อาจกล่าวได้ว่าการล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์มีจุดเริ่มต้นจากการที่พระอัครสังฆราชแห่งกรุงคราคอฟพระคาร์ดินัลคาโรล
วอยติวา ของประเทศโปแลนด์ได้รับเลือกให้เป็นพระสันตะปาปาที่ทรงพระนามว่า พระสันตะปาปายอห์นปอลที่
2 พระองค์ได้เป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวโปแลนด์
ทำให้ประชาชนมีความหวังขึ้นใหม่
และมีความกล้าหาญไม่กลัวต่ออำนาจของรัฐบาลเผด็จการคอมมิวนิสต์ พระองค์ตรัสแก่ประชาชนขณะที่ทรงเยือนโปแลนด์ว่า
“จงอย่ากลัว”
เป็นพระเป็นเจ้าและพระแม่มารีย์เอง ที่ทรงหลั่งพระหรรษทานแห่งความกล้าหาญมาให้แก่ประชาชน โดยทรงเลือกพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2ให้เป็นผู้แทนของพระองค์บนโลกนี้
ดังที่นักบุญโฟสตินาได้บันทึกพระวาจาของพระเยซูเจ้าไว้ว่า “เรามีความรักต่อประเทศโปแลนด์เป็นพิเศษ
และถ้าประชาชนเชื่อฟังและทำตามพระประสงค์ของเรา
เราจะยกย่องประเทศนี้ในความศักดิ์สิทธิ์และด้วยอานุภาพ จากประเทศนี้จะมีแสงสว่างเจิดจ้าส่องมาซึ่งจะเป็นการเตรียมโลกสำหรับการกลับมาครั้งสุดท้ายของเรา"
พระสันตปาปายอห์น ปอลที่ 2ในกรุงคาคอฟ Cracow ปี 1979
พระสันตปาปายอห์น ปอลที่ 2
วันที่ 16
ตุลาคม 1978 Karol Wojtyla พระอัครสังฆราชแห่ง Krakow ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปา ข่าวคราวการได้รับเลือกครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในโปแลนด์
และถูกมองว่าเป็นรางวัลซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำหรับความอัปยศของชาติและการข่มเหงรังแกคริสตจักรที่ดำเนินมาหลายทศวรรษ
ในเดือนมิถุนายน 1979
พระสันตะปาปาได้เดินทางมาเยี่ยมโปแลนด์ด้วยบทบาทใหม่นี้เป็นครั้งแรก
มีผู้สนับสนุนชาวโปแลนด์หลายล้านคนเดินทางมาเพื่อเข้าร่วมพิธีทางศาสนาที่ยิ่งใหญ่
ซึ่งไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความศรัทธา
แต่ยังเป็นโอกาสที่จะแสดงถึงความปรารถนาที่จะดำรงชีวิตในประเทศที่มีอิสรเสรีภาพอีกด้วย
พระสันตปาปายอห์นปอลที่2
ทรงประกอบพิธีมิสซาที่จัตุรัสในกรุงวอร์ซอร์ของโปแลนด์ สมัยที่ยังอยู่ภายใต้ระบอบคอมมิวนิสต์ พระองค์ตรัสเทศน์เกี่ยวกับพระเป็นเจ้า เสรีภาพ และสิทธิมนุษยชน
แล้วประชาชนทุกคนที่อยู่ในจัตุรัสต่างพากันร้องตะโกนว่า เราต้องการพระเจ้า เราต้องการพระเจ้า ๆ ๆ ๆ
....ภายหลังจากการเสด็จเยือนโปแลนด์ครั้งนั้น
อาณาจักรคอมมิวนิสต์ของโซเวียตรัสเซียและโปแลนด์ก็เริ่มต้นส่อเค้าของการล่มสลาย
วันที่ 14 สิงหาคม 1980: การประท้วงที่อู่ต่อเรือ V.
Lenin ใน Gdansk เริ่มต้นขึ้น
ขบวนการโซลิดาลิตี้Solidarnosc
ในเดือนสิงหาคม
1980 ที่อู่ต่อเรือเลนิน V. Lenin ในเมืองกดังส์ก
Gdansk คนงานของอู่ต่อเรือดังกล่าวทำการประท้วงโดยแสดงสัญลักษณ์ของโซลิดาริตี้พร้อมด้วยเพื่อนร่วมงานสองคนที่ถูกไล่ออกจากงานคือ:
Anna Walentynowicz และ Lech Walesa และทำให้กลุ่มโซลาดิลิตี้ (Solidarnosc) ถือกำเนิดขึ้นจาก การหยุดงานประท้วงทั่วประเทศครั้งนั้น มีนายเล็ก วาเลซ่า
Lech Walesa เป็นหัวหน้ากลุ่ม
รัฐบาลโปแลนด์ซี่งมีพลเอก วอยเชค ยารูเซลสกี
ผู้นำคอมมิวนิสต์คนสุดท้ายในประวัติศาสตร์ของโปแลนด์ (เขาเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยเมื่อปี
1989 ซึ่งได้ถึงแก่กรรมลงแล้วเมื่อวันอาทิตย์ในวัย 90
ปี หลังล้มป่วยมายาวนาน) เริ่มปฏิบัติการโจมตีกลุ่มโซลาดิลิตี้ในทันที
มีการจับกลุ่มแกนนำสำคัญ หนึ่งในนั้นคือคุณพ่อเยอร์ซี่ ปอเปียววูสซ์คอ Bl.
Jerzy Popieluszko ท่านเป็นผู้แนะนำด้านจิตวิญญาณของกลุ่มโซลิดาริตี
ท่านถูกทหารลักพาตัวไปทรมานจนเสียชีวิต
การจัดพิธีทางศาสนาเพื่อเฉลิมฉลองที่อู่ต่อเรือที่มีการหยุดงานประท้วง
โดยคุณพ่อเยอร์ซี่ ปอเปียววูสซ์คอ เป็นประธาน
Anna Walentynowicz พูดคุยกับ ครอบครัวของผู้ประท้วง Walentynowicz
เป็น
นักเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิ์ของแรงงานและได้ก่อตั้งสหภาพแรงงานอิสระที่ผิดกฎหมายในปี
1978 (WZZ)
ข้อเรียกร้อง 21 ข้อ
โรงงานผลิตอื่นๆ
ที่เข้าร่วมในการหยุดงานประท้วง มีการจัดตั้งคณะกรรมการจากตัวแทนที่มาจาก Gdansk และเมืองที่อยู่ใกล้เคียง ผู้ประท้วงต้องการเจรจากับรัฐบาลคอมมิวนิสต์เกี่ยวกับ
เงื่อนไขในการหยุดการประท้วง คณะกรรมการร่างข้อเรียกร้อง
21 ข้อ ซึ่งกำหนดเงื่อนไขทั้งหมดโดยสมบูรณ์
ในที่สุดรัฐบาลก็ยอมรับที่จะเข้าสู่การเจรจากับผู้ประท้วง
ข้อเรียกร้อง 21 ข้อ
ข้อเรียกร้องจำนวน 21
ข้อของคณะกรรมการการหยุดงานประท้วงระหว่างโรงงานของอู่ต่อเรือ Vladimir
Lenin ใน Gdańsk (วันที่ 17 สิงหาคม
1980)
1.
การยอมรับสหภาพแรงงานที่เป็นอิสระโดยไม่ขึ้นอยู่กับพรรคคอมมิวนิสต์และบริษัทผู้ประกอบการ
โดยเป็นไปตามข้อตกลงฉบับที่ 87
ขององค์กรแรงงานระหว่างประเทศในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ์ในการก่อตั้งสหภาพแรงงานที่เป็นอิสระ
2.
การรับรองสิทธิ์ในการหยุดงานประท้วงและความปลอดภัยของผู้ประท้วงรวมทั้งผู้ที่สนับสนุน
3. การปฏิบัติโดยสอดคล้องกับการรับรองในรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับเสรีภาพในการพูด
สื่อและสิ่งพิมพ์ รวมทั้งเสรีภาพของสำนักพิมพ์ที่เป็นอิสระ
และความพร้อมใช้งานสื่อขนาดใหญ่เพื่อแสดงถึงความสุจริตใจ
4. การคืนสิทธิ์ตามที่เคยมีในอดีตกลับไปให้:
ก) ผู้คนที่ถูกไล่ออกจากงานหลังการหยุดงานประท้วงในช่วงทศวรรษ 1970
และ 1976 นักศึกษาที่ถูกไล่ออกเนื่องจากทัศนคติของตน (...)
5.
ความพร้อมใช้งานสื่อข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อเผยแพร่เกี่ยวกับการจัดตั้งคณะกรรมการการหยุดงานประท้วงระหว่างโรงงานและการเผยแพร่ข้อเรียกร้องของคณะกรรมการดังกล่าว
(...)
9. การเพิ่มเงินค่าจ้างโดยอัตโนมัติซึ่งได้รับการรับรองโดยมีหลักการพื้นฐานจากการเพิ่มขึ้นของราคาและการลดลงในรายได้ที่แท้จริง
(...)
12. การเลือกบุคลากรด้านการจัดการโดยมีหลักการพื้ันฐานจากคุณสมบัติ
ไม่ใช่การเป็นสมาชิกพรรค สิทธิพิเศษของหน่วยตำรวจรักษาความมั่นคง ตำรวจทั่วไป
และกลไกต่างๆ ของพรรคการเมืองจะต้องถูกกำจัด
ตัวแทนจากโรงงานที่หยุดงานประท้วงกำลังฟังผู้เจรจาต่อรอง
วันที่ 31 สิงหาคม 1980 การหยุดงานประท้วงมาถึงจุดสิ้นสุด
อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลยอมเจรจาและทำสัญญาด้วย มิได้หมายความว่ารัฐบาลยอมแพ้ นี่เป็นเพียงชัยชนะขั้นแรกของกรรมกรโปแลนด์เท่านั้น รัฐบาลคอมมิวนิสต์ยังปกครองประเทศและยอมอ่อนข้อให้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ต่อจากนี้ไปรัฐบาลจะปฏิบัติการที่โหดร้ายมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น