พระคัมภีร์และคำสอนของพระศาสนจักร
รวมทั้งข้อเขียนของบรรดาปิตาจารย์และนักปราชญ์ได้ยืนยันว่า
ซาตานและปีศาจมีอยู่จริง ดร.ปอล ทิกเพน Dr. Paul Thigpen ได้เขียนหนังสือ Saints Who Battled Satan เล่าเรื่องของนักบุญชายและหญิง
17 องค์ที่ต่อสู้กับปีศาจ
เพื่อเป็นการให้ความรู้และให้กำลังใจแก่คริสตชนในปัจจุบันนี้
เว็ปไซต์ Aleteiaได้สัมภาษณ์
ดร. ปอลเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้
*****
Zoe Romanowsky: คุณใช้วิธีใดในการเลือกนักบุญเพื่อเล่าเรื่องการต่อสู้กับปีศาจของท่านเหล่านั้น?
ปอล – ไม่ใช่เรื่องง่าย
มีหลายปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณา ประการแรก
ผมต้องการให้มีนักบุญที่มาจากหลากหลายวัฒนธรรม นักบุญที่ผมเลือกมาจากเอเชีย
อัฟริกา ยุโรป อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้
พวกท่านเป็นตัวแทนของช่วงเวลาต่างๆ ยกเว้นในศตวรรษนี้คือศตวรรษที่ 21
ประการที่สอง ผมต้องการให้ผู้อ่านรู้จักกับมนุษย์ชายหญิงที่แท้จริงที่มีประสบการณ์ทั้งที่ธรรมดาและที่พิเศษกับผีปีศาจ
เพื่อที่จะได้รู้อย่างชัดเจนถึงการล่อลวงของปีศาจ
ผมยังต้องการให้ผู้อ่านได้รู้ถึงวิธีที่นักบุญใช้อาวุธฝ่ายจิตจัดการกับการล่อลวงอย่างไร
เช่นการสวดภาวนา พระคัมภีร์ ศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
นักบุญได้ใช้สิ่งเหล่านี้เป็นดังเกราะป้องกันและพวกท่านไว้วางใจในความช่วยเหลือของพระเยซูเจ้าในการต่อสู้กับการล่อลวงนั้นๆ
และยังมีแม่พระ บรรดาเทวดาในสวรรค์
บรรดานักบุญที่อยู่ในสวรรค์ที่คอยช่วยเหลือคริสตชนที่ยังอยู่ในโลกนี้อีกด้วย
ประการสุดท้ายก็คือ ชีวประวัติที่สามารถค้นหาได้ของนักบุญที่เผยให้เห็นถึงการต่อสู้ฝ่ายจิต สำหรับนักบุญแต่ละองค์
ผมต้องค้นหาข้อมูลให้มากที่สุด
Zoe Romanowsky:
ซาตานล่อลวงมนุษย์เราด้วยวิธีใด?
ปอล – การล่อลวงมาจากภายนอกตัวเรา
มันมาสู่เราด้วยประสาทสัมผัสต่างๆ จากการมองเห็น
การอ่าน หรือการฟัง
แต่ปีศาจไม่มีร่างกาย
ดังนั้นมันจึงสื่อสารกับจิตใจของเราโดยตรงโดยอาศัยประสาทสัมผัส นี่เป็นยุทธวิธีจู่โจม เพราะถ้าเราไม่รู้ตัว เราก็อาจคิดว่าสิ่งที่มาอยู่ในความคิดของเรานั้นเป็นความคิดของเราเอง และเราก็เข้าใจว่าเราเป็นเจ้าของความคิดนั้นเอง
ซาตานพยายามมีอิทธิพลเหนือเราโดยผ่านทางการหลอกลวง การตำหนิกล่าวหา จากความสงสัย
(โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงสัยในพระเจ้าและความรักของพระองค์ที่มีต่อเรา) จากความยั่วยวน (หยิ่งจองหอง ความโกรธ
ความลุ่มหลง ความผิดหวัง และอื่นๆ) และจากราคะต่างๆ (ความปรารถนาในสิ่งที่ไม่ดี
สิ่งที่ต้องห้าม
หรือแม้แต่ปรารถนาในสิ่งที่ดีแต่ด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง)
Zoe Romanowsky: มีนักบุญองค์ใดที่ใช้วิธีที่แปลกๆในการต่อสู้กับซาตานหรือไม่?
ปอล – มีวันหนึ่ง
ปีศาจพยายามล่อลวง น.เบเนดิกต์ให้เกิดความลุ่มหลง
มันทำให้ท่านคิดถึงสตรีผู้หนึ่งที่ท่านรู้จักซึ่งสวยงาม
ความทรงจำเริ่มเกาะกุมหัวใจของท่าน
น.เบเนดิกต์เกือบจะพ่ายแพ้ต่อการล่อลวงนั้น
แต่บังเอิญท่านเหลือบไปเห็นพุ่มไม้ที่มีหนามแหลมคมที่อยู่ใกล้ๆ
ท่านจึงทุ่มตัวเองลงไปเกลือกกลิ้งในพุ่มไม้นั้นทำให้ท่านเจ็บปวดมากและการประจญล่อลวงนั้นก็หายไป
Zoe Romanowsky: มีนักบุญองค์ไหนบ้างที่เราสามารถวอนขอความช่วยเหลือจากท่านได้เพื่อให้รอดพ้นจากการประจญล่อลวงของปีศาจ?
ปอล – ธรรมเนียมนิยมของคาทอลิกจะวอนขอความช่วยเหลือจากนักบุญผู้ที่ต่อสู้กับการประจญแบบเดียวกับของเรา ในกรณีของการล่อลวงให้ลุ่มหลง
ผมเลือกนักบุญเบเนดิกต์ สำหรับความโกรธ
ผมเลือกนักบุญเจโรม
สำหรับความรักในศักดิ์ศรีที่ไร้สาระ – นักบุญอิกนาตุส โลยาลา สำหรับการหมดกำลังใจ – น.
เทเรซาแห่งอาวิลลา สำหรับความสิ้นหวัง –
น. ปีโอ และอื่นๆ
Zoe Romanowsky: คุณธรรมที่สำคัญที่สุดในการทำให้ปีศาจหนีไปคืออะไร?และจะใช้มันอย่างไรเพื่อปกป้องตัวเราเอง?
ปอล – มีผู้ให้คำแนะนำฝ่ายจิตแก่คริสตชนซึ่งกล่าวว่า
ความถ่อมตนเป็นพื้นฐานของคุณธรรมทั้งปวง
และเป็นพื้นดินที่ทำให้คุณธรรมอื่นเจริญงอกงามได้
ดังนั้นผมคิดว่าคุณธรรมความถ่อมตนเป็นคุณธรรมที่สำคัญที่สุด
มีตัวอย่างหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นว่าความถ่อมตนช่วยปกป้องเราจากการล่อลวงของปีศาจ มีนักพรตท่านหนึ่งในทะเลทรายผู้เป็นปิตาจารย์ของพระศาสนจักรในสมัยก่อน ท่านเป็นนักพรตที่ถ่อมตนมาก ขณะที่ท่านกำลังอาศัยอยูในห้องเล็กๆเพื่อสวดภาวนา
ปีศาจก็ปรากฏแก่ท่านในลักษณะของเทวดาแห่งแสงสว่างเพื่อล่อลวงให้ท่านเกิดความหยิ่งจองหอง มันประกาศว่า “เราคืออัครเทวดากาเบรียล
และเราถูกส่งมาหาท่าน”
แต่นักพรตผู้ถ่อมตนผู้นั้นไม่ยอมให้ถูกหลอกได้ ท่านตอบมันอย่างเรียบง่ายว่า
“ตรวจสอบให้แน่นอนเสียก่อนเถิด ท่านถูกส่งให้ไปหาคนอื่นต่างหาก ข้าพเจ้าไม่มีค่าอันใดที่เทวดาจะถูกส่งให้มาหาหรอก”
เจ้าปีศาจจึงหายตัวไป มันพ่ายแพ้ต่อความถ่อมตนของนักพรตท่านนั้น
Zoe Romanowsky: ทำไมซาตานจึงล่อลวงบางคนมากกว่าคนอื่น?
ปอล – เจ้าปีศาจกลัวว่าบางคนอาจทำความเสียหายแก่อาณาจักรของมันมากกว่าคนอื่น มันจึงไปหาคนๆนั้นด้วยความโกรธเกรี้ยว เมื่อนักบุญแอนโทนี่ประสงค์จะไปอยู่ในทะเลทรายในฐานะฤาษี
เมื่อนักบุญแคทเธอรีนถวายตนเองแด่พระกุมารเยซู
และเมื่อคุณพ่อปีโอเริ่มเข้าสู่คณะกาปูชิน
นั่นเป็นเวลาที่ศัตรูของวิญญาณพยายามทุกวิถีทางที่จะหยุดยั้งนักบุญเหล่านั้น มันรู้ว่าถ้ามันสามารถหยุดยั้งบุคคลเหล่านั้นได้ มันจะสามารถทำลายแผนการณ์อันยิ่งใหญ่ที่พระเป็นเจ้าทรงมอบหมายให้บุคคลนั้นกระทำได้
แต่ขอให้สบายใจเถอะ
ผมคิดว่าถ้าปีศาจพยายามต่อต้านเราเต็มที่
บางทีนั่นอาจแสดงว่าพระเป็นเจ้าทรงมีแผนการณ์ยิ่งใหญ่ที่จะใช้เราก็ได้
เราต้องจำคำพูดของน. ยอห์น เวียนเนย์ที่ว่า “ความเลวร้ายที่ใหญ่ที่สุดของการถูกประจญล่อลวงก็คือปีศาจมองเราเหมือนเป็นทรัพย์สินของมัน”
Zoe Romanowsky: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งใดมาจากปีศาจและสิ่งใดไม่ใช่? เราจะปกป้องตัวเราเองจากความวิตกกังวลว่าจะถูกล่อลวงได้อย่างไร?
ปอล – พระคัมภีร์บอกเราให้ทำสงครามต่อสู้กับโลก เนื้อหนัง และปีศาจ (ยก. 4:1-7)
เป็นความจริงที่ว่าการต่อสู้กับเนื้อหนังและโลกอาจมาจากการล่อลวงของปีศาจโดยตรงหรือไม่ใช่ก็ได้ แต่ปีศาจพยายามที่จะใช้ความได้เปรียบจากความพยายามในการต่อสู้ของเรานั้น
ดังนั้นเราจึงต้องระวังตัวตระหนักรู้ถึงความเคลื่อนไหวของมัน
เราต้องรู้ถึงที่มาความเคลื่อนไหวของความคิดของเราและรู้วิธีที่จะสู้รบเพื่อเอาชนะมัน
ความมีวินัยฝ่ายจิตซึ่งพระศาสนจักรสั่งสอนนั้นช่วยเราได้มาก นั่นก็คือ การสวดภาวนาอย่างสม่ำเสมอ การร่วมพิธีมิสซา รับศีลมหาสนิท
และการรับศีลอภัยบาป
การศึกษาพระคัมภีร์และขอคำแนะนำจากผู้รู้ที่ไว้ใจได้
ผมยังสังเกตเห็นแบบแผนชีวิตของบรรดานักบุญอย่างหนึ่ง นั่นคือพวกท่านไม่วิตกกังวลเกี่ยวกับศัตรู พวกท่านรักษาความมั่นคงและความกล้าในจิตใจ
ดังที่ น. ยอห์นบอกกับเราว่า
พระเจ้าผู้ทรงอยู่ในตัวเรายิ่งใหญ่กว่าปีศาจซึ่งอยู่ในโลก (1 ยน. 4:4)
นักบุญระวังตัวจากการล่อลวงของปีศาจ แต่ท่านก็ไม่วิตกกังวลมากจนเกินไป พวกท่านรู้ว่าปีศาจจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้
ถึงแม้นักบุญจะต่อสู้กับปีศาจอย่างดุเดือด
นักบุญบางท่านก็ยังตั้งชื่อเล่นให้กับจิตที่ชั่วร้ายเหล่านั้นด้วยเพื่อเป็นการทรมานและเยาะเย้ยมัน น.คัทรีนตั้งชื่อให้ปีศาจว่า “นักล้วงกระเป๋า”
(เพราะมันาพยายามขโมยวิญญาณ) น.ปีโอ
เรียกปีศาจว่า “ogre” (อสูรกายตัวตลก) น.เกมม่า
เรียกมันว่า “grappin” (นักงัดข้อ)
Zoe Romanowsky: คุณคิดว่ามีวิธีใดที่จะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าซาตานมีอยู่จริงและมันกำลังทำงานของมันในโลกนี้?
ปอล – เมื่อพูดกับปุถุชนคนธรรมดา ผมจะรวบรวมหลักฐานต่างๆในประวัติศาสตร์ที่จะยืนยันความจริงในเรื่องนี้ คนในโลกที่มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมากมายต่างก็ยืนยันว่ามีจิตที่ชั่วร้ายอยู่จริง
ถึงแม้บางทีพวกเขาอาจไม่เชื่อในจิตที่ชั่วร้ายบางอย่าง
คนจำนวนมากในยุคสมัยนี้เป็นคนที่ยึดถือเหตุผลและมีความฉลาด
และในจิตใจของพวกเขาก็รู้สึกรับรู้ว่ามีพลังอำนาจของปีศาจอยู่ในโลก
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า
ความเจ็บป่วยทางจิตและทางร่างกายบางอย่างมีความเกี่ยวข้องกับผีปีศาจ ในปัจจุบันนี้ก็เหมือนกับในอดีต ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าการทำไสยศาสตร์และเวทมนตร์มีอยู่ดาษดื่นในโลก ปีศาจนั้นมีอยู่จริงถึงแม้จะมองไม่เห็นมันโดยตรง แต่นั่นไม่ได้แสดงว่าปีศาจไม่มีอยู่
คนที่เชื่อยากอาจต้องการ “หลักฐานทางวิทยาศาสตร์”
แต่นักวิทยาศาสตร์จะใช้มาตรวัดอะไรเพื่อตรวจวัดปีศาจได้ล่ะ? วิทยาศาสตร์ธรรมชาติสามารถวัดเวลา วัตถุ
พลังงาน และการเคลื่อนไหวได้ วิทยาศาสตร์สังคมสามารถวิเคราะห์พฤตกรรมของมนุษย์ได้
แต่ปีศาจไม่มีร่างทางกายภาพ
เราไม่สามารถจับมันเข้าไปในหลอดทดลองหรือวัตถุใดเพื่อวิเคราะห์มันได้
นักวิทยาศาสตร์ทำได้แต่เพียงสังเกตผลกระทบจากการกระทำของปีศาจที่มีต่อโลกทางกายภาพหรือที่มีต่อพฤตกรรมของมนุษย์เท่านั้น
นักวิทยาศาสตร์พยายามหาคำอธิบายในเรื่องของปีศาจแต่ก็ยังมีคำอธิบายที่ไม่เพียงพอที่จะมาถกเถียงกับทางคาทอลิก ในพระคัมภีร์มีคำพูดมากมายซึ่งยืนยันถึงการมีอยู่ของปีศาจและอาณาจักรของมัน ในพระวรสารก็กล่าวถึงการที่พระคริสต์เองทรงเผชิญหน้ากับซาตานและทรงพูดกับมันด้วย การที่พระเยซูเจ้าตรัสกับซาตานในที่เปลี่ยวนั้นไม่ใช่เป็นการพูดกับพระองค์เองภายในจิตใจ
พระคริสต์ทรงพูดถึงปีศาจในหลายโอกาส และยังขับไล่มันออกจากคนที่มันสิงด้วย
บางคนบอกว่าการที่พระคริสต์ทรงขับไล่ปีศาจนั้น พระองค์เพียงแต่รักษาความเจ็บป่วยทางร่างกายและทางจิตของบุคคลผู้นั้นซึ่งทำให้เขาเข้าใจผิดว่าเป็นเพราะถูกปีศาจเข้าสิง แต่ผมขอแก้ความคิดนี้ว่า
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พระเยซูทรงขับไล่ปีศาจออกจากคนที่มันสิงและให้มันไปสิ่งอยู่ในสัตว์แทน คุณไม่สามารถขับไล่ความเจ็บป่วยให้ไปอยู่ในหมูแทนได้หรอก ความมีอยู่ของพลังอำนาจของปีศาจเป็นคำสอนที่มีอยู่ในพระศาสนจักรคาทอลิกมาตั้งแต่เริ่มแรก
ซึ่งสืบทอดจากพระคริสต์มายังอัครสาวกและผู้สืบทอดต่อๆมา พวกท่านได้พูดและเขียนเกี่ยวกับซาตานไว้ หลายศตวรรษที่ผ่านมาบรรดาปีตาจารย์ พระสันตะปาปา และการประชุมสังคายนา ก็ได้ยืนยันว่าซาตานและปีศาจมีอยู่จริง
------------------------------
Zoe Romanowsky is lifestyle editor and video content producer at
Aleteia
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น