซกาตาสชิยา  เกิดเดือนกรกฏาคม 1967  เขาไม่มีสูติบัตร  พ่อแม่ของเขาก็จำไม่ได้ว่าเขาเกิดวันใดแน่  เขาอาศัยอยู่กับครอบครัวในบ้านพื้นเมืองของราวันดาซึ่งทำด้วยฟาง  ครอบครัวเลี้ยงชีพด้วยการปลูกถั่วในผืนดินของพวกเขา  วันหนึ่งขณะที่เซกาตาสชิยาอายุ 14 ปี กำลังเลี้ยงแพะอยู่   เขาได้ยินเสียงอ่อนหวานเรียกชื่อของเขา

เสียงนั้นพูดว่า “เด็กน้อย  ถ้าเธอได้รับสาส์นสำหรับโลก  เธอจะส่งสาส์นไปให้ทุกคนได้รับรู้ไหม?”

นี่เป็นจุดเริ่มต้นของประสบการณ์จากสวรรค์ที่เซกาตาสชิยาได้เล่าให้ฟัง  บางคนบอกว่าพระเยซูเจ้าทรงใช้วิธีการที่แปลกในการเลือกผู้นำสาส์น  เพราะเด็กชายเป็นคนนอกศาสนาซึ่งไม่รู้จักพระเยซูเจ้าว่าเป็นใคร  เขาไม่เคยเข้าโบสถ์และไม่เคยอ่านพระคัมภีร์  แต่อย่างไรก็ตาม  เด็กเลี้ยงแพะผู้นี้ก็ได้กลายเป็นผู้นำสาส์นของพระเยซูคริสต์  เด็กชายเริ่มต้นประกาศสาส์นแห่งการกลับใจเกือบจะทันที

เด็กชายบอกว่า  พระเยซูเจ้าทรงขอให้มนุษยชาติทั้งหมดกลับใจจากบาปของตน  และให้ดำรงชีวิตด้วยหัวใจที่ขาวสะอาด  เพราะเวลาใกล้จะหมดลงแล้ว

ต่อมาเซกาตาสชิยาได้บ่นต่อพระเยซูเจ้าว่า  ประชาชนจำนวนมากไม่เชื่อในสาส์นที่เขาประกาศไป  พระเยซูเจ้าตรัสกับเขา ให้บอกกับประชาชนเหล่านั้นว่า  พวกเขาควรกังวลใจเกี่ยวกับความเชื่อของตนและให้ทำตามสิ่งที่พระคัมภีร์สอนด้วยจิตใจทั้งสิ้นของพวกเขา  เด็กชายถามพระเยซูเจ้าเกี่ยวกับความแตกต่างทางศาสนา  พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราจะพบหัวใจของทุกคนที่เชื่อในเราและทำตามพระบัญญัติของเรา – ไม่ว่าพวกเขาได้อ่านพระคัมภีร์หรือไม่  หรือพวกเขานับถือศาสนาอะไรก็ตาม –  มันอยู่ที่ความรักของพวกเขา  ไม่ใช่ศาสนาที่พวกเขานับถือ  ที่ทำให้พวกเขาเป็นลูกที่แท้จริงของพระเจ้า ....ไม่มีใครถูกบังคับให้เชื่อในพระเจ้า  แต่พระเป็นเจ้าก็ยังคงอยู่ในหัวใจของมนุษย์ทุกคน”

เรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่เซกาตาสชิยาเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาก็คือเรื่องของ “วาระสุดท้าย” 

เซกาตาสชิยาเล่าว่า  วาระสุดท้ายมีสองมุมมองและมีความหมายสองอย่าง - -

สำหรับแต่ละคน  วาระสุดท้ายคือวันตายของเขา

และสำหรับมนุษยชาติทั้งมวล วาระสุดท้าย คือวันที่พระเยซูเจ้าเสด็จกลับมาครั้งที่สอง

ในเวลาสิ้นวันของแต่ละวัน  แต่ละคนก็เข้าใกล้เวลาที่พวกเขาจะไปพบกับพระเป็นเจ้า  เด็กชายเล่าว่า  พระเยซูเจ้าบอกเขาว่า  ถ้าบุคคลใดมีพระองค์ในหัวใจของเขา  เขาไม่ต้องกลัวเมื่อใกล้วันตายของเขา  เพราะพระเยซูเจ้าจะทรงอยู่กับเขา

สำหรับผู้ที่ได้อ่านพระคัมภีร์วิวรณ์แล้ว  ก็จะรู้ว่าวาระสุดท้ายจะเต็มไปด้วยความโกลาหลและการประจญทดลอง  เซกาตาสชิยาบอกว่า พระเยซูเจ้าทรงบอกให้เขาพูดกับประชาชนว่า  จงอย่ากลัว  แต่ให้มีความเชื่อ  เพราะผู้ที่รักพระเป็นเจ้าและทำความดีจะได้ไปสวรรค์กับเราและจะไม่มีการประจญทดลองอีกเลย  แต่รีบเร่งเข้าเถิด  เพราะมีเวลาเหลืออยู่น้อยแล้ว”

เด็กชายเล่าว่า พระเยซูเจ้ายังได้ตรัสอีกว่า  “ลูกจะรู้ว่าการกลับมาของเราอยู่ใกล้แล้ว  เมื่อลูกเห็นสงครามเกิดขึ้นระหว่างศาสนาที่แตกต่างกัน...สงครามเกิดขึ้นเพราะมีหลายคนบอกว่าพวกเขามีความรัก  แต่แท้จริงพวกเขาไม่มีความรักในหัวใจต่อพระเป็นเจ้าหรือต่อเพื่อนมนุษย์เลย....บาปของมนุษย์จะเกิดขึ้นมากมายและยิ่งใหญ่จนทำให้บังเกิดความทุกข์ยากแสนสาหัส....โลกจะจบสิ้นลงโดยไม่มีมนุษย์เหลืออยู่เลย  ด้วยความทุกข์ยากทั้งมวลและความสาหัสที่เกิดในวาระสุดท้าย - ความเศร้าโศกทั้งหลายเหล่านั้นจะนำไปสู่การล่มสลายของโลกอันเนื่องมาจากบาปของมนุษยชาติ”

เซกาตาสชิยาเล่าว่า  พระเยซูเจ้าทรงเตือนเขาเกี่ยวกับการหลอกลวงของซาตาน  “ในระหว่างเวลาของวาระสุดท้าย  ซาตานจะทำทุกอย่างที่มันสามารถทำได้ในการเบี่ยงเบนมนุษย์ให้ออกนอกทางแห่งความจริงของเราและนำมนุษยชาติให้ออกห่างจากวิถีทางไปสู่สวรรค์  จะมีมนุษย์บางคนที่ทำงานให้กับซาตานในวันเหล่านั้น  เขาจะบอกคนทั้งหลายว่าความแตกต่างระหว่างพระเป็นเจ้าและซาตานนั้นไม่เป็นสิ่งสำคัญ   เขาจะบอกว่าพระเป็นเจ้าและซาตานเป็นพี่น้องกัน...จงอย่าไปเชื่อ...จงเชื่อแต่พระวาจาของพระเป็นเจ้าเท่านั้นซึ่งลูกจะพบในพระคัมภีร์....จงอย่าวางใจผู้ใดที่จะมาและบอกว่าเขาคือพระเยซูคริสต์....จงมีความเชื่อในเราผู้เดียว  และเรียกหาเราในการสวดภาวนา  ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ใด  เราจะพบลูกเสมอ”

คำเตือนสุดท้ายก็คือ  “ซาตานจะมาสู่ประชาชาติที่ประสบหายนะภัย  ความแห้งแล้ว  ความขาดแคลน  มันจะมาพร้อมด้วยอาหารมากมาย  แต่มันต้องการจะได้รับการนมัสการเป็นการตอบแทน....จงอย่ารับของจากมัน  อย่ากินอาหารนั้น (เพราะมันจะเป็นพิษต่อวิญญาณ)....จงสวดภาวนาต่อเราแล้วเราจะคอยประคับประคองลูก”


เรื่องราวที่เล่ามานี้นำมาจากหนังสือชื่อ “The Boy Who Met Jesus” ซึ่งเขียนโดย อิมมาคูลี  อิลลีบากิซา  Immaculee Ilibagiza(ผู้เขียนหนังสือ “ถ้าเพียงแต่เรารับฟัง” และถูกนำมาทำเป็นสารคดี  - ดูได้จากเว็ปบล็อกนี้) 
เซกาตาสชิยาถูกฆาตกรรมจนเสียชีวิตในระหว่างการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ของราวันดา

------------------------
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น