วันอาทิตย์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2560

ประวัติวันฉลองเทิดทูนไม้กางเขนและไม้กางเขนแท้ของพระเยซูเจ้า


"กางเขนแท้ที่พระเยซูถูกตรึงนั้นถูกค้นพบโดยจักรพรรดินีเฮเลนา พระบรมราชชนนีของจักรพรรดิคอนสแตนติน ซึ่งเมื่อทำการพิสูจน์หากางเขนแท้จริงได้แล้ว พระนางก็ทรงทำการแบ่งไม้กางเขนบางส่วนไว้ยังกรุงเยรูซาเล็ม และบางส่วนก็ทรงนำกลับไปยังกรุงคอนสแตนติโนเปิลพร้อมด้วยตะปูตรึงพระเยซูเจ้าทั้งสี่อัน...."

หลังจากที่จักรพรรดินีเฮเลนาค้นพบไม้กางเขนของพระเยซูจริงๆแล้ว แม้จะมีนักบุญบางองค์ดูจะไม่ค่อยเชื่อนักเช่นนักบุญแอมโบสแห่งมิลานหรืออย่างนักบุญจอห์น คริสซอสตอม แต่ท้ายที่สุดกางเขนก็ได้ถูกพิสูจน์ด้วยเรื่องเล่าที่เป็นตำนานและต่อมาวัดแห่งพระคูหาศักดิ์สิทธิ์(Church of the Holy Sepulchre)ก็ได้ถูกสร้างขึ้นในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน

นักบุญบางองค์อย่างนักบุญไซริลแห่งเยรูซาเล็ม(คนละองค์กับไซริลแห่งอเล็กซานเรีย)ก็ได้ยืนยันเรื่องนี้บ้างในบางส่วนโดยท่านเคยเขียนจดหมายว่า

"พระองค์ทรงถูกตรึงกางเขนเพื่อบาปของเราอย่างแท้จริง เพราะถ้าท่านปฏิเสธความจริงของเรื่องนี้ สถานที่แห่งนั้นจะให้ข้อพิสูจน์ที่หักล้างความคิดของท่านอย่างชัดเจน ที่กอลโกธา สถานที่อันเปี่ยมด้วยพระพร ที่ซึ่งเรามาชุมนุมกันเพื่อเห็นแก่พระองค์ผู้ทรงถูกตรึงกางเขน และโลกทั้งโลกก็เต็มไปด้วยชิ้นส่วนของไม้กางเขนตั้งแต่นั้นมา"

จากนั้นไม้กางเขนก็ถูกแบ่งออกไปบางส่วนยังคงอยู่ที่เยรูซาเล็ม บางส่วนไปที่คอนสแตนติโนเปิลและโรม

ในปีค.ศ.614 ช่วงนั้นจักรวรรดิไบแซนไทน์กำลังทำสงครามกับจักรวรรดิซาสซานิดแห่งเปอร์เซีย ช่วงรัชสมัยของจักรพรรดิเฮราคลิอุส(Heraclius)แห่งไบแซนไทน์กับพระเจ้าชาห์ คอสโรว์ที่ 2(Khosrow II หรือ Chosroes II ) แห่งจักรวรรดิซาสซานิด สงครามครั้งนั้นเป็นอะไรที่ยุ่งเหยิงพอสมควร เพราะแบ่งเป็นหลายฝ่าย มีการก่อกบฏและการศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

             ในปีนั้นเองจักรวรรดิซาสซานิดได้เข้าบุกยึดกรุงเยรูซาเล็มได้สำเร็จ กล่าวกันว่าชาวยิวในขณะนั้นเป็นฝ่ายสนับสนุนช่วยจักรวรรดิซาสซานิดในการโจมตี โดยหลังจากจักรวรรดิซาสซานิดเข้าครองเยรูซาเล็มนั้น วัดและโบสถ์หลายแห่งถูกเผา ทรัพย์สินจำนวนมากถูกนำไปยังเปอร์เซียโดยหนึ่งในสมบัติอันล้ำค่าที่สุดก็คือ "ไม้กางเขนแท้ของพระเยซู"นั่นเอง สิ่งนี้ก็ถูกนำไปเปอร์เซียพร้อมสมบัติและเชลยอีกมากมาย หนึ่งในเชลยที่ถูกจับไปนั้นคือ พระอัยกาแซคชาริอัสแห่งเยรูซาเล็ม(Zacharias, Patriarch of Jerusalem) จัดได้ว่าเป็นหายนะครั้งใหญ่สำหรับคริสตชนในยุคนั้นเลยทีเดียว

จนกระทั่งค.ศ.628 หลังจากติดพันกับสงครามในแนวรบอื่นมานาน ในที่สุดจักรพรรดิเฮราคลิอุสได้ทำการโจมตีเปอร์เซียและชิงกางเขนแท้นี้กลับมาได้และนำไปไว้ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล ก่อนจะนำกลับไปกรุงเยรูซาเล็มอย่างเดิม ซึ่งรวมไปถึงเชลยที่ถูกจับตัวไปอย่างพระอัยกาแซคชาริอัส ก็ได้กลับมาสู่กรุงเยรูซาเล็มอีกครั้งหนึ่งเช่นกัน

วันฉลองเทิดทูนไม้กางเขนจะมีขึ้นในวันที่ 14 กันยายน ของทุกปี เป็นการฉลองรำลึกหลายเหตุการณ์ทั้งจักรพรรดินีเฮเลนาค้นพบไม้กางเขน จักรพรรดิคอนสแตนตินสร้างวัดแห่งพระคูหาศักดิ์สิทธิ์บนเนินเขาคัลวารีหรือกอลโกธา ที่ๆพระเยซูถูกตรึงกางเขน วัดนั้นถูกอุทิศถวายในวันที่ 13 และ 14 กันยายนและหลังจากนั้นไม่นานวันฉลองเทิดทูนไม้กางเขนก็ได้เริ่มขึ้น การฉลองเริ่มแพร่จากกรุงเยรูซาเล็มไปที่อื่นๆอย่างช้าๆจนต่อมาการฉลองนี้ก็ฉลองกันเป็นสากล

ในพิธีกรรมของชาวกอลลิกของศตวรรษที่ 8 มีวันฉลองเทิดทูนไม้กางเขนอีกวันหนึ่ง คือวันที่ 3 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันที่จักรพรรดิเฮราคลิอุสนำกางเขนแท้กลับมาจากเปอร์เซียได้ วันฉลองอีกวันหนึ่งนี้ได้ถูกนำเข้ามาไปในปฏิทินพิธีกรรมของโรมันคาทอลิก แต่ในปี ค.ศ.1960 วันฉลองเทิดทูนไม้กางเขนในวันที่ 3 พฤษภาคม ถูกนำออกจากปฏิทินโรมันคาทอลิกโดยพระสันตะปาปายอห์นที่ 23 และจะฉลองวันที่ 14 กันยายน

มีการฉลองเทิดทูนไม้กางเขนในศาสนจักรคาทอลิก อีสเทิร์นและออเรียนทัลออร์โธด็อกซ์หลายศาสนจักร รวมไปถึงโปรเตสแตนต์บางนิกายก็เช่นกัน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น