โดย แคที่ โนแลน
ฉันต้องการแบ่งปันประสบการณ์การกลับใจของชายที่ชื่อโจ
แคมโปขณะที่มาแสวงบุญที่เมดจูกอเรจ์ เขาได้ให้สัมภาษณ์กับคุณพ่อ เกลน ซูดาโน ในรายการ Fruit Show
171 ฉันดูรายการนี้ใน channel today
ลองฟังคำพูดของเขาดู
เมื่อโจมาที่เมดจูกอเรจ์เป็นครั้งแรก
เขามีประสบการณ์ที่พิเศษมาก
“ผมนอนหลับไปในตอนบ่าย เลยพลาดการได้เห็นการประจักษ์ซึ่งเกิดขึ้นในตอนเย็น
18.45 น. ผมพักอยู่ในห้องใต้หลังคา เมื่อผมตื่นขึ้นมาและพูดกับตัวเองว่า
“ดูเหมือนจะพลาดได้เห็นการประจักษ์เสียแล้ว ฉันมาที่นี่ก็เพื่อสิ่งนี้ แต่ก็พลาดไป”
ผมรู้สึกโมโหตัวเอง
ผมลงไปที่ห้องครัวและมองออกไปนอกหน้าต่าง ผมเห็นผู้คน (เพราะยังมีแสงอยู่)
กำลังเดินขึ้นไปบนภูเขา มีแสงไฟนับพันดวงที่กำลังขึ้นไป
ผมจึงถามคนในห้องครัวว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือ?
พวกเขาบอกว่า “จะมีการประจักษ์พิเศษในคืนนี้
คุณไม่รู้หรือ?” ดังนั้นผมจึงรีบเอาไฟฉายมาและติดตามฝูงคนเหล่านั้นไปทันที
ผมไปถึงเชิงเขาอย่างรวดเร็วและเริ่มปีนขึ้นไป
ผมไปสายมากแล้ว นั่นอาจเป็นเวลา 21.30 น. ผมจึงรีบปีนเขาขึ้นไปให้เร็วที่สุด
ในที่สุดผมก็มาถึงยอดเขา ผู้คนกำลังร้องเพลงของแต่ละภาษาที่แตกต่างกัน
มันน่าประทับใจมาก ผมถามบางคนเป็นภาษาอังกฤษ “ผู้เห็นแม่พระอยู่ที่ไหน?”
มีคนตอบมาว่า “คุณกำลังยืนอยู่ใกล้กับเขา” ผมจึงมองหาและก็พบว่าผมกำลังยืนอยู่กับผู้ที่เห็นแม่พระประจักษ์ ผมนั่งลงใกล้ๆเอนหลังลงเล็กน้อย บรรยากาศดีมาก คุณจะได้ยินเสียงเพลงในภาษาต่างๆกัน
และบางคนสวดสายประคำในภาษาต่างๆกัน ผมรู้สึกประทับใจกับทุกสิ่งที่ประสบ
และในเวลา 23.00 น. เราได้ยินเสียงคนบอกให้เงียบ
เพราะแม่พระกำลังมาถึง
ผู้เห็นแม่พระคุกเข่าอยู่
ในเวลาที่แม่พระประจักษ์มานั้น เสียงต่างๆเงียบหายหมด มันเงียบสนิทเลย ไม่มีเสียงเพลงเลย ไม่มีแม้แต่เสียงจิ้งหรีด ไม่มีเสียงใดๆทั้งสิ้น
ผมเฝ้ามองผู้เห็นแม่พระ และในทันทีทันใด
มีบางอย่างเกิดขึ้นกับผม ความคิดบางอย่างเข้ามาในหัวของผม
และผมได้รับประสบการณ์การกลับใจ
ผมไม่รู้ว่าประสบการณ์นี้เป็นอะไรจริงๆ
ผมได้แต่ก้มศีรษะลงและเริ่มร้องไห้ ผมร้องไห้นานอาจประมาณ 20 นาที
สาเหตุที่ผมร้องไห้นั้น ผมรู้ แต่คนอื่นไม่รู้
แต่ในเวลาเดียวกันผมรู้สึกถึงสันติสุขอันยิ่งใหญ่ เป็นความยินดีที่ยิ่งใหญ่ทีเดียว
และผมคิดว่าผมรู้สึกถึงความรักเป็นครั้งแรก...ความรักอันแท้จริง...ความรักที่แท้จริง
ก่อนที่ผมจะมาที่เมดจูกอเรจ์
ผมยึดติดกับโลกมาก ผมมีบริษัทของตัวเอง
เงินเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผม
วัตถุสิ่งของเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผม ผมมีความเชื่อในพระเจ้าอย่างแท้จริงเสมอมา แต่ผมไม่ได้ไปโบสถ์ ผมเชื่อในพระเจ้า
แต่ผมไม่ได้ปฏิบัติตามพระบัญญัติสิบประการ
ผมเชื่อในพระเจ้า และนั่นก็เป็นการเพียงพอแล้วสำหรับผม ผมรู้เสมอมาว่ามีพระเจ้า และผมได้ติดตามพระองค์หรือไม่?
ไม่เลย
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ในระหว่างประสบการณ์การกลับใจของผมขณะที่แม่พระประจักษ์มา นั่นก็คือ ทุกสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในพระศาสนจักรคาทอลิกนั้นเป็นความจริง มันเป็นสัจธรรม และผมก็ได้แสวงหาความจริงนี้ตลอดชีวิตของผม
และคำตอบก็อยู่ที่นี่แล้ว ผมได้เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์ในเวลานั้น
ในเวลาที่ผมร้องไห้ มีบางคนพูดกับผมว่า “คุณโอเคไหม?”
ผมตอบว่า “ผมไม่เคยรู้สึกดีเท่ากับเวลานี้มาก่อนเลย” มันพิเศษมากๆ อารมณ์สองอย่างเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ผมรู้สึกเสียใจเป็นอันมากในบาปของผมด้วย และผมรู้อย่างแท้จริงเป็นครั้งแรกว่ามันคืออะไร
ผมเสียใจในตัวเองและรู้ว่าผมต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง
และถึงแม้ว่าผมจะอยู่ในบาปทั้งหมดของผม
ผมก็รู้ด้วยว่าพระเป็นเจ้าทรงให้อภัยแก่ผมแล้ว และผมรู้ว่าผมไม่สมควรได้รับ
ความรู้สึกทั้งหมดนี้ท่วมท้นในตัวผม ผมรู้ว่ามันไม่ได้เกิดกับผมเท่านั้น
ผมรู้ว่าผมต้องเปลี่ยนแปลงและมันเป็นเรื่องใหญ่โตมาก มันไม่ใช่เฉพาะผม หรือนิวยอร์ก
หรือเมดจูกอเรจ์ มันใหญ่โตมาก
มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับโลกทั้งโลก และผมรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยนักที่แม่พระทรงเสด็จมาหาผม
(โรซี่ถามเขาว่า “คุณรู้สึกถึงความรักของแม่พระเป็นพิเศษต่อปัจเจกบุคคล แต่ก็ยังรู้ว่านั่นสำหรับทั้งโลกด้วย”)
ใช่ครับ ในเวลาเดียวกัน เคยมีคนถามผมว่า
ผมมีความสัมพันธ์กับพระคริสต์เป็นการส่วนตัวบ้างไหม ผมคิดว่านั่นไร้สาระ แต่ในเวลานี้ผมมีความสัมพันธ์นั้นแล้ว มันไม่ได้มาจากความกลัว พระองค์ทรงรักผม ทรงรักผมในความบาปของผม และผมได้รับโอกาส โอกาสที่จะเป็นคนดี และผมต้องการใช้โอกาสนั้น
ฉันคิดว่า โจพูดถูก นั่นคือประสบการณ์ที่เขาได้รับนั้นเป็นการส่วนตัวสำหรับเขาโดยเฉพาะ แต่นั่นเป็นส่วนหนึ่งของแผนการณ์ในการเปลี่ยนแปลงโลกซึ่งแม่พระทรงกระทำในเมดจูกอเรจ์ นี่เป็นเรื่องที่ใหญ่โตมาก ใหญ่โตจริงๆ แม่พระจะทรงเปลี่ยนแปลงโลกพร้อมกับพวกเรา
เรากำลังอยู่ในเทศกาลมหาพรต และมหาพรตคือเวลาแห่งการกลับใจ ขอบคุณโจสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ของคุณ
ขอให้เราทุกคนได้พบกับแม่พระและเปลี่ยนแปลงตัวเองในเทศกาลมหาพรตนี้
เยซู มารีย์ โยเซฟ
แคที่ โนแลน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น